บทที่ 44
สวัสดีครับกลับมาจากหาดใหญ่เรียบร้อยแล้ว ด้วยการบินไทย นั่งสบายมากกว่า นก
นะครับ เพราะเค้าเป็นเจ้าอากาศอยู่แล้วเครื่องบินก็ดี ขากลับได้นั่งเครื่องใหญ่มา
เพราะเครื่องไม่มี เป็นเครื่องที่บินระหว่างประเทศ
เครื่องใหญ่จะบินนิ่งกว่าเครื่องเล็ก ไม่รู้สึกเท่าไร เอามาเริ่มกันดีกว่า
คราวที่แล้วคุยเรื่องดาวสะท้อนกันอยู่ขอต่ออีกนิดหนักการสะท้อนของดาวมีสองแบบด้วยกันคือสะท้อนแกนเมษ
กับแกนกรกฏ บางสำนักก็บอกว่าต้องสะท้อนแกนเมษถึงจะถูก
บางสำนักก็ให้สะท้อนแกนกรกฏ
แต่การสะท้อนของดาวจะสะท้อนแกนไหนผมว่าก็เหมือนกันเพราะต่างกันที่มุมดาว
ส่วนมากในทางปฏิบัติ เค้าจะใช้แกนเมษมากกว่า
แต่แกนกรกฎเอาไว้ใช้หลักการสะท้อนของเรือนชะตามากกว่านะครับ เข้าใจกันไว้หน่อย
แต่สมัยก่อนผมก็ใช้สะท้อนแกนกรกฏ ต่อมาเล่นมุมมากขึ้น
เลยทำโปรแกรมให้สามาเรียกการสะท้อนทั้งสองแบบเลยหมดเรื่องกันไปใครอยากสะท้อนแกนไหนก็เลือกได้ตามชอบใจ
และแกนเมษก็สามารถปรับได้ให้แกนเมษไปอยู่จุดไหนของสี่มุมได้ ตามตั้งการ
บางคนบอกว่าแกนเมษต้องอยู่ใต้ เราก็ปรับได้
สะดวกขึ้นนะครับถ้ามีโปรแกรมช่วยในการทำนาย
เครื่องมือสำคัญมากท่านต้องหัดใช้ให้คล่องแล้วจะรู้ว่าโปรแกรมของเราไม่น้อยหน้าใครทำได้หมด
เมื่อวานก็แก้เรื่องจานเก้าวงอยู่ให้อ่านได้ง่ายขึ้นไม่สับสน
การทำอะไรก็ต้องปรับปรุงไปจนอยู่ตัวมันก็ยาก คนขอมาก็ปรับให้
เพราะถือว่าเป็นการช่วยกันพัฒนาให้โปรแกรมดีขึ้น พอผู้ใช้
ถึงโปรแกรมเราเครื่องมือมากที่สุดก็ว่าได้มีหมดทีโหราศาสตร์นี้ต้องการ
มาคุยดาวสะท้อนกันก่อนพูดมากไป ท่านที่มาใหม่
อยากเป็นให้เริ่มอ่านตั้งแต่บทแรกไปแล้วท่านจะเข้าใจให้อ่านซ้ำ ๆ หลาย
ครั้งแล้วจะเข้าใจเองนะครับ
เรื่องพิมพ์ผิดอาจมีบ้างเพราะทำอยู่คนเดียวทำแล้วก็เช็คแต่บางทีก็มีผ่านไปได้
เพราะสายตาไม่ค่อยดีแล้วและความคิดจะวิ่งออกมาบางทีมือมันไม่ทันต้องขออภัยด้วยนะครับ
เอามาเข้าเรื่อง ดาวสะท้อนในดวงไทยไม่ไม่แต่เมืองนอกเค้าเล่นกัน
ถือว่าเป็นเรื่องการการขยาย มีทั้งจุดเจ้าชะตาสะท้อน ดาวเคราะห์สะท้อน
ถ้าเล่นเล่นดาวเคราะห์สะท้อนก็จะบอกรายละเอียดเรื่องที่เราสนใจได้มากขึ้น
