บทที่ 1 

การแยกส่วนต่างๆ ของร่างกาย ลงบนจักรราศี
นักโหราศาสตร์  ได้จำแนกส่วนต่าง ๆ ของร่างกายมนุษย์ลงบนจักรราศี โดยวิธีการ ตามแนวความคิดที่อยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง ของธรรมชาติ โดยสามารถแยกออกมาตั้งแต่
หัว  ไปถึงเท้าได้ และด้วยเหตุนี้เราก็อาศัยดาวบนต้องฟ้าบอกตำแหน่งของโรคต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นกับเจ้าชะตาทั้งพื้นดวง และดาวจร ที่โคจรเข้ามาในราศีของเจ้าชะตาแต่ละคน

ราศีเมษ        หมายถึง  ใบหน้า น้ำดี ตับ ผม ฟัน หู
ราศีพฤษภ     หมายถึง  ลำคอ ระบบหายใจ
ราศีมิถุน        หมายถึง  แขน มือ ปอด ไหล่ บ่า ประสาท
ราศีกรกฏ       หมายถึง  กระเพาะ เต้านม
ราศีสิงห์        หมายถึง
 หัวใจ
ราศีกันย์        หมายถึง
 ลำไส้ กล้ามเนื้อ ประสาท
ราศีตุล            หมายถึง
 
ไต ผิวหนัง
ราศีพิจิก        หมายถึง  อวัยวะเพศ  ระบบขับถ่าย
ราศีธนู          หมายถึง  บั้นเอว ตับ เลือด
ราศีมังกร       หมายถึง   ม้าม  หัวเข่า กระดูก
ราศีกุมภ์        หมายถึง   หน้าแข้ง  ข้อเท้า  ข้อนิ้ว น่อง
ราศีมีน          หมายถึง   เท้า ระบบประสาท
การทำนายเราจะดูจากดวงอาทิตย์ หรือลัคนาก็ได้ ว่าอยู่ในราศีไหนเราก็จะมีส่วนเป็นโรคนั้น แต่ถ้ามีดาวร้าย ๆ เข้าไปอยู่ในราศีต่างๆ ก็มีผลเช่นเดียวกันเช่นมีดาวอังคารอยู่ราศีเมษ เจ้าชะตาอาจมีปัญหาทางด้านสมองก็ได้ ฯลฯ  การทำนายอีกอย่างหนึ่งคือการทำนาย แบบเรือนชะตาเราก็สามารถลงลึกไปได้อีกว่าส่วนไหนของเจ้าชะตา มีปัญหาเช่นเรือนที่หนึ่งของเรือนอาทิตย์ที่เราถือว่าเป็นเรือนแห่งร่างกายไม่ว่าชายหรือหญิง มี ดาวร้าย ๆ อยู่ เราก็ทายได้ว่าเค้ามีปัญหาด้านทางหัว เช่น มีเสาร์อยู่ ก็แปลได้ว่ากระดูกที่หัว เช่น ฟัน หรือส่วนบนของเค้าอาจมีปัญหาได้ ให้เอาความหมายของดาวดวงนั้นมาแปลจากดาวพื้นดวงไม่ใช่ดาวจร ถ้าเป็นดาวจรก็จะบอกได้ว่าเค้ากำลังจะเป็นโรคอะไรที่ส่วนไหน หรือโค้ง ก็บอกได้เช่นเดียวกัน ในการตรวจดวงชะตาด้วยการดูโรคภัยไข้เจ็บนั้นมีความแม่นยำสูง และทำให้เจ้าชะตาได้ไปแก้ไขได้ทัน การดูโรคภัย การเจ็บป่วย การตายจากโลกนี้ส่วนมากจะตรงเป็นส่วนมาก เพราะเกิดจากกรรมเก่า มันหนีไม่ได้ทุกคนต้องเป็น มีแต่เรารู้จะรีบห่างไกลจากโรคนี้
เช่นเราตั้งจุดอิทธิพล
sa+ne-ha ในพื้นดวงว่าเป็นจุดมะเร็งหรือไม่เกิดจุดนี้เข้าจุดเจ้าชะตาเข้าเราก็ควรทำตัวใหม่เช่น สูบบุหรี่ ห่างไกลจากสิ่งที่ทำให้เกิดโรคนี้ก็เหมือนการหนีกรรม การอดทนเป็นการแก้กรรมตามใจปากเราได้ ทานอาหารที่มีคุณภาพเช่นผัก ปลา เนื้อสัตว์ควรลดลงมา ออกกำลังกายเป็นสิ่งที่แก้กรรมได้ดีมากทุกวันหรือเราได้ทำตัวให้ลำบากไว้ เราก็แข็งแรงขึ้นมาทางอ้อม ทางตรงก็แก้กรรมเพราะเราต้องออกแรงทำให้เหนื่อยยากเป็นกฎแห่งการแก้ไขชนิดหนึ่งเราก็จะไม่เป็นโรคนี้หรือเป็นก็น้อย และตรวจเช็คเป็นประจำทุกปีเจอมันก่อนรีบรักษามันก็หาย เหมือนเรารู้ว่าทางนี้เดินไปต้องมีโจรอยู่เราก็อย่าเดินไปก็เท่านั้น การเรียนรู้เรื่องดาว คิดว่าดีเพราะเราจะรู้อะไรล่วงหน้า มีอะไรจะได้แก้ไขจุดเสียได้ทันที ทำไมเราต้องแก้เพราะดาวมีการแก้ไขได้ พระเจ้าสร้างจุดอ่อนมาเราก็เอาจุดนี้มาใช้ ให้ชีวิตเรายืนยาวเพื่อการทำความดีต่อไป แต่กรรมหนีไม่ได้ ต้องใช้ ดังนั้นคนต้องตาย แต่จะตายแบบไหน ช้า หรือ เร็วขึ้นอยู่กับผลบุญที่ท่านสร้างในภพนี้และกรรม ณ ภพที่แล้วจะส่งมาด้วย การทำความดีไว้มาก ๆ เราก็ห่างจากกรรม ณ ภพเก่าได้ เหมือนเรามีเกลืออยู่แก้วหนึ่งถ้าเราดื่มมันไม่ผสมน้ำมันก็เค็ม แต่ถ้าเราผสมน้ำเข้าไปมาก ๆ เหมือนการทำบุญมาก กรรมก็เบาลงแต่เกลือไม่หมดแต่เบาลง เราก็พอรับมือกับมันได้ หวังว่าคงเข้าใจ เราสามารถทราบโรคที่จะเกิดได้เป็นปี หรือหลายปี หรือตั้งแต่เกิดก็เริ่มตรวจเช็คได้แล้ว ma+sa-no  ก็มีผลบอกว่าเราจะไปวันไหน เป็นจุดถึงแก่กรรม ทุกคนต้องมีแต่จะออกมาทำงานเมื่อโค้ง นี้มาถึงจุดเจ้าชะตาและจุดโรคต่าง ๆ มา ท่านต้องระวังสำหรับผู้ที่เรียนโหราศาสตร์อยู่คงเข้าใจจุดอิทธิพลที่มีใช้ถึงห้าพันกว่าจุด ศูนย์รังสีอีก
 

บทที่ 2
 

หลัก การผสมดาว เป็นเรื่องที่ทุกคนที่เรียนใหม่ ๆ ต้องบอกว่ายาก หรือ อาจยอมแพ้ ไปเพราะผสมไปก็ไม่เข้าใจ ถ้าท่านผ่านการผสมดาวสามสี่ดวง ได้ท่านก็เป็นนักโหราศาสตร์ได้ดี แต่เหมือนบททดสอบ การผสมดาวนั้นจริง ๆ แล้วไม่ยาก สำหรับผู้อ่านดาวไม่ออก หรือรู้แล้วพูดไม่ออก ต้องฝึกทุกวัน  การผสมดาวนั้นเป็นเรื่องยากแต่ฝึกได้ ก่อนอื่นเราต้องหา ตัวประธานให้เจอ หรือ เอาดาวเด่นในพื้นดวงมาพูดหรือมันโยงไปถึงดาวหรือราศีอะไรเราก็กล้าพูด เช่น อาทิตย์ พื้นดวง ทับ ดาว เนปจูน เราก็พูดได้ว่าเค้าเป็นคนไม่แข็งแรง หรือเป็นคนที่มีจิตนาการ หรือทำงานเกี่ยวกับสารเคมีก็ได้ เพราะการแปลดาวจะแปลได้หลากหลาย แต่ก็คงไม่พ้นสองสามเรื่องที่กล่าวมา  แล้วค่อยถามเจ้าชะตาว่าเป็นแบบไหน ใหม่ ๆ นะครับ พอแม่นแล้วเราไม่ต้องถามดาวจะคุยกับเราเอง และอยากให้ท่านดูดวงพื้นดวงให้มาก ๆ หัดกล้า ๆ พูด กล้าทำนายไป ดำน้ำไปก่อนและดำแบบมีดาวเป็นตัวบอก คือดำแบบมีทางแนวทาง อย่าดำแบบไม่มีแนวทาง ที่บอกว่าดำน้ำไม่ใช่ให้ท่านดูมั่ว ๆ แต่แรกท่านต้องพูดผิดหรือถูกเป็นครู อย่างไรมันก็จะตรงเป็นส่วนมากแต่ตรงในมุมไหนของการทำนาย  เจ้าชะตาอาจเป็นทั้งสองอย่าง เป็นทั้งโรค และเป็นนักออกแบบก็ได้ เอาไว้ต่อหลังปีใหม่ว่ามีคนสนใจเข้ามาอ่านมากน้อยถ้ามีมากก็จะเขียนให้ท่านเข้าใจ เราจะไม่แบ่งค่าย ๆ ค่ายไหนก็เหมือนกัน ถ้าเรียนโหราศาสตร์ uranian มา แต่ขออย่างเดียวว่าอย่าเอาโหราศาสตร์ไปสอนแบบผิด ๆ หรือสอนเพื่อ หาผลประโยชน์เช่นต้องไปเก็บเงินมากมาย หรือไปหลอกคนเรียนต้องหาซื้อของต่างมาให้เพื่อเป็นการแก้ดวงนั้นไม่ถูกต้อง ทุกคนมีแนวทางเดินเป็นของตัวเองผู้สอนไม่มีสิทธิ์ที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับทางเดินของเค้าเพียงแต่หัดให้เค้าเดินเป็น
 

