บทที่
313

วันนี้เรามาคุยกันเรื่องความหมายดาวกับส่วนต่างๆ ของร่างกาย ในเวลาท่านเช็คเรื่องสุขภาพ จะได้ทราบว่าส่วนไหนของร่างกายเกิดมีปัญหาคือดาวดีไปชนกับดาวร้าย หรืออยู่ในราศีร้าย หรือในราศีที่เป็นส่วนต่าง ๆ ของร่างกายและดาวนั้นเด่น ก็ส่งผลได้เหมือนกัน การดูควรจำและทำบันทึกไว้ว่าการทำนายของเราออกมาตรงหรือไม่ หรือกับเราปรับแต่งเครื่องยนต์ให้วิ่งได้ดีฉันนั้น
การทำนายต้องมีการพัฒนาการในตัวของมันเองอยู่ตลอดเวลา
ความรู้เรื่องดาวกับสุขภาพ

อาทิตย์ เด่น มักมีปัญหาทางด้านหัวใจ ประสาท ตาขวาของชาย ตาซ้ายของหญิง ประสาทการมองเห็น  และซีกขวาของร่างกาย

จันทร์  สมอง  ตาซ้ายของเจ้าชะตาชาย ตาขวาของเจ้าชะตาหญิง กระเพาะอาหาร ท้องพุก ซึกซ้ายของร่างกาย ลำไส้ เต้านม กระเพาะปัสสาวะ อวัยวะเพศ และตับของเจ้าชะตาหญิง

พุธ  มันสมอง  ประสาท  ความทรงจำ  การมองเห็นภายต่าง ๆ ลิ้น  มือ และนิ้วมือ น้ำดี ตับ ปอด ขาอ่อน  อวัยวะที่เกี่ยวกับการพูดการได้ยิน

ศุกร์  มดลูก  ไต อวัยวะสืบพันธ์ ของสตรี เต้านม  คอ บั้นเอว ก้นกบ ตับ กลิ่น

พฤหัส  ตับ เส้นโลหิตแดง ชีพจร ความดัน

เสาร์   หูขวา กระดูกในร่างกาย ฟัน

มฤตยู  น่อง  ข้อเท้า  ไขมันในกระดูก  มันสมอง ประสาทแข็ง

เนปจูน  เท้า นิ้วเท้า

พลูโต การติดเชื้อทางด้านการสืบพันธ์

คิวปิโด ติดเชื้อทางการร่วมเพศ ผิวหนังไม่ดี โรคจิต

ฮาเดส   ผิวหนัง ไม่ดี ฝีหนอง ตามร่างกาย สิว

เซอุส   ความดันเลือด สูงต่ำ ความร้อนในร่างกาย ไข้หวัด

โครโนส แขน ขา กระดูก หัก ได้ง่าย

อาพลอลอน ตับ ถุงน้ำดี

วัลคานุส ความอ้วน มีน้ำหนักมาก ไขมันในเส้นเลือด

โพไซดอน  เลือดในร่างกายไม่ปกติ สมองผิดปกติ คิดแปลก ๆ

บทที่ 314

สวัสดีครับครับ นักเรียนทั้งหลาย วันนี้จะบอกว่าเราจะมีการคุยเรื่องปัญหาต่าง ๆ ถ้าอ่านไม่เข้าใจ จะเข้าไปในห้อง chat Room
ที่ทำไว้ให้หน้า web ที่เย็นวันเสาร์จะเริ่มเสาร์หน้าครับใครมีปัญหาก็อ่านๆ ไป ไม่เข้าใจก็คุยกัน ดีไหม วิธีนี้ก็เป็นการเรียนแบบหนึ่ง ท่านต้องอ่านให้มาก ถ้าจากเป็นนักโหราศาสตร์ที่ดี ดีแม่น ๆ  โปรดอ่านให้มากและติดตาม โหราศาสตร์วันละนิด จะช่วยให้ท่านไม่ลืมของเก่า และจะทำให้ท่านเข้าใจแบบไม่รู้ตัว โปรดติดตามไปนะครับจนกว่าคนเขียนจะหมดแรงไป ระยะนี้ก็ต้องหลบดาวหน่อย อังคารจะทับอาทิตย์กำเนิดแล้วปลาย เดือนนี้ และเสาร์ก็จะออก จากราศีคนเขียน ระหว่างที่เค้าออกเค้าจะทิ้งท้ายไว้ให้หน่อยระวังดาวย้ายราศีให้ดีนะครับนี่เป็นเคล็ดลับบางอย่างจะบอกไว้ให้ วันนี้เรามาคุยเรื่องการดูรายปีว่าเป็นสิ่งสำคัญมาก ๆ ในการทำนายเรื่องอื่น เป็นการทำนายจร ที่มาก่อนอื่นก็ว่าได้ ว่าปีนี้จะมีเรื่องอะไร ท่านต้องดูรายปีเป็นหลักใหญ่ไว้ก่อนเสมอ การดูรายปีมีหลายแบบ วันนี้เอาแบบนี้ก่อน จะได้ไม่ งง
 