ส่วนจุดเจ้าชะตาสะท้อนก็จะบอกถึงเรื่องที่จะเกิดกับตัวเรา ก่อนอื่น
ดาวจรต้องทำมุมกับจุดเจ้าชะตาสะท้อนหรือโค้งมาทำมุมก็ทำงานแล้ง หรือจุดอิทธิพล
ศูนย์รังสีก็ได กลุ่มดาวก็ได้
กลุ่มดาวบางคนอาจไม่เข้าใจบางดวงชะตาเกิดมามีกลุ่มดาวมารวมตัวกันมาก ๆ
ตั้งแต่สามขึ้นไปก็ถือว่ามีผลต่อเจ้าชะตาและยิ่งมีจุดเจ้าชะตาเข้ามาด้วยยิ่งแรงใหญ่
อย่าลืมการเดินของดาวจะเดินซ้ายเสมอแต่ราหูเดินไปทางขาวซึ่งต่างกับดาวเพราะเค้าเป็นเงา
ต้องเดินตรงข้ามกับดวงจันทร์ครับ
ก็เป็นที่มาของการอ่านดาววิ่งเข้าหาที่มีความแรงพอๆ กับการวัดมุมทั่วไป
คราวหน้าจะมาอ่านดาววิ่งเข้าหาง่ายในการแปลดาว
ส่วนมากคนจะมาจบตรงการผมดาวตายกันตรงนี้รู้แต่อ่านไม่ถูกเป็นเรื่องคนหัดใหม่เจอกันมาก
ทุกคนต้องเป็นใหม่ ๆ ไม่รู้จะเริ่มอะไร ตรงไหน ใจเย็นเราจะบอกท่านไป
จบท่านก็เก่งแล้ว วันนี้แค่นี้ก่อนนะครับ เขียนไปเขียนมาเข้าไปบทที่ 44 แล้ว
วันนี้มีเรื่องอะไรจะเล่าให้ฟัง ที่ได้จากไปหาดใหญ่ไปทำพิธีให้ขายที่ได้ เค้าจ้างไป
ไม่คงไม่ได้ขึ้นเครื่องบิน คราวนี้เอาของแรงไป ฝังไปวันเดียวได้เรื่อง
ที่ดินที่อยู่ระหว่างการตัดสินที่จังหวัดยึดไปเพราะเจ้าของไม่ได้ทำอะไร
เลยขายไม่ได้เพราะเป็นของหลวงไป
ไปศาลก็ตอนนี้เหลือศาลสุดท้ายพอทำไปวันเดียวได้เรื่องอะไรเกิดขึ้นไม่แน่เชื่อแต่ก็ตั้งเชื่อ
ต่อพรุ่งนี้นะครับ
บทที่ 45
วันนี้เรามาพูดเรื่องสีประจำราศีและอัญมณีกันนิด เพราะมีคนขอมา เริ่มกันเลย
ราศีเมษก่อน การตัดช่วงเวลาให้ไปดูช่วงต้น ๆ จะมีบอก การใช้สีอาจใช้กับการแต่งตัว
เสื้อผ้า รถ ที่อยู่ หน้าตา ควรใช้สีอะไรจะทำให้คนเกิดราศีนั้นมีเสน่ห์
ร้อนแรงมากขึ้นและเสริมดวงชะตาว่าเข้าไปนั่นทดลองดูนะครับ ดีกว่าไม่รู้อะไรเลย
สามารถนำไปแต่งหน้าทาปาก เขียนคิ้ว ฯลฯ บนใบหน้าได้ เป็นอย่างดี
ให้เหมาะกับราศีท่านแล้วท่านจะมีจุดเล่นเป็นของตัวเอง
ดีกว่าแต่ไปใช้สีไม่ถูกต้องอาจทำให้โชคลาภน้อยลงไปทำอะไรก็ไม่เข้าเป้ามากนักทดลองดูแต่ถ้าอยากเปลี่ยนสีน้ำวันก็มีเอาไว้ครั้งต่อไปนำครับ
และเรื่องอัญมณีก็สำคัญมากใครได้ใส่อัญมณีประจำราศีจะก่อเกิดโชคลาภให้กับตัวเองและคุ้มครองตัวท่านด้วย