บทที่3
 

การอ่านพื้นดวงนั้นมีความสำคัญอย่างไร
การที่ท่านอ่านพื้นดวงให้แตกท่านรู้ชะตาชีวิตของเจ้าไปครึ่งหนึ่งแล้วเพราะ พื้นดวงจะแสดงผลตั้งแต่เกิดจนถึงตาย เพียงรอเวลาให้มันทำงานเท่านั้นและอะไรมันทำงานบอกว่าพื้นดวงทำงาน ท่านรู้ไหม คือ โค้งฯ
v1 v2 นั้นเอง ที่กางออกไปจากจุดดาวดวงนั้น ๆ หรือจุดอิทธิพล หรือศูนย์รังสี ในพื้นดวง ให้ท่านหัดอ่านพื้นดวงว่าเจ้าชะตามีดาวอะไรเด่นหรือเป็นคนอุปนิสัยอย่างไร ควรทำงานด้านไหน เกิดมามีฐานะอย่างไร  โชคดีไหม ฯลฯ อยู่ที่พื้นดวงทั้งนั้น ถ้าเราจับจุดได้เราสามารถอ่านไปก่อน ได้เลยว่าเจ้าชะตาต่อไปจะเป็นอย่างไรควรแก้ไข หรือระวังด้านไหน ส่วนนี้มีคนมองข้ามไปดูเรื่องที่จะเกิดหรือไม่เกิด ในอนาคต แทนกันเป็นส่วนมาก ถ้าเรายังไม่รู้พื้นฐาน เช่น เพศของราศี ธาตุของเจ้าชะตา เราก็อาจมีการตีความสิ่งในอนาคต ผิดเพี้ยนไปได้เช่นเดียวกัน เฉพาะส่วนมากจะสอนให้หาสิ่งที่ต้องการเท่านั้นไม่สอนให้ทราบว่าต้นตอมันมาจากไหน เป็นพื้นฐานก่อน คือเรื่องราศีจะเป็นตัวตันกำเนิดของการทำนายเลย เราต้องแม่นเรื่องราศีให้ได้ไม่แล้วพอขึ้นไปสูง ๆ จะตกม้าตายกัน สุดท้ายเราอาจต้องมาตัดสินกันที่ราศีเป็นตัวช่วย เห็นมามากแล้วเรียนแต่จาน 90 มาไม่เคยรู้จักราศีเลย รู้แต่จุดอิทธิพลอย่างเดียว มันก็ไม่ถูก เป็นนักโหราศาสตร์แต่ไม่ทราบราศีเหมือนเรียนไม่ครบ   เหมือนไม่เช่นนักโหราศาสตร์ที่แท้จริง ท่านอาจารย์ บอกไว้ว่าราศีต้องมาก่อนอื่น บอกทุกอย่างที่ต้องการได้หมดเช่น นิสัยใจคอ สุขภาพ ความเป็นอยู่ อื่น ๆ อีกมากมายถ้าท่านอยากเป็นนักโหราศาสตร์ควรหาหนังสือเกี่ยวกับราศีมาอ่านให้แม่นก่อน และตามมาด้วยความหมายของดาว 22 ดวงให้ได้ มันจะนำพาท่านไปหาศาสตร์ยูเรเนี่ยนที่แท้จริง
วันที่ 21 ไหว้ครูครับไม่มีเรื่องที่จะเขียนให้ท่านอ่านเป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์นะครับเพราะผมหยุดการเรียนการสอนไปนั่งสมาธิที่โคราช ไว้เจอกันหลังปีใหม่มีอะไรดี จะคุย ข้าพเจ้าจะพยายามเขียนให้ได้ทุกวันอย่างน้อย ๆ ก็ช่วยผู้สนใจให้เข้าใจในเรื่องที่ยังอ่อนอยู่หรือไม่ทราบให้รู้แต่ ถ้ารู้แล้วก็ไม่เป็นไรอ่านได้เช่นกัน ปีใหม่นี้ ขอให้ท่านมีความสุขความเจริญทั่วทุกคนนะครับ ถ้าคิดอยากจะเป็นหักโหราศาสตร์ต้องอ่านให้มาก  มีหลายที่สอนไม่เหมือนกันบางที่ก็เน้นเรื่องความหมายจนมากเกินไปเรียนมา 6 7 เดือนแล้วยังไม่กล้าทำนายเลย มันก็ดีแต่อยากให้เดินสายกลางคืออ่านไปด้วยดูไปด้วยมันจะได้ไม่เบื่อ ส่วนมากนักเรียนของผมจะอ่านดวงได้ในเวลาไม่เกินสามเดือนคือ เรียน 24 ครั้ง พื้นดวงอ่านได้แล้ว และก็ทำนาย หาเงินได้แล้วถ้ากล้า ๆ หน่อย บางคนพออ่านพื้นดวงเป็นก็เริ่มหารายได้แล้วมารู้อีกทีก็ถอนทุนที่เรียนไปขึ้นหมดแล้ว ยังไม่ขึ้นมาเรียนกับผมเลยก็มี สุดแต่ความสามารถของแต่ละคน แต่ข้าพาเจ้า มีจุดยืนไว้ว่าถ้าใครมาเรียนแล้วยังอ่านดวงไม่ได้ จะไม่ปล่อยออกไป ต้องอ่านให้ได้ ไม่แล้ว ก็ต้องเรียนกันจนเป็น เพราะเค้าเสียเงินมาแล้วเสียเวลา ท่านต้องได้อะไรกลับไปบ้าง ถ้าเป็นคนสนใจ ไม่ยากเกินศึกษา ต่อไปอีก 60 ปีโหราศาสตร์จะมีการสอนในโรงเรียน    


บทที่4

การวัดมุมดาว
การวัดมุมดาวก็สำคัญ
ในการอ่านดาว ถ้าดาวไม่ทำมุมถึงกันเราก็ไม่สามารถอ่านดาวได้ในพื้นดวงหรือจร  เช่น พฤหัส พื้นดวง ทำมุม 180 องศากับ อาทิตย์ จร ปัจจุบันก็จะอ่าน ได้ว่าวันนี้เป็นวันดีท่านจะมีโชคดี แต่ ถ้าจะให้ดีดาวพฤหัส จะต้องทำมุมทุกจุดเจ้าชะตา ในพื้นดวงด้วยจะทำให้ได้ผลมากขึ้นอีก มาพูดเรื่องจุดเจ้าชะตากัน คืออะไร คือจุดชีวิตของเจ้าชะตาที่ทางโหราศาสตร์เราจะใช้ 6 จุด ในพื้นดวง มี เมษ อาทิตย์ จันทร์ ราหู ลัคนา เมริเดี่ยน บางที่ก็อาจมีโพไซดอนด้วยแต่ยังไม่เป็นที่ยอมรับกันก็ดู ๆ กันไปว่าอะไรถึงจะมีผลต่อตัวเราหรือไม่มันก็ไม่ยากในการทดสอบว่าอะไรเป็นจุดเจ้าชะตาหรือไม่ แต่ข้าพเจ้าได้ทดสอบมาแล้ว ดาวดวงนี้ก็ทำงาน ตัวย่อ คือ AR เมษ SU อาทิตย์ Mo จันทร์ No ราหู AS ลัคนา MC เมริเดี่ยน  จุดนี้ถือว่าเป็นจุดสำคัญมากในพื้นดวง ท่านต้องใช้เวลาในการทำความเข้าใจจุดนี้นานหน่อยเอาไว้เล่าให้ฟังว่ามันสำคัญอย่างไร ณ ตอน นี้ท่านทราบว่ามันคือจุดที่อ่อนไหวมาก ถ้าเรายังไม่ทราบเวลาเกิดที่แน่นอนอย่าไปอ่านหรือเอาไปทำนาย ให้ทำนายดาวดวงอื่น ๆ ไปก่อน เพราะเจ้า เมริเดียนเค้าเดินเร็ว สี่นาที ก็เดินแล้ว ก่อนจะอ่านพื้นดวงต้องทำการปรับ เมริเดียนก่อน การปรับก็ไม่ยากอะไร แต่ต้องอาศัยขั้นตอนนิดหน่อยก็ใช้ได้แล้ว เวลาเกิดเป็นเรื่องสำคัญ เราอาจใช้เวลาไหนก็ได้ที่เวลาเราอ่านดวงชะตาไปแล้วมันตรงหมดก็ถือว่า ณ เวลา นั้นมีความสำคัญ บางทีเจ้าชะตาจำเวลาผิดไปครึ่งวันแต่เราสามารถอ่านออกมาตรง ก็สามารถใช้เวลาตรงนี้ได้ เพราะเวลาที่เกิดอาจเคลื่อนมาตรงไหนของวันก็ได้เค้าเรียกว่าเวลากำเนิด ไม่ใช้เวลาเกิดมา เพราะเวลาเกิด กับเวลากำเนิดมันต่าง กัน  เรื่องมันยาวเอาไว้จะบอกให้ฟัง วันนี้เราเอาเรื่อง มุมก่อนมุมที่ใช้กันมีมุมสำคัญ คือ มุมทับ 180 90 45 22.50 ที่ใช้กันอยู่ขณะนี้ นอกนั้นแล้วแต่ผู้ชำนาญเค้าเล่นกัน เราใหม่เล่นมุมแค่นี้ก็เพียงพอแล้ว จะถามว่ามุมไหนแรง มุมที่ทับคือมุมแรงที่สุด ตามมาด้วย 180 90 ระยะวังกะ ก็มีส่วนในวิชาโหราศาสตร์เราให้มีการคลาดเคลื่อนได้แค่สององศาจากตำแหน่ง สำคัญ บวกลบ สอง ถ้าจะให้แรง ๆ ก็ 1 องศา แต่ที่มุม 360 เราให้สองวังกะ คือยอมให้ห่างได้สององศาก่อนทับ ถ้าเป็นมุม 45 ให้ 1 องศาเท่านั้นเพราะเป็นมุมอ่อนความรุนแรงในมุมน้อยเราต้องให้ทับเข้าไว้ก่อนถึงจะทำงานดี อันนี้เราใช้จาน 360 องศา ถือว่าเป็นจานที่ใช้กันมาก และข้าพเจ้าคิดว่าจาน 360 นี้ มีความสำคัญต่อผู้ที่เรียนใหม่ ๆ เพราะจะเห็นเกี่ยวกับเรื่องความเป็นมาของชีวิตได้มากกว่าจาน 90 หรือจานอื่น ๆ ที่มืออาชีพเข้าเล่นกันแบบเอาเป็นเอาตายกัน แต่จาน 360 ดูดี ก็ไม่เบาทีเดียว สามารถให้รายละเอียดได้มากมายหลายประการ ท่านอาจเข้าใจว่ายูเรเนี่ยนมีแค่จาน 90 เท่านั้นที่บอกอะไรกับท่านได้ 
บทที่ 5
เรื่องของทิศในจาน 360 องศา
เป็นเรื่องการที่เราสามารถทราบทิศทาง คือ ทิศ เหนือ ใต้ ออก ตก ได้จากจานนี้ ถ้ามองไปแล้วมันก็เหมือนเครื่องมือของจีนชนิดหนึ่งที่เค้าไว้
ดูตำแหน่งที่ดี ก็คือจาน 360 องศาเท่ากับเรา เหมือนกันเลย เคยทดสอบมาแล้วใช้ได้ การบอกทิศนี้เป็นเรื่องที่เราเอาโลกมาเป็นจุดศูนย์กลางแล้วกางออกไปจุดเมษ คือ ทิศเหนือ เส้นแบ่งราศีตุลย์ คือทิศใต้  จุดกรกฏ คือทิศตะวันออก จุดมังกรคือทิศตะวันตก
ถ้าใครยังไม่ทราบว่าอะไรคือจุด เมษ กรกฏ ตุลย์ มังกร คงต้องคุยกันยาวอีกเพราะจุดพวกนี้มีความสำคัญในการทำนายเรื่องเวลาของเรื่องที่จะเกิดขึ้นเช่นกัน เราจะใช้จุดพวกนี้แบ่งโลกออกเป็นสี่ส่วนแต่ละส่วนกินเวลา 3 เดือน เป็นการดูรายสามเดือนว่ามีอะไรเกิดขึ้นในช่วงสามเดือนไหนได้เช่นเดียวกันถ้าเราเห็นภาพจากการดูรายปีมาแล้วเรามาเจาะลงรายสามเดือนคือเอาอาทิตย์จรไปวางไว้ ณ ตำแหน่ง เราอาจเริ่มจากจุดเมษก่อนก็ได้ตามช่วงเวลาเกิดของเจ้าชะตาว่าใกล้จุดไหนที่สุดเราก็ดูต่อไป ถ้าเกิดเดือน มิย เราก็เราอาทิตย์ไปวางไว้ ณ 0 องศาที่จุด กรกฏ เราก็จะเช็คดูว่าจากเดือนนี้ไปอีกสามเดือนมีอะไรเกิดขึ้นหรือไม่ ก็จะไปตกประมาน 22 ตุลาคม ก็เป็นอันหมดส่วนนี้ถ้าไม่เจอเราก็เอา อาทิตย์จร ไปตั้งไปที่ 0 องศาของจุดตุลย์ และ
lock ด้วย ณ วันนั้นเป็น ดาวรายสามเดือนไปเลยเหมือนการดูรายปี ว่ามีจุดอะไรเข้ามาบอกบ้างว่า ณ สามเดือนนี้มีอะไร ใช้วิธีนี้ในการดูภาพใหญ่ก่อนแล้วบีบ ให้เหลือแค่วันเดียวได้ และเราค่อยบีบเวลาลงไป จาก ปี สามเดือน หนึ่งเดือน รายสามวัน รายวัน รายนาที สุดท้ายก็ได้ 
 