การพยากรณ์โดยระบบ Solar Return

เป็นดวงการพยาการณ์รายปีอีกชนิดหนึ่งเป็นการใช้ดาวจรวงนอกเข้าช่วยในการบอกเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่จะเกิดการปีอีกชนิดหนึ่ง ตามแนวความคิดของข้าพเจ้าแนะนำให้ใช้คู่กับพื้นดวงจรด้วยโค้งผสมกันไปด้วยจะให้ความแม่นยำยิ่งขึ้นและดวง solar return จะสามรถบอกเหตุการณ์รายเดือนได้อีกไปถึงรายวันด้วย เค้าจะทำหน้าที่ต่อจากพื้นดวงจรด้วยโค้ง ข้อดีของดาวจรวงนอกอยู่ที่ตรงนี้ แต่โค้งจะหยุดบอกแค่รายปีเท่านั้น แต่ ดาววงนอกจะบอกไปถึงนาทีที่จะเกิดเหมือนเป็นการรับช่วงต่อไปอีกให้ไปถึงจุดหมายปลายทางที่เราต้องการทราบเรื่องนั้นว่าจะเกิดขึ้นตอนกี่นาที ก็จะเข้าเรื่องดวงการณ์ชะตาเหมือนกัน การดูดวงรายปี solar return นี้ให้เราไปตั้งอาทิตย์จรรายปีทับอาทิตย์กำเนิดนำ พ.ศ. ที่เราต้องการทราบ เช่นเจ้าชะตาเกิดวันที่ 16/05/2478 ตอนนี้เราอยู่ เดือน เมษายน พ.ศ. 2548 เราก็ต้องกลับไปดูตั้งแต่ 16/05/2547 ถึง 16/05/2548 เพราะยังไม่หมดปี และควรเช็คต่อไปโดยกด Solar return หมุน พ.ศ.ไปปี 2548 ได้เลย ก็จะเป็นเหตุการณ์ปี 2548 แล้ว ท่านต้องจำเป็นหลักเลยเมื่อเราตั้งอาทิตย์จรทับอาทิตย์กำเนิดแล้วดาววงนอกทั้งหมดจะปีเรื่องของปีนั้นๆ เท่านั้นไม่ได้บอกรายวันต่อไปแล้ว วงกลมวงนอกจะเป็นเรื่องของปีนั้นทั้งหมด ท่านอย่าซับสนเรื่องวัน ดวงวงนอกก็เหมือนพื้นดวงของท่านจรรายปีเช่นเดียวกับพื้นดวงนั่นเอง เราสามารถวัดมุมเข้าถึงกันได้ เหมือนดาววงนอกไปปลุกพื้นดวงให้ทำงานขึ้นมาว่าปีไหนจะเกิดเรื่องอะไร ดาววงนอกจะเหมือนเข็มนาฬิกาที่ตีบอกเวลาว่าท่านกำลังจะเกิดเหตุอะไรแล้วจะตีไปถึงนาทีด้วย ดังนั้นการดูด้วยโค้งก็เป็นการดูแบบหนึ่งแต่บอกถึงปี แต่ดวงวงนอกถ้าท่านรู้ว่าปีนี้มีอะไรเราสามารถหาต่อไปถึงเดือนได้ การทำมุมของดาวจะสัมพันธ์กันหมดทั้ง โค้ง ปัจจัยที่เราตั้งขึ้นเช่นจุดอิทธิพลแลศูนย์รังสีทั้งวงนอกและวงใน ทั้ง บวก arc ลบ arc ก็นำมาใช้ทำมุมได้หมด ดาวสะท้อนก็ได้เช่นเดียวกัน เช่นดาวพฤหัสวงนอกทำมุมถึงจุดรับเงินบวกโค้ง ก็ถือว่าจุดรับเงินทำงานแล้ว หรือพฤหัสวงนอกไปทับโค้งพฤหัสวงในก็ถือว่าทำงานแล้วเช่นเดียวกัน ทั้งสองวงกลมจะเป็นหนึ่งเดียวกันหมด ไม่มีอะไรแตกต่างกันเลย วงในคือพื้นดวงกำเนิด วงนอกคือพื้นดวงจรรายปีที่เปลี่ยนไปตามการโคจรของดวงดาว ท่านต้องมองว่าพื้นดวงคือกรรม ส่วนดาวจรวงนอกคือเวลาที่มาปลุกให้กรรมดีหรือกรรมไม่ได้ตื่นขึ้นมาทำงานท่านนั้นเอง เรื่องของการดูจรไม่ยากแต่ต้องจำไว้ว่าวงนอกคือรายปีเท่านั้นไม่ใช่รายวัน แต่เมื่อเราเปลี่ยนอาทิตย์ออกไปแล้วดาววงนอกก็ไม่ใช่รายปีแล้วจะเป็นรายวันก็ไป ก็จะเป็นเรื่องของการดูการณ์ชะตาไป ว่าวันนี้จะเกิดอะไร