และอาจมีคนถามว่าฉันชอบเพชร ทั้ง ๆ ที่เกิดราศีมังกร แล้วจะเป็นอย่างไร
ก็ไม่เป็นอะไร บางทีก็อาจเอาไว้รักษาโรคได้
อัญมณีแต่ละสีที่ท่านสวมใส่ไว้จุดใดจุดหนึ่งของร่างกายจะทำการักษาสุขภาพไปในตัว
ส่วนเรื่องรักษาโรคบางโรคต้องไปดูเรื่อง อัญมณีกับสุขภาพนะครับ
วันนี้เอาสวยดีไว้ก่อนนะครับ
ราศีเมษ
สีประจำราศี
: แดง แสด
อัญมณี :
เพชร (Diamond)
ราศีพฤษ
เหลืองอมเขียว เขียวอ่อน
อัญมณี : มรกต
(Emerald)
ราศีมิถุน
สีประจำราศี : เขียว
ฟ้า เทา
อัญมณี :
ไข่มุก (Pearl) อะเล็กซานไดรท์ (Alexandrite)
ราศีกรกฏ
สีประจำราศี : เขียวขาว
ฟ้า น้ำเงิน
อัญมณี : ทับทิม
(Ruby
)
ราศี สิงห์
สีประจำราศี : ส้ม เหลืองทอง แดง
อัญมณี : เพอริโด (Peridot) เพชร (Diamond
)
ราศีกันย์
สีประจำราศี :
เขียวหยก เทา น้ำตาล ดำ น้ำเงินเข้ม
อัญมณี : หยก (Jadeite) ไพลิน (Blue Sapphire)
ราศีตุลย์
สีประจำราศี : ฟ้า น้ำเงิน
อัญมณี : โอปอ (Opal )
ราศีพิจิก
สีประจำราศี :
แดงเข้ม ชมพู น้ำเงิน
อัญมณี : โทปาซ (Topaz) ซิทรีน (Citrine )
ราศีธนู
สีประจำราศี :
ม่วง เขียว เหลือง
อัญมณี : เทอร์ควอยส์ (Terquoise )
ราศีมังกร
สีประจำราศี :
เหลือง น้ำตาล อิฐ
อัญมณี : โกเมน (Garnet)
สปิเนล (Spinel) ทับทิม (Ruby)
ราศีกุมภ์
สีประจำราศี :
ม่วงคราม ฟ้า แดง
อัญมณี : อะมิทิตส์ (Amethyst) พลอยสีแดง
ราศีมีน
ประจำราศี
: เขียวน้ำทะเล ม่วง แดง
อัญมณี : อะความารีน (Aquamarine)
การใช้สีประจำวันเกิดท่านสามารถเปลี่ยนจากราศีก็ได้
วันอาทิตย์
สีแดงสด สีเขียว อัญมณีทับทิม มรกต ธาตุทองคำ ปรอท
ส่วนที่ต้องห้ามเด็ดขาดประจำวันนี้คือ สีฟ้า อัญมณีเพ็ชร
ธาตุทองแดง
วันจันทร์
สีขาวนวล สีเหลืองอ่อน สีดำ อัญมณีไข่มุกข์ นิล ธาตุเงิน
ตะกั่ว ส่วนที่ต้องห้ามเด็ดขาดประจำวันนี้คือ สีแดงสด
อัญมณีทับทิม ธาตุทองคำ |
|
|
วันอังคาร
สีแดงแก่ (แดงเลือดนก) สีชมพู สีเหลืองแก่ สีส้ม
อัญมณีโกเมนทร์ บุษราคัม ธาตุเหล็ก สังกะสี
ส่วนที่ต้องห้ามเด็ดขาดประจำวันนี้คือ สีขาวนวล
สีเหลืองอ่อน อัญมณีไข่มุกข์ ธาตุเงิน
วันพุธกลางวัน สีเขียวใบไม้
สีทองสัมฤทธิ์ สีม่วงเม็ดมะปรางค์ อัญมณีมรกต โมรา
ทับทิมกินบ่อเสี้ยง ธาตุปรอท ดินและหิน