บทที่5
 

เรามาพูดเรื่องทิศกันหน่อย ไหนจะพูดเรื่องทิศกันแล้ว การดูทิศเหมือนเราเป็นนักราดาศาสตร์เราต้องรู้ว่าดาวอะไรขึ้นทางทิศไหน เป็นส่วนสำคัญในการหาทิศที่ดีในแต่และปีได้เช่นเดียวกัน เช่นช่วงนี้ดาวพฤหัสสถิตอยู่ ณ ตำแหน่ง ทิศ ตะวันตะวันตกเฉียงใต้ พอเราทราบเราก็หาตำแหน่งที่ดีบนโลกว่าดาวดีอยู่ ณ ตำแหน่งไหนของบ้านหรือที่เรายืนอยู่ในตำแหน่งดาวดีไว้ใช้ได้ หรือในการวางสิ่งของ การปลูกบ้านตามดาวดีได้เลยเหมือนการดูทิศของจีนแต่เราดูดาวจริง เป็นหลัง การหมุนของดาวต่าง ๆ จะหมุนจากด้านซ้ายไปขวาตลอดนอกจากราหูที่หมุนกลับกันเพราะเป็นเงาย่อมหมุนตรงข้ามกับดาวครับ ทุกอย่างในโลกนี้มีทางเดินของมันเป็นวงโคจรที่เหมือนกันหมด ชีวิตคนเราบนโลกก็จะถูกดวงดาวเป็นตัวชีหรือเป็นเหมือนแผนที่ชีวิตว่าช่วงนี้ เรากำลังจะเกิดอะไรขึ้นกับตัวเรา คือดาวพื้นดวงกับดาวจร เช่นวันไหนดวงจันทร์จรมาทับพฤหัสในพื้นดวงเราก็จะบอกได้ว่าวันนั้นเราจะมีโชคดี หรืออาทิตย์จรทับดาวพฤหัสก็จะดีไปหนึ่งวัน แต่ถ้าทับ ณ ดวงรายปีก็จะดีไปอีกหนึ่งปี ถ้า new moon มีก็จะดีไปอีก new moon ต่อไปถึงหมด แต่การดูดาวประวันนั้นเราต้องใช้ ลัคนาจรเป็นตัวบอกว่าดาวอยู่ทิศไหนโดยอาศัยอาทิตย์เป็นตัวบอก เช่นตอนนี้อาทิตย์โคจรอยู่แถว ช่วงราศีธนูพอตอนเย็นลัคนาก็จะตรงข้ามกับอาทิตย์เราถือว่าอาทิตย์ตก เราก็จะมองเห็นดาวพฤหัส ศุกร์ อยู่ทิศตะวันตกเฉียงใต้

แถมหน่อยการดูข้างขึ้นข้างแรม เราดูการเว้าของดวงจันทร์ได้ครับ
 

  ข้างขึ้น    : ส่วนของดวงจันทร์ที่เว้าหายไป คือทิศตะวันออก

                ข้างแรม  : ส่วนของดวงจันทร์ที่เว้าหายไป คือทิศตะวันตก

บทที่ 6
 

    ที่ผ่านมาท่านพอมองภาพออกบ้างหรือไม่กับวิชาโหราศาสตร์ กับ ดาราศาสตร์ เป็นของคู่กันแยกกันไม่ออกไม่มีดาวก็ไม่มีดวงให้ดู ดังนั้นเราต้องรู้จักดวงดาวที่เราใช้ทำแผนที่ไว้บ้าง  และเรื่องของราศีก็สำคัญมากคนเราเกิดมาไม่มีราศีแล้วท่านจะเกิดอย่างไร ราศีเป็นตัวบ่งชี้ให้เราทราบความอ่อนแก่ของอายุเราได้ และอีกหลาย หลาย ๆ เรื่อง วันนี้เรามาคุยเรื่องดาวก่อนดีกว่า ไม่ว่าสำนักไหนถ้าเป็นระบบโหราศาสตร์ยูเรเนี่ยน จะมีดาวเพียง 22 ดวง ท่านต้องตี ความหมายดาวให้ได้ ไม่ยากมีวิธีจำง่ายคือเขียนทุกวันแล้วท่านจะทำได้เองดาว 22 ดวงมีดังนี้
    อาทิตย์ มีรูปวงกลมและมีจุดสีแดงอยู่ด้านใน ดวงอาทิตย์ถือว่ามีความสำคัญมากเพราะแสดงที่กายของคนเราอยู่ในราศีไหน ในพื้นดวง ท่านอาจสงสัยว่าพื้นดวงได้มาจากอะไร เราได้พื้นดวงมาจากการเกิด ณ เวลานั้น เหมือนเราถ่ายรูปดาว ณ วันเกิดเอาไว้มันจะคงที่ตลอดจนวันตายไม่มีการเคลื่อนที่ไปไหนเราจึงทราบอะไรจากพื้นดวงของเจ้าชะตามาก ตั้งแต่เกิดจนถึงตาย แต่อาทิตย์วงนอกบอกวัน

ดาวที่เค้าเรียกว่าจุดเจ้าชะตามีด้วยกันดังนี้
อาทิตย์    เป็นดาวโคจรรอบโลกใช้เวลา 365กว่า ๆ
จันทร์      เป็นดาวเคราะห์น้อยของโลกใช้เวลาโคจรรอบโลก 28 วัน
ลัคนา      ไม่ใช่ดาว แต่เรียกปัจจัย บนท้องฟ้า ที่คนเราคิดขึ้น ลัคนาจะมีความสัมพันธ์กับอาทิตย์ จะบอกเวลาเกิดได้
เมริเดียน    ไม่ใช่ดาว แต่เป็นการคำนวณของนักดาราศาสตร์เช่นกัน เราก็เอามาใช้ในการดูได้เช่นเดียวกัน
ราหู         ไม่ใช่ดาว แต่เป็นเส้นตัดกับเส้นสุริยะวิถี คือเส้นที่ดวงดาวทั้งหลายโคจรในเส้นนี้เสมอ
เมษ         ไม่ใช่ดาว เป็นจุดเริ่มต้น ของฤดูกาลต่าง ๆ 
ทั้งดาวและปัจจัยที่เราพูดมานั้นเป็นเพียงตัวแปรให้เราทราบเรื่องต่าง ๆ ของเจ้าชะตาได้อย่างไม่น่าเชื่อ
คราวหน้าเราจะมาลงความหมายของดาวและปัจจัยแต่ละดวง

บทที่ 7 ความหมายดาว
อาทิตย์ บนท้องฟ้าเราถือว่ามีความสำคัญมากสำหรับนักโหราศาสตร์ จะบอกถึงเรื่องต่างๆ ได้อย่างมากมายเช่น บอกวัน ตัวเจ้าชะตา กายสังขาร พ่อ บุคคลเพศชายทั้งหลาย ในมุมสัมพันธ์ในพื้นดวง โรค หรืออาจแปลได้ว่าโรคหัวใจก็ได้
จันทร์ ก็มีพลังพอ ๆ กับอาทิตย์แต่ได้รับแสงจากดวงอาทิตย์ย่อมมีความเกี่ยวเนื่องกัน จันทร์จร บอก ชม. ในพื้นดวงบอก บุคคลเพศหญิง แม่ ตัวเจ้าชะตาเพศหญิง ธาตุน้ำ มักเกี่ยวกับความรู้สึกในใจ บ้าน จิตใจอ่อนไหว
ลัคนา คือสภาพแวดล้อมรอบตัวเราแต่ไม่ไกลเกินตัวเรา จะบอกสถานที่เกิดเหตุต่าง ๆ ได้ หรือใช้ดูเป็นนาทีว่าเกิดอะไรในนาทีนี้ได้
เมริเดี่ยน คือจิตใต้สำนึกที่อยู่ในใจ หรือทางดาราศาสตร์จะแปลไปอีกจากอย่าง แต่ถ้าเราเอามาแปลเป็นภาษาทางโหราศาสตร์แล้วจะแปลว่า จิต เก่า ที่ติดตัวมา สันดานเก่า ที่เคยเป็นมา
ราหู เป็นจุดตัดของดวงจันทร์กับเส้นสุริยะวิถี คือทางเดินของดาวบนทางฟ้า เป็นเงาของดวงจันทร์ จะเดินต่าง จากดาวอื่นๆ เพราะเป็นเงาต้องเดินถอยหลัง ตามหลังดาวจะเดินทวนเข็ม แต่ราหูตามเข็ม
จุดเมษ เป็นจุดที่แปลว่ามวลชนประชาชนที่ใหญ่กว่าลัคนา
........................................................................................................จุดเจ้าชะตา......................................................................................................