ส่วนที่ต้องห้ามเด็ดขาดประจำวันนี้คือ สีแดงแก่ (แดงเลือดนก)
สีชมพู อัญมณีโกเมนทร์ ธาตุเหล็ก |
|
|
วันพุธกลางคืน
สีทองสัมฤทธิ์ สีม่วงเม็ดมะปรางค์ สีขาวนวล สีเหลืองอ่อน
อัญมณีโมรา ทับทิมกินบ่อเสี้ยง ไข่มุกข์ ธาตุเงิน
ดินและหิน ส่วนที่ต้องห้ามเด็ดขาดประจำวันนี้คือ
สีเหลืองแก่ สีส้ม อัญมณีบุษราคัม ธาตุสังกะสี
วันพฤหัส สีเหลืองแก่ สีส้ม สีแดงสด
อัญมณี บุษราคัม ทับทิม ธาตุสังกะสี ทองคำ
ส่วนที่ต้องห้ามเด็ดขาดประจำวันนี้คือ สีดำ อัญมณีนิล
ธาตุตะกั่ว
วันศุกร์ สีฟ้า สีแดงแก่ (แดงเลือดนก)
สีชมพู อัญมณีเพ็ชร โกเมนทร์ ธาตุทองแดง เหล็ก
ส่วนที่ต้องห้ามเด็ดขาดประจำวันนี้คือ สีทองสัมฤทธิ์
สีม่วงเม็ดมะปรางค์ อัญมณีโมรา ทับทิมกินบ่อเสี้ยง
ธาตุดินและหิน
วันเสาร์ สีดำ สีฟ้า อัญมณีนิล
เพ็ชร ธาตุตะกั่ว ทองแดง
ส่วนที่ต้องห้ามเด็ดขาดประจำวันนี้คือ สีเขียวใบไม้
อัญมณีมรกต ธาตุปรอท |
|
|
บทที่ 46
หมดไปอีกหนึ่งเดือนแล้วเร็วมากเวลาบนพื้นโลก นับวันเราก็แก่ไปป่วยไป ตายไป
ตามกฎธรรมชาติ ที่มีเกิด แก่ เจ็บ ตาย ทุกคนหนีไม่พ้นไม่ว่าสัตว์โลกใด ๆ
ตามคำสั่งสอนของพระองค์ท่าน ผู้รู้แจ้ง ทุกอย่างบนโลกใบนี้
เราก็รู้เหมือนกันแต่รู้ไม่เท่ากับท่านแต่ก็ดีกว่าไม่รู้อะไรเลย
การเรียนวิชาโหราศาสตร์ เป็นสิ่งที่ทำให้เราได้ระวังอย่าเดินทางผิด ทำดี คิดดี ไว้
ทุกอย่างจะดีหมด ไม่ต้องดูดวงก็ได้ถ้าเราทุกคนตั้งอยู่ในความดีแล้ว
การที่จะเป็นนักโหราศาสตร์ได้ท่านต้องมีจุดนักโหราศาสตร์
ma+po-ap
ถ้ามีจุดนี้ดีแน่ เป็นจุดผู้หยั่งรู้ดินฟ้าอากาศ
จะแรงกว่าจุดนักโหราศาสตร์ ur+ap-su จุดนี้คนที่จะเรียนจะต้องมีทางเราถึงจะรับเข้าเรียนเพราะต้องดูพื้นฐานกรรมเก่ามาด้วยว่าเคยมาทางนี้ไหมถ้ามีถึงรับ
เหมือนคนเราไม่เคยทำอะไรเลยมาให้ทำก็จะออกมาไม่ดีเท่าที่ควร
ดังนั้นชาติที่แล้วย่อมส่งผลถึงปัจจุบันที่ท่านเป็นอยู่ก็ได้
ท่านอาจแย้งมาว่าเราทำคอมฯ ชาติที่แล้วไม่มี
เราก็อาจทำเรื่องเกี่ยวกับอะไรที่ทันสมัยในสมัยก่อนมาก็เลยมาเก่งทางด้านคอมไป
ทุกอย่างธรรมชาติได้กำหนดมาเป็นเส้นตรงอยู่แล้ว
เราสามารถแก้ทางมันได้ถึงมาเรียนวิชานี้กันเพื่อเปลี่ยนเส้นทางน้ำไหลไปในเส้นทางที่เราต้องการแต่เปลี่ยนไปในหนทางที่ดีนะครับอย่าไปทำไม่ดีจะบาป
ชาติที่แล้วมีจริงเอาไว้จะคุยเรื่องกรรมเก่าชาติที่แล้วให้ฟัง
น่าสนใจมากท่านนำไปดำเนินชีวิตท่านได้เลย
บทที่ 47
วันนี้คงมาคุยกันเรื่อง การผสมดาวกันดีกว่า
เพราะมีหลายคนที่สามารถอ่านดาวได้แต่ยังผสมดาวแล้วพูดออกมาไม่ได้เป็นเรื่องให้คนมาดูฟังได้
เพียงแต่รู้ว่าดีไม่ดี เท่านั้นรู้ว่าเรื่องนี้วันจะเกิด
มาก็ไม่มีอะไรมากท่านทราบอะไรก็หัดพูดออกมาก่อนสั่นยาวไม่สำคัญ เอาจุดใหญ่
ขึ้นว่าปีนี้ท่านอาจขายที่ดินได้ เจ้าชะตาก็อาจดีใจและถามท่านต่อว่าเมื่อไร
ท่านก็มีทางพูดไปได้
ทางที่ดีคือคนดูต้องพูดด้วยมีการแลกเปลี่ยนความรู้กันในเรื่องนั้น ๆ
ถ้าเจอไม่พูดอะไรเลย
เราก็เอาเรื่องสำคัญในรอบปีที่จะเกิดมาพูดเช่นเรื่องสุขภาพปีนี้อาจบอกเจ้าชะตาว่า
ปีนี้สุขภาพท่านไม่ค่อยดีนักมีเวลาก็ไปพบแพทย์เช็คดูบ้างส่วนไหนเราก็หาไปตามที่เรียนมา
คือหาเรื่องคุยให้ได้ก่อนให้เค้าสนใจ
คือคนมาดูเค้าต้องมีเรื่องทุกข์ร้อนอยู่ไม่แล้วคงไม่มานักเสียเงินแน่
แต่ก็มีหลายท่านที่ไม่มีอะไรทำก็มานั่นดูเล่นถามว่าปีนี้จะเป็นอย่างไร
อย่างนี้ปวดหัวแน่ ก็เล่นกับเค้าได้
เราก็คุยเรื่องแรงที่อาจจะเกิดแต่ใช้คำว่าน่าจะเกิดกับเค้าขึ้นต้นจะดีว่า
จะทำให้เค้าสนใจมากขึ้นแล้วก็ทำหน้าตาไม่สนใจดูไป
ถ้าชอบเรื่องเรือนชะตาก็เอาเรือนมาพูดได้เป็นเรือนไปเรือนไหนแรงเช่นดาวเสาร์จรอยู่ในเรือนที่สอง
ก็อาจบอกเค้าให้ระวังเรื่องการใช้จ่ายเงินในระยะนี้หน่อย
อาจมีปัญหาเรื่องเงินก็ได้เค้าก็เริ่มสนใจและอาจถามต่อไปว่าจะดีเมื่อไร
ถ้ามีการถามก็เข้าเป้าแล้วเค้าเริ่มสนใจ เราเอาเรื่องปากท้อง กับสุขภาพ งาน เงิน
มานำขึ้นก่อนจะดีกว่า หน้าสนใจทำให้คนมาดูสนใจในตัวเรา หรือเรื่องงาน ก็ใช้ได้
หรือถ้าเป็นพื้นดวงก็อ่านดาวเด่นในพื้นดวงว่าเจ้าชะตามีนิสัยเป็นอย่างไร
เช่นใจร้อนไหม สุขภาพไม่ค่อยดี คิดมากหรือเปล่าเป็นต้น
เป็นเรื่องที่เราต้องคุยอย่าเอาดาวมาคุยเค้าจะไม่ทราบและก็ไม่สมควรพูดเพราะคนดูไม่รู้เค้าจะหาว่าเราดูไม่รู้เรื่อง
เราดาวเสาร์มาอยู่เรือนที่แปด และไม่แปลให้เค้าเข้าใจว่าเจ้าดาวเสาร์มันคืออะไร