ดาวพุธ 
(ME)เราถือว่าเป็นดาวเคราะห์ จะทำงานได้ก็ต่อเมื่อทำมุมถึงจุดเจ้าชะตาด้านบน เช่น ดาวพุธทำมุม 45 องศากับอาทิตย์ ก็จะแบบว่าเป็นคนพูดเก่ง นิสัยของดาวพุธ คือชอยการติดต่อสื่อสาร การพูดคุย การเรียนการสอน ถ้าเกี่ยวกับโรค อาจหมายถึงโรคเกี่ยวกับปอด ระบบหายใจ เพราะเกิดจากการพูดมาก และเป็นดาวเกษตรในราศีมิถุน
ดาวศุกร์
(VE) ในโหราศาสตร์ยูเรเนี่ยน เรามีความหมายของดาวศุกร์มากมายเช่น ความสวยงาม บันเทิง รักสวยรักงาม นักร้อง การเงินย่อย ความรัก การแต่งงาน
ดาวอังคาร
(MA) เป็นดาวที่เกี่ยวกับเรื่องการทำลาย การบาดเจ็บ การใช้กำลัง ถ้าพูดเรื่องนิสัย ก็เป็นคนใจร้อน ถ้าทำมุมถึงจุดเจ้าชะตาด้านบนอันใดอันหนึ่งก็จะแปลได้ว่าเจ้าชะตามีส่วนเกี่ยวข้องกับดาวดวงนี้เช่นทำมุม90 องศากับอาทิตย์ก็อาจพูดได้ว่าเป็นคนที่มีเครื่องแบบทหาร นักรบ การต่อสู้ ความใจร้อนก็ได้ อันนี้เป็นการผสมดาวเคราะห์กับจุดเจ้าชะตา ถ้าดาวเคราะห์อย่างเดียวไม่มีจุดเจ้าชะตามาเกี่ยวจะไม่เกิดอะไรขึ้นกับเจ้าชะตา
หมายถึง เป็นคนเด็ดเดี่ยว คนแข็ง ดื้อ บาดเจ็บ เหตุฉับพลัน
ดาวพฤหัส
(JU) เป็นดาวเคราะห์ที่ใหญ่ที่สุดตอนนี้โคจรอยู่ทางทิศตะวันตกของเรา ที่เกิดพระจันทร์ยิ้ม ความหมายคือดาวแห่งโชคลาภ ความสุข ความสมบูรณ์ ความมีเงิน เงินทองของมีค่า ความรู้ อุดมการณ์ การเรียนรู้ มันก็มีอยู่ว่าเราจะแปลให้มันเป็นอะไรอีกว่าคือโชคหรือความรู้ มันก็ยากพอสมควรต้องอาศัยความสามารถในการอ่านดาวว่าจะอ่านว่าเป็นเรื่องอะไร ถ้าเป็นโรคก็โรคตับ ท่านเห็นไหมว่าดาวหนึ่งดวงสามารถบอกความหมายให้เราเป็นหลายความหมาย วิธีแปลถ้าเราต้องการรู้เรื่องอะไรเราก็เอาความหมายนั้นมาพูด ถ้าพูดเรื่องฐานะ ถ้าดวงเจ้าชะตามีดาวพฤหัสอยู่ในตำแหน่งดี ๆ เช่นทำมุมถึงจุดเจ้าชะตา เช่น อาทิตย์ หรือเข้าแกนราศี ก็นับได้ว่าเจ้าชะตามีฐานะดีไว้ก่อน คือแรก ๆ เราต้องถามเจ้าชะตาก่อน หรือไม่รวยก็อาจมีเกณฑ์เป็นโรคตับได้ เราก็อาจบอกเค้าว่าให้ระวังอาการทางตับได้เช่นกัน
(วันต่อไปจะพูดดาวต่อให้ครบพร้อมรูปดาว)

แนะนำให้หาโปรแกรมมาใช้จะง่ายกว่าหมุนจานนะครับ ของใครก็ได้ที่ใช้งานได้

บทที่ 8

เวลาที่ดีที่สุดในการจำดาวคือตอนเช้าสมองยังไม่มีอะไรมากวน ผมจะเขียนเรื่องต่างๆ จนถึงดูดวงที่ยาก ๆ ก็ตอนตีสาม ทำไมว่าตี่สามตอนเช้าเพราะผมตื่นตอนนั้นครับ และสอน20.00 น. แนะการจำ พยายามนอนแต่หัวค่ำถ้าทำได้และตื่นแต่เช้าเท่าที่ทำได้ตี่สี่ตี่ห้าก็ได้ ไม่เกินไปแบบผมเพราะผมแก่แล้วใช้เวลาพักไม่มากปีนี้ก็เลข 5 กว่าแล้ว ใกล้ถึง
ad แล้ว ถ้าจะให้เก่งต้องหัดพูดอะไรเป็นดาวให้หมดจะไปห้องน้ำก็ ha+ne  มาต่อดาวกันดีกว่ารู้สึกว่ามีคนเข้ามาอ่านการอ่านเพื่อมาหาความเข้าใจหรือมาทดสอบความสามารถของคนเขียนก็ไม่ทราบเหตุผลใดผมก็เขียนตามที่เรียนและมีในสมองออกมาให้ท่านเข้าใจแต่มีอีกหลายอย่างมาก ๆ ที่ต้องใช้เวลา มุมนี้ถ้าติดตามไปท่านก็จะเข้าใจศาสตร์นี้อย่างลึกซึ้งมากขึ้นกว่าจะเรียนค่ายไหนไม่สำคัญเพราะมันเป็นอันเดียวกัน
ดาวเสาร์
(SA) เป็นดาวที่ต่อจากดาวพฤหัสเป็นดาวที่มองดูแล้วไม่ดีดวงไทยถือว่าดาวเสาร์ให้โทษ แต่ตามแนวความคิดผมดาวทุกดวงให้คุณให้โทษพอ กัน แล้วแต่เราจะเอาไปใช้งานอะไรในพื้นฐานดวงแต่ละคน ดาวเสาร์แปลว่าความทุกข์ ความยากลำบาก การตาย การเดินทาง การลาจากไป สรุปเป็นดาวเสียแต่บางครั้งก็ให้คุณ ถ้าเราใช้ให้เป็นการใช้ดาวร้ายให้เป็นดาวดีก็เป็นอีกวิชาหนึ่งที่น่าสนใจ ใครว่าเสาร์ทับลัคนาแล้วจะไม่ดีในอีกมุมหนึ่งก็จะทำให้มีการเปลี่ยนแปลงเราก็ดูว่ามันเปลี่ยนแปลงไปในทางดีหรือไม่ดี ถ้าไม่ดีก็แก้เสีย ถ้าเทียบอายุคนก็ 60 กำลังดี เลยเอาดาวเสาร์ไปไว้ในราศีมังกร คือความแก่ความชรา ดาวในราศีมีความหมายมาก ดาวกับราศีคือความหมายเดียวกัน ต่อไปก็จะมาคุยเรื่องดาว มฤตยู (ur)
พยายามอ่านหลายๆ ครั้งแล้วท่านจะเข้าใจดีมากขึ้น