เรือนที่แปดคืออะไร
เราก็อาจบอกจากภาษาดาวเป็นภาษาคนไปเลยว่าท่านอาจได้รับของมีค่าบางอย่าง
พูดแบบนุ่มสุด เอาไว้ต่อพรุ่งนี้นะครับยังมีอีกการผสมดาว ทั้งพื้นดวงและจร
บทที่ 48
หายไปหลายไม่สามารถเข้ามาเขียนเรื่องให้ท่านได้เนื่องจากเครื่องติดไวรัส
เรียกช่างมาซ่อมอยู่หลายวันถึงจะทำงานได้ และออกรายการเพลงได้
ตอนนี้ใครว่างก็เข้ามาฟังเพลงได้นะครับเวลา 20-21 น. เกือบทุกวัน
ถ้าไม่ติดงานจะมาจัดให้ฟังเข้ามาใน
web แล้วไป on
air แล้วไป
คลิกจนนั้นก็จะมีกระดานเพลงออกมาให้ท่านรับฟังได้ใครเป็นแฟนเพลงยอดนิยมเก่าสากลนะครับไม่ใช่เพลงไทยเดิม
เข้ามารับฟังได้นะครับ มาเข้าเรื่องกันดีกว่า วันนี้เราจะมาคุยเรื่องการผสมดาวต่อ
มีหลักง่าย ๆ
อยู่ว่าเมื่อท่านตั้งดวงจุดแรกจะมีดาวเด่นหรือจุดเด่นในพื้นดวงของเจ้าชะตาขึ้นมา
เราก็เอามาใช้พูดได้ เช่นผมไปเจออยู่ดวงหนึ่ง อังคารทับเมษ =
90 กับ อาทิตย์ อย่างนี้ทายได้ง่าย ๆ ว่าเจ้าชะตาเป็นคนดุ หรือใจร้อน ไม่ยอมใคร
แน่นอน และก็เป็นจริงถามเพื่อเค้าดูก็ว่าสามารถทำให้แฟนผู้ชายเชื่อฟังได้เลย
ดวงอย่างนี้เค้าเรียกดวงนักรบ ดวงจะแรง
และถ้ามีอะไรไม่ดีเกิดจะเกิดแรงมากกว่าคนอื่น ๆ แต่เราอ่านง่าย และก็ไปผสมเป็นส่วน
ๆ ที่เราสามารถอ่านได้
ส่วนไหนอ่านยังไม่ได้ก็ปล่อยไว้ก่อนอ่านเท่าที่อ่านได้ออกมาก่อนเพราะจุดสำคัญการอ่านถ้าอ่านถูกต้องแล้วอ่านตรงไหนมันก็จะกลับมาที่เดิมคือบอกเรื่องจริงให้เราทราบ
ถึงจะไม่ตรงมากนักก็เข้าเป้ามากทีเดียว ใหม่ๆ หัดหาจุดเด่นในพื้นดวงให้ได้ก่อน
เจอแล้วจับหลักไว้แล้วค่อยขยายความออกไปให้ได้ ให้ศูนย์รังสี จุดอิทธิพล
เข้ามาช่วยอ่านก็ได้แต่เป็นพื้นดวงนะครับ
เพราะพื้นดวงเป็นจุดที่บอกชีวิตเค้าทั้งชีวิตแต่แต่เกิดจนตาย
แต่รอเวลาว่าเวลาไหนมันจะเกิดขึ้น เช่น พฤหัสเค้า ตอนเด็กอาจยังไม่ทำงานมาทำงานตอน
40 ปี ก็ได้ ถึงรวย หรือดาวve เด่น
ก็ไม่ใช่ว่าเกิดมาจะได้แต่งงานเลยทุกอย่างต้องรอเวลาสุกของดาวหรือเราสามารถดูได้จากโค้งฯ
รายปีนั้นเองก็จะรู้ว่าเค้ารวย แต่งงานเมื่อไร ปีไหน ได้ไม่ยาก
แต่ถ้าเป็นเด็กก็ต้องรอเวลาให้โค้งเค้าทำงานก่อนนะครับพอไหวไหม
ไม่เข้าใจคราวหน้าเจอกันใหม่ มีต่อครับ เรื่องนี้ยาว
บทที่ 49
วันนี้มาต่อกันเรื่องเดิมนะครับของขออภัยด้วยเพราะ
ระบบเครื่องเสียอีกแล้วพอดีเค้าเปลี่ยน
speed
ความเร็วบางท่านเข้าไม่ได้ก็ไม่ว่ากันนะ มาเข้าเรื่องกันดีกว่า
การผมดาวได้กันหรือยัง มีการอ่านอีกแบบหนึ่ง
ซึ่งใช้ได้เหมือนกันคืออ่านแบบดาววิ่งเข้าหา ระยะวังกะไม่สำคัญ ตรงนี้น่าสนใจ
เค้าจะบอกถึงสิ่งที่จะเกิดในชีวิตได้ว่ารวย หรือจนตอนไหนได้ เหมือนกัน
ชีวิตเราต้องเดินอย่างไร ทำอาชีพอะไรดี เป็นต้น
การอ่านก็ให้อ่านดาวพื้นดวงวนซ้ายเสมอ เพราะดาวเดินซ้ายอยู่แล้ว
เราอาจอ่านตั้งแต่จุดเมษมาเลยหรือจุดไหนที่น่าสนใจ
เราก็เอาดาวนั้นมารวมกันเราก็ได้ความหมายของเจ้าชะตาแล้ว เช่น su
ห่างจาก ve 5 องศา
ก็อาจพูดได้ว่าเจ้าชะตาเป็นคนมีเสน่ห์หรือหน้าตาดีเป็นต้น
มีดาวรวมกันอยู่ยิ่งดีอ่านง่ายอ่านไปทีละตัวแล้วเค้าจะบอกเรื่องชีวิตของเจ้าชะตาให้เราทราบได้
หรือใช้ราศีเข้ามาช่วยได้ด้วย หรืออ่านจากจุดเจ้าชะตาเป็นหลักไว้ก่อนก็ได้
ว่ามีดาวอะไรมาใกล้บ้างดาวนั้นก็มีบทบาทต่อชีวิตเค้าแน่นอน
เช่นมีดาวอังคารอยู่ให้อาทิตย์ 10 องศา
เราก็อ่านได้ว่าเจ้าชะตาเป็นคนใจร้อนก็ได้หรือเป็นคนไม่อยู่นิ่งชอบหาอะไรทำอยู่ตลอดเวลา
นักสู่ ดิ้นไปสู่ความชัยชนะเป็นต้น
การอ่านดาววิ่งเข้าหานี้สามานำไปใช้กับดาวจรได้เช่นกันความแม่นยำในการทำนายไม่แพ้การวัดมุมหรือเรือนชะตาเลยถ้าอ่านเก่ง
ๆ
อันนี้เป็นการทำนายอีกแบบที่น่าสนใจผมก็ใช้ในการดูประกอบกับการวัดมุมด้วยเพราะเราจะได้มุมมองหลาย
ๆ แบบได้ถึงจะตีดวงเค้าแตก
บทที่ 50
มาต่อเมื่อวันก่อนเรื่องการอ่านดาววิ่งเข้าหา
พื้นดวงเราสามารถมองเห็นชีวิตของเจ้าชะตาได้อย่างดี และแม่นยำ
ว่าเจ้าชะตาจะรวยหรือจน เราก็ดูว่าดาวดีมาก่อนหรือหลังดาวร้าย
ถ้าดาวเสาร์มาก่อนก็บอกว่าจะต้องเคยลำบากมาก่อน และมาพบดาวพฤหัสถึงจะสบาย
เราก็อาจพูดไปว่าเด็กคนนี้ต่อไปต้องสู้ชีวิตก่อนแล้วค่อยสบายก็ได้
หรือบอกว่าท่านเคยลำบากมาก่อน แล้วจะสบายทีหลังก็ได้ พบเรื่องอะไรก่อน
เราจะอ่านจากซ้ายไปขวาดังนั้นสิ่งที่เค้าพบเจอจะต้องมาซ้ายก่อนและจบทางขวามือเสมอ
ในทำนองเดียวกันถ้ามีดาวร้าย ๆ อยู่ด้านซ้ายมาก ๆ