บทที่ 9

เราได้เรียนรู้พื้นฐานมาพอสมควรต่อไปก็มารู้ความหมายดาวกันต่อ ดาวที่เราจะพูดต่อไปเป็นดาว มฤตยู มีตัวย่อ ว่า
(UR) ในความหมายของดวงไทยเค้าว่าร้ายพอ ๆ กับดาวเสาร์ เป็นดาวบาปเคราะห์ ให้โทษถ้ามาอยู่ในเรือนต่าง ๆ  ก็จะทำให้เกิดเรื่องต่าง ๆ  แต่ในทางโหราศาสตร์สากลดาวทุกดวงมีทั้งดีและร้าย แล้วแต่มุมมองของเราอันนี้ตามความคิดของคนเขียนเพราะดูแล้วบางครั้งดาวร้ายก็อาจทำให้ดีได้ เข้าเรื่องกันก่อน ดาว มฤตยู มีความหมายว่า ฉับพลัน น่าตื่นเต้น ถ้าใครมีดาวดวงนี้ในพื้นดวงอยู่และถึงจุดเจ้าชะตา มักจะมีนิสัยใจร้อนชอบเปลี่ยนแปลงสิ่งรอบข้างแต่ไม่ค่อยเปลี่ยนตัวเอง ไม่หยุดนิ่งชอบหาอะไรทำตลอดเวลา มองรวม ๆ แล้ว จะว่าร้ายก็ไม่เชิง เพราะเค้าก็ทำให้เรามีความตื่นตัวอยู่ตัว แต่ต้องดูตำแหน่งของดาวว่าอยู่ในราศีหรือมุมอะไรถึงจะตัดสินว่าจะทำงานร้ายหรือดี ส่วนมากก็จะส่งเป็นกลาง ถ้าไม่ไปรวมกับดาวร้ายด้วยกัน เช่น ma/ur  ก็จะแปลว่า เหตุฉับพลัน อุบัติเหตุ  เราอย่ามองว่าร้ายหรือดีมันขึ้นอยู่กับการแปลความหมาย ณ เวลานั้น มันยากหน่อยว่าเวลาไหนควรจะแปลว่าอะไรใจเย็น ค่อย ๆแปลจากความรู้สึกเราไปก่อนเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี เพราะเราเป็นผู้ทำนาย เมื่อเราคุยกับดาวได้เค้าจะบอกเราเอง ท่านต้องอ่านหนังสือให้มากและตีความหมายให้มากแล้วท่านจะแปลดาวได้คล่องขึ้น
บทที่10 14/01/2009
ดาวเนปจูน
(NE)
    ดาวดวงนี้เราจะให้ความหมายในเรื่องของเหลว ทั้งหลายบนโลกใบนี้ สารเคมี การจินตนาการ การสงบนิ่ง เลือด น้ำมัน ฯลฯ ดาวนี้เป็นดาวที่ให้โทษและให้คุณ ไปในตัว  เพราะในส่วนร้ายก็มีส่วนดี ทุกคนจะมีดาวดวงนี้ ในพื้นดวงเสมอ แต่จะพูดถึงโรคแล้วก็จะหมายถึงโรคจากกรรมเก่า ถ้า เนปจูนไปอยู่ในราศีพิจิก จะตรงกับมดลูก ลำไส้ ก็จะแปลได้ว่าจะมีปัญหาทางด้านนี้ หรือเป็นบ่อเกิดโรคต่าง ๆ ขึ้นมาได้ ดังนั้นเราจะดูเนปจูนอยู่ราศีไหนก็เป็นตัวชี้นำว่าจะเป็นโรคตรงส่วนนั้นของร่างกายได้เช่นกันเหมือนกับดาวเสาร์ ถ้าเราไม่พูดเรื่องโรคภัยเนปจูนก็จะไปเป็นเรื่องของการใช้จิตนาการ ความคิด วิญญาณ การทำสมาธิ ก็ได้ หรือผู้ที่มีพลังจิตสูงก็ได้ ขึ้นอยู่กับการมองว่าท่านกำลังพูดเรื่องอะไรกับเจ้าชะตาในด้านไหน ก็ตรงหมด แต่คนละมุมเค้าอาจเป็นคนที่ใช้ความคิดและพร้อมที่จะเป็นโรคร้ายได้ด้วย มุมมองต่างกันให้ผลกับคน คนเดียวกัน แต่ถ้าทำอะไรหนัก ๆ ไปอย่างหนึ่ง ส่วนต่างของการที่จะเกิดอีกอย่างก็จะเบาลง เช่นเป็นนักแต่งเพลงต้องใช้จิตนาการมาก โรคที่จะเกิดก็เบาลงไปเพราะเราเอาเนปจูนไปใช้ไปทางอื่นแล้ว จงหาปัญญาทำดาวร้ายให้เป็นดาวดีให้ได้แล้วท่านจะได้ของดีกลับมา

บทที่ 11

ดาว พูลโต
(PL) เป็นดาวที่อยู่ไกลจากโลกนี้มากและเป็นดาวดวงสุดท้ายในระบบสุริยะฯ องค์การนาซ่าได้ตัดดาวดวงนี้ออกจากระบบไปแล้ว แต่เราก็ยังคงใช้อยู่เพราะมีจริง และทำงานได้เหมือนเดิม การตัดออกคือไม่ถือว่าดาวพูลโตอยู่ในสังกัดอีกต่อไป ความหมายของดาวนี้เป็นดาวแห่งการพัฒนาการ การเมือง การเปลี่ยนแปลง ได้ในทางที่ดี ตอนนี้การโคจรของดาวอยู่แกนมังกรก็คงอยู่นานมากเพราะเดินช้าทำให้ในโลกนี้มีการเปลี่ยนแปลง ส่วนมากไว้ดูเรื่องการเมืองการปกครองเป็นส่วนใหญ่ ถ้าเอามาใช้ดูดวงก็จะเกี่ยวข้องกับชีวิตของเจ้าชะตามีการพัฒนาการไปในทางที่สูงขึ้น ดาวนี้เป็นดาวที่ดี และเป็นดาวเกี่ยวกับความต้องการทางเพศ ถ้าใครมีดาวดวงนี้แรงในพื้นดวงก็คงมีความสามารถทางด้านนี้ดี ดาวเราตีได้หลายแบบทั้งบวกและลบ อย่ามองด้านเดียวท่านจะไม่ได้อะไรจากการตีดาวด้านเดียวจงมองทั้งสองด้านด้านเสียเราก็ทำให้ดีด้านดีก็ทำให้ดียิ่งขึ้นอย่างนี้เค้าเรียกว่าใช้ดาวเป็น

บทที่ 12

เรามาถึงดาวดวงสุดท้ายในระบบสุริยะของเราแล้ว ต่อไปก็จะเป็นดาวนอกระบบของเราที่นักโหราศาสตร์ค้นพบเองและมีจริงแต่อยู่ห่างไกลออกไปมากซึ่งเรียกว่าดาวทิพย์ มีดังนี้
คิวปิโด
(CU) ความหมายของดาวดวงนี้จะมีความหมายเหมือนกับดาวศุกร์ แต่มีข้อแตกต่างออกไปอีกคือแปลได้ว่าการเป็นหมู่คณะ การแต่งงาน การร่วมมือ การประชุม ครอบครัว ศิลปะ
ฮาเดส
(HA)
 เป็นดาวที่มีความหมายเหมือนดาวเสาร์ แต่ออกไปทางด้านการใช้เวลานาน ๆ การเจ็บป่วยที่ใช้เวลานาน อาหารการกิน ล่าช้า การเน่าเปื่อย สิ่งของที่มีการแปลเปลี่ยนสภาพได้ เป็นอีกรูปแบบ หรือเป็นของเสียได้เมื่อถึงเวลาของมัน ส่วนมากก็จะเอามาแปลทางด้านอาหาร ของเสีย เป็นส่วนมาก ทางด้านจิตใจก็จะแปลได้ว่าเป็นคนกังวล คิดมาก จมอยู่ในความคิด คิดไปคิดมาหาทางออกไม่ได้

บทที่ 13
19/01/209จากดาว ฮาเดส มาเราก็จะมาคุยกันถึงเรื่องดาวเซอุส
(ZE) ความหมายของดาวดวงนี้ มีความหมายทางด้านพลังงาน ไฟฟ้า แรงระเบิด เครื่องจักรขนาดใหญ่ ความดัน อำนาจที่มีพลังมาก ๆ เราใช้ดาวดวงนี้แทนได้ จะว่าเป็นดาวดีหรือดาวร้าย คนเขียนว่าให้ทั้งสองมุมแล้วแต่เราจะแปลออกมาถ้าแปลว่าระเบิดมันก็ทำลาย ถ้าแปลทางด้านไฟฟ้าก็ให้สิ่งดี ๆ น้ำร้อนที่ร้อนเราก็แปลได้ ไฟไหม้เราก็แปลได้ เพราะมันทำลายล้างได้ เป็นชื่อเทพเจ้า เกี่ยวกับไฟ
โครโนส
(KR) ดาวดวงนี้ก็เป็นดาวนอกระบบสุริยะ  ระยะการโคจรเป็นร้อยปีกว่าจะโคจรรอบ หนึ่งรอบจักรราศี ดาวพวกนี้เดินนานมาก เป็นดาวที่ให้ความหมายทางด้านที่สูง ตำแหน่ง ทางการแต่งตั้ง เราที่เราจะดูเรื่องตำแหน่งเราจะไปดูดาวดวงนี้ว่าปีนี้มาทำมุมถึงจุดเจ้าชะตาหรือไม่ หรือตึกสูงก็ได้ คงเหลืออีกสี่ตัวท่านจำความหมายให้ได้ วันละนิดท่านก็จะรอบรู้ความหมายของดาวเอง
 

การโคจรของดาวเคราะห์ในระบบสุริยะจักรวาล
ลัคนาและเมริเดียน ใช้เวลา 2-3 นาทีต่อ 1         องศา และใช้เวลา 1 วันรอบจักรราศี

จันทร์                      ใช้เวลา 2-3 วัน ต่อ 1              ราศี

อาทิตย์                     ใช้เวลา 1 เดือนต่อ   1              ราศี

พุธ                           ใช้เวลา 1 เดือนต่อ 1                ราศี

ศุกร์                         ใช้เวลา 1 เดือนต่อ 1                ราศี

อังคาร                      ใช้เวลา 1 เดือนครึ่ง ต่อ 1        ราศี

พฤหัส                     ใช้เวลา 1 ปี ต่อ        1              ราศี

เสาร์                        ใช้เวลา 2 ปีครึ่งต่อ  1               ราศี

มฤตยู                      ใช้เวลา 7 ปีต่อ 1                      ราศี

เนปจูน                    ใช้เวลา 14 ปี ต่อ 1                   ราศี

พลูโต                      ใช้เวลา 30 ปีต่อ 1                    ราศี

ดาวทิพย์จะโคจรช้ามากกว่าดาวในระบบสุริยะ
 
     CU  คิวปิโด                 ดาวศุกร์ โคจรรอบดวงอาทิตย์ใช้เวลา 262 ปี

      HA  ฮาเดส                 =   ดาวเสาร์ โคจรรอบดวงอาทิตย์ใช้เวลา 360 ปี

      ZE  เซอุส                   =  ดาวอังคาร โคจรรอบดวงอาทิตย์ใช้เวลา 455 ปี

      KR โครโนส              =   อาทิตย์ โคจรรอบดวงอาทิตย์ใช้เวลา 521
     AP   อาพอลลอน       =   พฤหัส โคจรรอบดวงอาทิตย์ใช้เวลา 567 ปี
     AD  แฮดมตอส          =  เสาร์  โคจรรอบดวงอาทิตย์ใช้เวลา 624 ปี
     
VU  วัลคานุส             =
 อังคาร โคจรรอบดวงอาทิตย์ใช้เวลา 663 ปี
     
PO โพไซดอน           =  เนปจูน โคจรรอบดวงอาทิตย์ใช้เวลา 740 ปี

บทที่ 14
                การโคจรไปสู่ หมายถึง ปรากฏการณ์ ที่ดาวพระเคราะห์ดวงหนึ่ง โคจรอยู่หลัง ดาวพระเคราะห์อีกดวงหนึ่ง และระหว่างดาวทั้ง 2 ไม่มีดาวพระเคราะห์อื่นสถิตอยู่เลย กับดาวพระเคราะห์ทั้ง 2 นี้ จะต้องไม่สถิตห่างกันเกินกว่า 3 ราศีด้วย

                ปรากฏการณ์ โคจรไปสู่  จะยิ่งมีอิทธิพลแรงขึ้น หากระยะห่างระหว่างดาวพระเคราะห์ทั้ง 2 นี้ สั้นลงแต่ถ้ายิ่งห่าง อิทธิพลของการโคจรไปสู่ก็จะ น้อยลง ๆ  จนไม่มีอิทธิพลเลย ในทางปฏิบัติ ไม่ควรพิจารณาดาวพระเคราะห์ที่มีระยะห่างกันเกินกว่า 45 องศา เพราะเกินกว่านี้แล้วอิทธิพลจะอ่อนมากจนไม่รู้สึก ราหู ไม่อยู่ในข้อนี้ เพราะไม่ใช่ดาว