ก็เป็นผลดีกับชีวิตเค้าแกตัวไปจะไม่พบดาวพวกนี้แล้วเพราะเค้าเจอดาวร้ายก่อนดาวดี
พอเข้าใจบ้างไหม
สิ่งที่ท่านทราบมันจะอยู่ในพื้นดวง เราต้องตีพื้นดวงให้แตกก่อน
แล้วถึงมาเรื่องที่เค้าถามว่ามีหรือมไม่ในปีนี้ หรือเดือนนี้ การดีรายปี รายเดือน
รายวัน คงไว้คราวหน้า ไม่ยากถ้าดูรายปีได้รายเดือนก็อ่านเหมือนกัน
เพียงแต่ต้องดีเป็นจังหวะของดวงจันทร์เท่านั้นเอง ถ้าเป็นรายเดือน รายปี
ใช้อาทิตย์เป็นหลักในการดูรายปี รายวันก็ใช้จันทร์จรดู รายนาทีก็ใช้ลัคนา เมริเดียน
จับเอา
บทที่ 51
หลังจากเกิดความวุ่นวายในประเทศไทยสองสามวันที่ผ่านมา ตามดวงเมืองนั้น
ดาวอังคารกำลังเข้าแกนเมษ และตามด้วย มฤตยู และมีดาวศุกร์พักต์อีก
ความวุ่นวายเข้าแกนเมษก็จะโดนกันทุกคนไม่มากก็น้อย
เพราะจุดเมษเป็นจุดเจ้าชะตาจุดหนึ่ง ใครโดนมากน้อยขึ้นอยู่กับจุดเจ้าชะตาอื่น ๆ
ทำมุมถึงจุดเมษหรือไม่เท่านั้น ถ้าโดนมากก็หนักหน่อยนะครับ
แต่ผมดูจากดวงเมืองดูเหมือนเรื่องยังไม่จบลงเพราะดาวอังคารยังไม่เข้าเมษกำลังจะเข้า
ณ วันที่ 20 กว่า นี้ อาจมีอะไรเกิดขึ้นอีกก็ได้
การฝึกดูดาวจรประจำวันก็ให้คำตอบอะไรกับเราบ้านเมืองตัวเราว่าจะเกิดอะไร เมื่อวาน
จันทร์จร 90 องศากับเสาร์กำเนิด ดันไปเปิดเครื่องขึ้นมาจะทำงาน จอเสีย
ตอนนี้มีอะไรก็จะเสียเพราะเสาร์จรทับอาทิตย์อยู่ก็จะส่งผลให้เสียของเสียเงินไม่ก็เสียของรัก
เลยต้องใช้จออีกตัวมาแทนทีแรกนึกว่าเครื่องเสียแต่เปลี่ยนจอแล้วใช้ได้ก็แปลว่าจอกลับบ้าน
ถึงระยะนี้จะไม่ค่อยทำอะไรอยู่แบบเงียบ ๆ
ไม่แล้วจะมีเรื่องให้เสียเงินต้องอดทนให้เสาร์ออกจากราศีกันย์ราศีของข้าพเจ้าก่อนถึงจะกลับอยู่ในสภาพปกติ
ไม่แล้วมีเรื่องตลอด จากการสังเกตมาตั้งแต่มันมาเสียเงินทำบ้าน
ซื้อของไม่ได้อย่างใจ และคนที่เกิดราศีกันย์ส่วนมาก็จะลาออกจากงานกันมาก
และนับต่อไปนี้ราศีที่จะออกงานมากคือราศีกันย์ มีน ต้องมีเรื่องอะไรไม่เรื่องงาน
เดินทาง สุขภาพ
วิธีแก้หรือไม่มีแต่ให้หลบจะดีกว่าหรือยู่แบบเงียบทำจิตให้สงบไม่ต้องรับพลังจากดาวหรือกรรมเก่า
ทำบุญให้มากก็พอช่วยได้ ส่วนมากดาวจรจะทำงานจากพลังงานของดาวที่ส่งมายังตัวเรา
ส่วนกรรมเราดูได้จากโค้งฯ ต่างๆ นะครับ
|