1.       พุธ     โคจรไปสู่             จะแสดงถึง ที่เจ้าชะตาจะกระทำได้สำเร็จ

2.       ศุกร์                                จะแสดงถึง สิ่ง ที่เจ้าชะตารัก

3.       อังคาร                            จะแสดงถึง สิ่ง ที่เจ้าชะตาปฏิบัติอย่างจริงจัง

4.       พฤหัส                            จะแสดงถึง สิ่ง ที่ก่อให้เกิดโชคลาภ อาชีพ งานหลักที่พัวพัน

5.       เสาร์                               จะแสดงถึง สิ่ง ที่ทำให้เจ้าชะตากลัดกลุ้มและเหน็ดเหนื่อย

6.       มฤตยู                              จะแสดงถึง ด้าน ที่นำความล่มจมมาสู่ชีวิต

7.       เนปจูน                           จะแสดงถึง ด้าน ที่ไม่ให้ผลสำเร็จอะไรเลย

8.       พลูโต                             จะแสดงถึง ด้าน ที่โชคชะตาส่วนใหญ่กำหนดให้เจ้าชะตา

 

ทฤษฎี การโคจรไปสู่ดาวพระเคราะห์ มีประโยชน์มาก ในการดูหรือพิจารณา บุคลิกภาพ รูปร่างลักษณะ ของคู่ครองของเจ้าชะตา ซึ่งจะเป็นไปตาม กฎ ดังนี้

1.       เจ้าชะตาชาย

                      ดาวพระเคราะห์ที่ จันทร์ และ ศุกร์ โคจรไปสู่ จะบอกลักษณะและบุคลิกภาพของภรรยาของเขาตัวอย่างเช่น จันทร์ ในดวงชะตา โคจรไปสู่ พฤหัส ภรรยาเป็นคนมีโชค ร่ำรวย หรือ ศุกร์ โคจรไปสู่อังคาร ภรรยาเป็นคนกล้าแข็ง จันทร์ โคจรไปสู่ เสาร์ ภรรยาเป็นคนขี้โรค หรือขี้วิตกกังวล ยากจนหรือพลัดพราก

2.       เจ้าชะตาหญิง

                     ดาวพระเคราะห์ที่ อาทิตย์ และ อังคาร โคจรไปสู่ จะบอกลักษณะและบุคลิกภาพของสามีของเธอตัวอย่างเช่น อาทิตย์ โคจรไปสู่ ศุกร์ สามีเจ้าชู้ นิ่มนวล รักศิลป อังคาร โคจรไปสู่ พุธ สามีเป็นบุคคลเฉลียวฉลาด พ่อค้า นักประพันธ์

บทที่15

 

ดาวพระเคราะห์แสดงความเป็นสามี คือ

                เมอริเดียน อาทิตย์ ราหู ลัคนา พุธ อังคาร

ดาวพระเคราะห์แสดงความเป็นภรรยา คือ

                เมอริเดียน อาทิตย์ ราหู จันทร์ พูลโต อาพอลอน

ถ้าหากว่า ดาวพระเคราะห์สำคัญ อันแสดงถึง สามี คือ พุธ กับ อังคาร ในดวงชะตาชาย

ไม่เป็นปกติแล้ว จันทร์ กับ ศุกร์ ในดวงชะตาของ ภรรยา จะพลอยไม่เป็นปกติไปด้วย

                เพศชาย จะมีสัมพันธ์ระหว่าง

                เมอริเดียน อาทิตย์ คิวปิโด ลัคนา อังคาร

                เพศหญิง จะมีสัมพันธ์ระหว่าง

                เมอริเดียน อาทิตย์ คิวปิโด จันทร์ ศุกร์

การให้ข้อสรุปเกี่ยวกับ การเงิน การงาน และครอบครัว

                การเงิน พิจารณาจาก เรือนที่ 2 และใช้เรือนที่ 10 กับ 6 ประกอบ ดาวพระเคราะห์ที่เกี่ยวกับ

                การร่ำรวยคือ พฤหัส และอาจพิจารณา ศุกร์ ประกอบด้วย

                การงาน  พิจารณาจาก เรือนที่ 10 และใช้เรือนที่ 2 กับ 6 ประกอบ ในขณะเดียวกันควรพิจารณาดาว

                พระเคราะห์ในเรือนที่ 4 ด้วย ดาวพระเคราะห์ที่เกี่ยวกับ การประสบความสำเร็จทางก้านการเงินและ

                ชื่อเสียงเกียรติยศคือ อาทิตย์ พฤหัส ซึ่งเรือนที่เหมาะคือ เรือนที่ 10 หรือ เรือนเกณฑ์ ส่วนจันทร์ ทำให้

                เป็นคนมีชื่อเสียงโด่งดังถ้าสถิตในเรือนที่ 10

                ครอบครัว พิจารณาจาก เรือนที่ 7 และใช้เรือนที่ 11 กับ 3 ประกอบ ดาวพระเคราะห์ที่เกี่ยวกับการแต่ง

                งานโดยทั่วไปคือ ศุกร์ จันทร์ กับ ศุกร์ หมายถึง ภรรยาของเจ้าชะตาชาย อาทิตย์กับอังคาร หมายถึง

                       สามีของเจ้าชะตาหญิง
บทที่ 16

 

ขั้นที่ 1 ตรวจทั่วไป

1.1  ดูสัมพันธ์ของกลุ่มดาวที่น่าสนใจ ที่เด่น ซึ่งสัมพันธ์ถึง จุดเจ้าชะตา หรือเข้าแกน รวมถึงดาวสันโดษด้วย

1.2  ตรวจ จุดเมษ ทำมุมถึงดาวดีหรือดาวร้าย และอ่านออกมาว่าเจ้าชะตาเป็นอย่างไร

อยู่ในสภาพแวดล้อมอย่างไรตามดาว อย่าลืมตั้งจุดเจ้าชะตาสะท้อนไว้ด้วย

1.3  ตรวจ อาทิตย์ ทำมุมถึงดาวดีหรือดาวร้ายทำมุมอะไร อ่านออกมาว่าเจ้าชะตา
เป็นคนอย่างไรตั้งจุดเจ้าชะตาสะท้อนไว้ด้วยเพื่อขยายรายละเอียดของเจ้าชะตา

1.4  ตรวจ จันทร์ ทำมุมถึงดาวดีหรือดาวร้าย อ่านออกมาว่าอารมณ์หรือบุคคลเพศหญิงเป็น

อย่างไร ตั้งจุดเจ้าชะตาสะท้อนไว้ด้วยเพื่อขยายรายละเอียดของเจ้าชะตา

1.5  ตรวจ เมอริเดียน ทำมุมถึงดาวดีหรือดาวร้าย อ่านออกมาว่าจิตเขาเป็นคนอย่างไร

(ควรปรับเวลาเกิดแล้วถึงอ่าน ระยะวังกะ 2-3 องศา)

1.6  ตรวจ ลัคนา ทำมุมถึงดาวดีหรือดาวร้าย อ่านออกมาว่าสภาพแวดล้อมเป็นอย่างไร

(ควรปรับเวลาเกิดแล้วถึงอ่าน ระยะวังกะ 2-3 องศา)
บทที่ 17
 

บทนี้เราจะมาคุยเรื่องการทำนายจร บางคนดูได้แต่พื้นดวง แต่ไม่มีความรู้เรื่องดาวจรบนท้องฟ้าว่ามีผลต่อพื้นดวงมาก เริ่มกันเลยวันนี้เพิ่งกลับมาจากไปดูเหมืองที่เขมรมา คือเจ้าของเค้าให้ไปเปิดเนตร ให้พระแม่ธรณี ก็เลยไปช่วยเค้าหน่อยทางเข้าไปผมคิดว่าทางในเมืองไทยดีที่สุดในพื้นที่นี้แล้ว เหมืองอยู่ในป่า ผมได้มีโอกาสเข้าไปในถ้ำ เพราะอยากจะไปเป็น ad อยู่แล้วไหน ๆ ไปแล้วก็ไปรับสักหน่อยลงไปเกือบหนึ่งกม.จากพื้นดินไม่เคยเห็นมาก่อนสวยมาก สงบ เย็น สิ่งที่แปลกมากคือไฟฉายที่เอาอัดไฟไว้อย่างดีอยู่ ๆ ก็เกิดหมด พอมาถึงบ้านเต็มเหมือนเดิมแปลกดีเหมือนกันยังไม่ทราบสาเหตุ แต่รู้ว่าอาจเกิดจากแรงกดดันอากาศก็ได้ หรือสิ่งที่อยู่ในนั้นเล่นกลเราก็ได้เพราะเป็นเหมืองเก่าสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ย่อมมีจิตหลายดวงอยู่แล้ว และได้เอาเครื่องไปวัดดูก็บอกว่ามีอยู่เต็ม ก็สนุกดีครับ เอาเข้าเรื่อง กันดีกว่า การทำนายดาวจร เราถือว่า ดวงจันทร์เป็นจุดสำคัญมากในการดูจรรายวัน เพราะดวงจันทร์ในทางโหราศาสตร์เราไว้ใช้ดูรายชม. หรือบางทีก็เอาไว้ดูราย 2.50 วัน ตามแต่ที่เรากำหนดไว้ การดูรายวันก่อน เราก็ดูว่า ชม นี้เราเกิดอะไรขึ้น ยกตัวอย่าง วันที่ผมลงไปในถ้ำผมจับเวลาผมลง 10.45 จันทร์จรทำมุม 90 ลง กับ ดาว แอดมตอส ในพื้นดวงเลย ส่วนมากผมจะชอบจดเวลาที่สำคัญไว้แล้วนำไปตรวจกับดาวจรเสมอเพื่อดูว่ามันจริงไหม เราอย่าเชื่ออะไรโดยไม่มีการทดสอบ ผมทดสอบวงรอบของจันทร์มาหลายปีแล้วก็ได้ความว่าจันทร์นี้สามารถบอกเวลาได้อย่างแม่นยำ และอีกจุดหนึ่งที่น่าสนใจยิ่งคือจุด MP จรรายวันก็จะบอกเวลา ณ วันนั้นได้เช่นเดียวกันแต่บอกเป็นวัน เราต้องเข้าใจว่าเรื่องต่าง ๆมันต้องมีหลักมาจากวันก่อนแล้วลงมาถึงชม และนาทีต่อไป และนาทีที่อยู่ในถ้ำผมก็ดูลัคนาไปว่าไปเจออะไร ถ้ามีการได้รับบาดเจ็บจากก้อนหินหรือเลื่อนไหลบ้างเพราะในถ้ำมีแต่น้ำ มันก็ตรงไปหมด ลัคนาจะบอกถึงนาที เค้าเดิน 4นาที กว่าๆ ต่อ 1องศา เราก็เอามาดูรายนาทีได้เลย ตอนที่ผมโดนหินกระแทกหัวลัคนาก็เจออังคารพอดี ถ้าเราดูดี ๆ แล้ว โหราศาสตร์รายวันช่วยเราได้มากเราจะทำอะไรเค้าจะบอกหมดถ้าเราอ่านเป็นเข้าถึงวิญญาณของการเป็นนักโหราศาสตร์ได้ เราไม่ได้เพี้ยนไปแต่มีเครื่องมือ ใช้ตรวจวัดคือโปแกรมอยู่เสมอ การที่ผมจะเชื่ออะไรผมต้องทดสอบมาก่อนอย่างเช่นพลังงานที่มองไม่เห็นผมก็ไม่เชื่อ แต่เมื่อไปซื้อเครื่องมือจับสนามพลังมาจาก usa ตัวหนึ่งก็หลายเงินพอดูและได้ทำการทดสอบดูหลายสิบหนก็สรุปว่ามันมีจริง เพราะเรามีการตรวจวัดเสมอ ตอนนี้ก็เลยกลายเป็นคนจับผีไปอีกอาชีพหนึ่งมีคนให้ไปเช็คว่าบ้านนี้มีพลังงานดีหรือไม่ดีสบายมาก เพราะเรามีเครื่องมือ และจิตที่เป็นสมาธิ เราก็สามารถคุยกับเค้าได้ไม่ยากถ้าท่านฝึกนะครับ วันนี้เอาเรื่องดาวจรที่ใกล้โลกมากที่สุดและเห็นการทำงานได้มากที่สุด มาคุยพร้อยยกตัวอย่าง ดังนั้นดาวจรไปทำให้ดาวพื้นดวงทำงาน หรือบางทีดาวพื้นดวงก็ทำมุมกันเองแต่มันต้องทำมุมถึงจุดเจ้าชะตาเราด้วย ถึงจะทำงานนะครับ จำไว้ คราวหน้าเรามาคุยจรรายวันกัน

 

 

อุปนิสัยของดาวที่ส่งผลถึงดวงชะตา

ปัญญาความสามารถอย่างบริสุทธิ์           พุธ   เนปจูน  อาพอลอน, พุธ/ เนปจูน  โพไซดอน

นักวิเคราะห์                                             พุธ  อังคาร แอดเมตอส

ไร้สาระ(banal)                                        เนปจูน อาพอลอนพุธ พฤหัส ฮาเดส

มั่งคง                                                       อังคาร พฤหัส แอดเมตอส

รู้สึกนึกคิด                                                อาทิตย์ พุธพุธ อังคาร วัลคานุส

ขี้โมโห                                                     พุธ  มฤตยู  วัลคานุส

เข้ากับใครไม่ค่อยได้                                จันทร์ อังคาร,   ศุกร์ อาเดส อาพอลอน

มีระเบียบวินัย                                            อาทิตย์ จันทร์ เซอุสอาทิตย์ พฤหัส แอเมตอส

                                                                 เซอุส วัลคานุส โพไซดอน

เห็นแก่ตัว                                                 ศุกร์ โครโนส แอดเมตอส

อิจฉาริษยา หึง                                         จันทร์ ศุกร์ พลูโตเสาร์ คิวปิโด วัลคานุส

ดื้อ                                                            อังคาร โครโนส  วัลคานุส

คิดด้านเดียว                                            พุธ พฤหัส แอดเมตอส

เด็ดเดี่ยว                                                   อังคาร เซอุสเสาร์ มฤตยู เซอุส

แสดงออก                                                 อาทิตย์ อังคาร อาพอลอน, อาทิตย์ พุธ ศุกร์

ประเภทความรู้สึก                                     ศุกร์ อังคาร  คิวปิโด

ช่างจำ                                                      พุธ ฮาเดส โพไซดอน

เข้ากับคนอื่นได้                                       ศุกร์  อาพอลอนพฤหัส พลูโต

อุดมการณ์                                               โครโนส  ไพไซดอน

บทที่ 17
มีคนสนใจเรื่องถ้ำที่ข้าพเจ้าได้เข้าไปสำรวจแหล่งแร่ทองหรือเรียกกันว่าสายแร่ทอง ว่ามีหรือไม่ ณ แผ่นดินเมืองเขมร เพื่อนบ้านเรา มันคือ แอเมตอส นั้นเองหลุมลึก ๆ เค้าจะให้เรียกว่า แอเมตอส ที่มีความหนาวเย็น และบางครั้งก็อาจพบพลังงานหลายรูปแบบ จนทำให้เครื่องมือจับพลังงานของผมทำงานกันใหญ่ เพราะเครื่องมือของผมสามารถจับคลื่นพลังงาน ที่เรามองไม่เห็นได้มีอยู่ไม่กี่เครื่องในเมืองไทย เสียงเค้าจะดังเป็นระยะ ระยะ บอกว่าตรงส่วนนี้มีพลังงานที่รออยู่ จากหาทองกลายเป็นไปจับผีกันไปเลย มันก็สนุกดี เพราะที่หลุมนี้มีประวัติอันยาวนานสมัยสงครามโลกครั้งที่สองที่ฝรั่งได้มาพบและขุดทองไปแล้วและมีคนตายนับร้อย ๆ  คนย่อมมีพลังงานพวกนี้อาศัยอยู่ในหลุมลึก ๆ ดีที่ไม่เจออะไรเพียงแต่จับเป็นพลังงานได้ ส่วนมากเค้าจะไม่ให้เราเห็นตัวเราจะจับเค้าได้ด้วยเครื่องวัดเท่านั้น วิญญาณ มีจริงหรือยังไม่มีใคร
บอกได้แต่ผมบอกได้ว่าพลังงานจากการวัดนั้นมีจริง ไม่ใช่คนแน่ๆ มันคือพลังงานของคนที่จากเราไปแล้วหลายสิบปีอย่างน้อย ๆ ก็ 60-70 ปีที่ผ่านมา ผมได้เดินลงไปจนถึงจุดที่ลึกที่สุดของถ้ำ มีแต่ความเย็น หนาว ความอับชื้น และมีความสงบเงียบน่านั่งสมาธิมาก ทางเหมืองเค้าจะระเบิดออกไปเพื่อหาทองเป็นถ้ำ เล็ก ๆ น้อย ๆ ตามสายแร่ แร่มันจะมีทางเดินของมันผมได้เห็นสายแร่และได้เพิ่งรู้จักกันคราวนี้ ที่ลงไป สายแร่ทองเป็นรูปร่างหน้าตาเป็นอย่างนี้หรือ คนถึงมาหามันตายเพราะมัน ความรู้สึกของผมรู้สึกสงบไม่กลัวอะไร มันเหมือนไปอยู่อีกโลกหนึ่งไม่มีเสียงนกเสียงรถยนต์ เสียงคนคุยกัน มีแต่เสียงลมพัดผ่านเข้าไปและมีแต่เย็น ๆ และความชื้น ใครลงไปรับรองว่าต้องขึ้นมาอย่างแน่นอน เพราะว่ามันน่ากลัวเหมือนกัน แต่สำหรับพวกที่ทำงานในนั้นเค้าชินเสียแล้ว สนุกดี ถามเค้า ทางเดินก็มีดวงไฟเป็นระยะ ๆ ยิ่งเดินยิ่งลึกถ้าไปคนเดียวหลงแน่นอนเพราะทางออกมีหลายทาง เหมือน ถ้ำวงกต หนทางสลับสับซ้อน อย่างไรอย่างนั้น ข้าพเจ้าได้เข้าไปถึง
แอเมตอส แล้ว ในช่วงที่อยู่ใต้ดิน บนพื้นก็มีคนดูที่จอคอมฯ  ว่าเรากำลังทำอะไรกันอยู่ต้องแปลว่าดาว ตอนไหนเอาหัวไปกระแทกกับหินก็เช็คได้จากดาวอังคาร การได้รับบาดเจ็บเราก็เช็คได้จนออกมา การขึ้นหรือลงทางเหมืองเขาใช้ลวดเส้นใหญ่ดึงขึ้นลง ได้ทีละห้าหกคน พร้อมกับถังที่ใช้ใส่หินที่ขุดได้ขึ้นมาบนผิวดินเพื่อนนำมาบดหาทองกันต่อไป ดูแล้วไม่ใช่ง่าย ๆ เลยในการหาทองทางใต้พิภพ ในครั้งนี้ก็ขอบอกว่าคงไม่ลงไปอีกแล้ว ขาขึ้นได้เก็บหินขึ้นมาสองสามก้อนไว้เป็นที่ระลึก ในการลงไปครั้งนี้ และได้ข่าวมาว่าจะได้ไปดูอีก เพราะเขมรไม่มีความรู้ทางด้านนี้ ที่จะนำทองออกมาหรือการสกัดทองออกจากหินอีกที ต้องเอาหินมาบดและไปทำการแยกทางเคมีถึงจะได้ทองออกมา ส่วนราคาคงบอกไม่ได้เพราะราคาทองที่ขุดได้แต่ละครั้งจะไม่เท่ากัน วันไหนได้มากก็โชคดีไป  มันน่าสนใจที่ว่าโปรแกรมที่ได้ออกแบบมาสามารถติดตามดูคนที่อยู่ได้ดินได้เพราะผมจะจดทุกอย่างและขึ้นมาเทียบกับเครื่องมันตรงกันหมดเลยไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อว่าโหราศาสตร์มันทำได้ถึงขนาดนี้ ที่เขียนขึ้นมานี้มาจากเรื่องจริง ไม่ว่าที่ไหนเราจะพบกับพลังงานที่ไม่มีตัวตนอยู่เสมอถึงในถ้ำที่ลึก ๆ ก็ยังมีพลังงานพวกนี้อยู่ ดังนั้นแอเมตอส อาจแปลได้ว่าพลังงานอย่างหนึ่งก็ได้ ใครจะไปรู้

 

ก่อนอื่นต้องขออภัยด้วยที่หายไปเพราะช่วงนี้งานสอนมีมาก คิดถึงคนผู้อ่านที่พยายามเข้ามาอ่านแต่ละคนก็มีความมุ่งหมายไม่เหมือนกันก็แล้วแต่ท่านเข้ามา แต่สิ่งที่เขียนไปอาจช่วยให้ท่านมีความรู้บ้างเพราะผมจะไปสอนแบบเดิม ๆ ว่าดาวดวงนี้ทำมุมกับดาวดวงนั้นแล้วเกิดอะไรมันของธรรมดาอาจทำให้ท่านจำยาก เลยใช้วิธีเขียนเป็นบทความจะดีกว่า อ่านแล้วสบายเหมือนไม่ได้เลยแต่เข้าใจในเมื่อวันใดเรามาเรียนการผสมดาวที่สำคัญมากเพราะส่วนมากก็จะไม่ค่อยผ่านตรงจุดนี้ตีกันไปต่าง ๆ นา ๆ บางคนก็เข้าป่าไปเลย ก็มี เมื่อวานไปเห็น web หนึ่งเป็นเด็กหนุ่มเค้าทำ web ก็ดีน่าสนใจมีแต่สอนเหมือนอยากบอกให้คนอื่นรู้ว่าตัวเก่งไปเรียนมาจากเมืองเยอรมันมา ก็ดีครับได้ความรู้แต่ไม่ตรงจุดการเรียนการสอน เพราะเค้าจะยกตัวอย่างก็ดี แต่เนื้อหามากเกินไป คนที่หัดเล่นใหม่ ๆ ก็จะเกิดความ งง ดูไปเหมือนคนเขียนเก่ง แต่อ่านแล้วเหมือนกับการเป็นดาว เนปจูน นิด ๆ ดาวเนปจูนใครรู้บ้างว่าแปลว่าอะไร ไปหาดูนะครับใครตอบได้บอกมาจะมีของแจก ตาม e-mail ตอนท้ายนะครับ เราเรียนดาวก็ต้องพูดเป็นภาษาดาวกันดูกว่ามันกว่านะ
วันนี้จะคุยเรื่องดาวสองตัวที่มีความเหมือนกันมาก คือ ดาว เนปจูน และโพไซดอน ตัวย่อเค้า
NE เนปจูน PO
โพไซดอน เรามาคุยเรื่องดาวเนปจูนกันก่อน เป็นชื่อเทพเจ้าแห่งน้ำในสมัยก่อนหลายพันปี  เค้าชอบเอาชื่อเทพเจ้ามาตั้งเป็นชื่อดาว เจอดาวดวงไหนเห็นว่าน่าจะเป็นอะไรก็ตั้งให้ตรงกับความเป็นจริงของสิ่งของบนโลกและเอาชื่อเทพเจ้าที่ใกล้สิ่งนั้นมาเป็นชื่อดาว น้ำ สารเคมี หน้าไหว้หลังหลอก จิตนาการ สิ่งที่จับต้องไม่ได้เราก็ใช้ดาว เนปจูนแทนเข้าไป ดังนั้นดาวดวงนี้มีสองสถานะ คือเป็นวัตถุ กับ ความรู้สึกที่จับต้องไม่ได้ ส่วนมากดาวก็มีอยู่สองความหมายของมันคือวัตถุ กับความรู้สึกที่จับต้องไม่ได้ เมื่อเราอ่านดวงหนึ่งเค้ามีดาวเนปจูนแรงๆ เราก็อาจมองไปว่าเค้าเป็นคนหลอกลวง หรือทำงานเกี่ยวกับสารเคมี หรืออยู่ในที่มีของเหลว เช่นใกล้น้ำ ทะเล เป็นต้น หรือขายของเหลวก็ได้ และอีกอย่างหนึ่งที่เค้าใช้แทนกันคือ พลังงานที่มองไม่เห็น คือผี ก็ได้ แต่เป็นชั้นต่ำ ถามผมว่าเคยเจอเนปจูนไหม ก็ตอบได้ว่าสัมผัสกับเค้าได้แต่มองไม่เห็นรูป เพราะพวกนี้ไม่มีรูปเป็นเพียงพลังงาน การที่เราเห็นผี มันมาจากพลังงานไปสั่งจิตให้สร้างภาพให้เห็นเป็นตัวขึ้นมาถ้าคนเราจิตแข็งก็ไม่สามารถทำได้ คนจิตอ่อนมักเห็นพวกนี้บ่อย ส่วนตัวข้าพเจ้าจะว่าจิตแข็งก็ไม่แข็งมากแต่ต้องใช้เครื่องมือหรือการสัมผัสด้วยจิตเพราะผมฝึกสมาธิมานาน พอสมควร จะรับพลังงานตัวนี้ได้แต่ก็ยังไม่ค่อยเชื่อเวลาเจอเค้าต้องใช้เครื่องมือเป็นตัวตัดสินอีกทีว่าใช่หรือไม่เพราะอาจจิตหลอกเราได้ เหมือนการอ่านดาวผิด ทำให้เราหลงทางไป บางคนตีดาวผิดทำให้คนดูต้องเสียงอะไรหลาย ๆ อย่าง ไป เช่นตีว่าเป็นโรคนี้บ้าง โรคนี้บ้าง แต่จริงแล้วการตีความอาจไม่ตรงนักเลยทิ้งน้ำหนักให้เป็นโรคนั้นไปเลย เจ้าของดวงถ้าจิตไม่ดีก็จะเป็นไปตามคนทำนายได้ เกิดความกลัวขึ้นมา เค้าเรียกพวกนี้ว่าพวกจิตอ่อน ใครพูดอะไรก็เชื่อ และไม่มีความเป็นตัวของตัวเอง เชื่อไปหมอดูคนไหนมากอะไรก็ทำหมด อย่างนี้ผมว่าต้องแก้ไขที่เจ้าตัวกว่าคนทำนาย มีอยู่เรื่องหนึ่งเป็นเรื่องจริงเกี่ยวกับดาวเนปจูนเพิ่งเกิดสด ๆ มีคนมาดูดวง คือลูกศิษย์เค้าพามาหาว่าทำไมเค้าเปิดร้านแล้วมีความรู้สึกว่าทางบ้านเค้ามีเรื่องไม่ค่อยดี จิตไม่สงบ จากที่เคยใช้ชีวิตเดิม ก็มีอะไรแปลก ๆ หลังจากเปิดร้านอาหารใหม่ขึ้นมาบนที่เช่าที่ดินมา  ผมก็เป็นนักโหราศาสตร์ธรรมดาคนหนึ่งแต่ว่าง ๆ ก็ดูให้ เพราะการดูมากจะทำให้เราตีดาวได้แตกมากขึ้นเพราะดาวเค้าจะสอนเราไปเอง อ่านพื้นดวงและดาวจรผมกันไป สรุปไม่ออก อยู่นาน เลยถามประวัติ สิ่งนี้เป็นสิ่งจำเป็นว่าเราต้องทราบประวัติเหมือนการรักษาโรคอะไรสักโรคเราต้องถามอาการที่เค้าเป็นมาก่อนอยู่ๆ ไปตีว่าเค้าเป็นโรคนั้นโรคนี้เลยมันก็อาจทำให้ผิดได้ ถามหลักการดูแล้วผู้ทำนายต้องถามเจ้าชะตาด้วยถือว่าไม่ผิดและคนถามก็ไม่ถือว่าไม่มีความรู้ เวลาไปหาหมอยังถามเราเลยว่ามีอาการอะไรถึงมาหา จะได้รักษาถูกจุดเราไม่ใช้พระเจ้าจะรู้ไปหมด เหมือนเด็กหนุ่มที่ให้คนเข้ามาทายว่าดวงคนนี้เป็นอะไร ตายหรือยัง คิดว่าไม่ถูกเราต้องบอกข้อมูลบางส่วนให้ผู้เล่นเค้าทราบประวัติบ้าง ไม่ก็ตีกันเข้าป่ากันหมดเห็นแล้วก็สงสาร สมองอันน้อย ๆ ที่หลงไปตีความโดยขาดข้อมูล ถ้าไม่ต้องถามต้องไปเป็นหมอดูอีที แล้วเค้าใช้จิตดูเอาไป ก็พอจะทราบได้ แต่เราต้องตีดาวและดาวเค้าก็มีตั้งหลายความหมาย ให้เทวดามาทายก็ไม่ถูก มาเข้าเรื่องกันดีกว่าพอถามได้ความ และดาวจรมันก็บอกตรงกับที่เค้าบอกว่าเราก็มีความมั่นใจว่าการทำนายของเราน่าจะถูกทางบ้างแล้ว เราจะค่อยๆ ตีจากภาพใหญ่ ๆ มาหาภาพเล็ก จนจับความหมายดาวที่บอกเราได้ว่า เจ้าชะตาโดนของ หรือคนทำของมา เพราะในวงการโหราศาสตร์การดูคนที่โดนของไม่ยากดูง่ายจากดวง เอาไว้ท่านติดตามผมไปจะบอกให้ สรุปว่าโดนแน่เลยบอกเค้าไปว่ามีอาการอย่างนี้ไหม ตามคนโดนของเพราะเจ้าของที่เค้าต้องการที่กลับมาเพราะขายดี เลยใจร้ายไปหน่อยทำให้ป่วยบ้างครอบครัวมีปัญหาบ้าง คนในบ้านป่วยบ้าง พวกนี้บาป อย่าไปทำ สักวันมันจะกลับเข้ามาหาตัวเค้าเอง ดาวเนปจูนมันเด่น ด้วย และมีดาวที่เกี่ยวกับพวกนี้ด้วย เพราะผมไปเจอจุด ha/ap เข้าไป แบบได้ว่าโดนของ ทำขึ้นมา ก็เลยรีบสั่งให้ทำการโยกย้ายร้าน โดยที่ไม่ให้เค้าเข้าไป ณ สถานที่นั้น ตั้งแต่วันที่มาดูเจ้าชะตาก็ไม่เข้าไปอีกเห็นลูกศิษย์บอกว่าคนดูเชื่อ แต่คิดว่าคงจะอาการดีขึ้น การให้คำทำนายออกไปเราต้องรับผิดชอบด้วย ว่าตรงไหม ไม่แล้วเราจะบาป เปิดความลับฟ้าผิดไปคนทำหลงทางอีก แต่คราวนี้ตรวจนานและมั่นใจ เลยแทงไปว่าโดนของเพราะมีเรื่องของวิญญาณ มาด้วย โปรดติดถามตอนต่อไปนะครับ ใครอยากได้การที่ตอบได้ decha99@hotmail.com  ส่งถึงบ้าน