                หนึ่งท่านอาจเช่นดาวจรวงนอกอย่างเดียวก็ได้โดยไม่ต้องทำโค้ง ใช้ดาววงนอกตีเข้าหาพื้นดวงเลยก็ได้ ตั้งจุดอิทธิพลและศูนย์ รังสีเข้าไปถามว่าถึงจุดเจ้าชะตาหรือไม่ก็ได้เช่นเดียวกันเป็นการดีแบบรายปีแบบ Solar return เลยแต่ความมั่นใจจะน้อยลงไปหน่อย ในการตัดสินใจ แต่ก็บอกเหตุการณ์สำคัญได้เช่นเดียวกัน แต่การตัดสินใจจะน้อยลงไปว่าจะเกิดหรือไม่ จึงต้องมีสองระบบเข้ามาช่วยกันตัดสินใจ ท่านพอจะมองออกถึงความแตกต่างระหว่าง ดาวจรวงนอกและพื้นดวงจรตามอายุขัยหรือยัง

บทที่ 315

วันนี้มาช้าหน่อยเพราะกิจที่ต่างจังหวัดใกล้ ๆ มา วันนี้จะมาคุยเรื่องการหาเวลาเกิดที่แท้จริง มีหลายท่านที่เวลาเกิดไม่ตรง อาจทำให้การทำนายไม่ตรง สิ่งที่ท่านจะต้องปรับพื้นดวงมีอยู่สามจุดเท่านั้น คือ
mc as mo ที่สามารถปรับได้นอกนั้นดาวอื่น ๆ จะลงที่ไม่มีการปรับทั้งสิ้น แต่จุดเจ้าชะตาทั้งสามจุดมีความอ่านไหวมาก ถ้าไม่ตรงก็จะทำให้เราหลงทางในการทำนายได้ หรือทำนายไปก็ไม่ตรง หรือดูเหตุการณ์ สำคัญ ต่าง เป็นนาที หรือ ชั่วโมงก็อาจไม่ตรง ทำให้ท่านมองไม่เห็นตัวตนของเจ้าชะตาอย่างแท้จริง เลยทำให้เกิดการทำนายผิดไป สามจุดนี้มีความสำคัญมาก เราอาจหรือสิ่งที่มายืนยันว่าเวลาที่เอามาใช้ถูกต้องหรือไม่ ก็มีการดูเหตุสำคัญที่เกิดขึ้นในแต่ละวันที่สำคัญจริง ๆ เรื่องนั้นจะเข้าทั้งสามจุดดังกล่าว หรือสอบกลับไปหนหลัง ว่ามีเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นจริง ก็จะทำมุมถึงทั้งสามจุด ไม่ทำมุมสัมพันธ์อะไรก็ตาม ถามว่ายากไหมก็ไม่ยากถ้าท่านมั่นฝึกซ้อมบ่อย ๆ และเก็บข้อมูลให้มาก เราก็สามารถรู้เวลาเกิดที่แท้จริงเค้าได้ วันนี้จะเอาเพียงแค่นี้ก่อนว่าท่านเข้าใจไหม ว่าอะไรจะเกิดต้องโดน สามจุดนี้ ไม่จุดใดก็จุดหนึ่ง อาจใช้เวลานานพอสมควร ถึงจะทราบได้ ถ้าเจ้าชะตาจำเรื่องหนหลังได้ยิ่งดี เรื่องต้องเป็นเรื่องใหญ่ ในชีวิตเจ้าชะตาเท่านั้น เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ อาจทำให้เราไม่สามารถมองไม่เห็น และนำมาใช้ในการปรับเวลาเกิดได้นะท่าน พรุ่งนี้จะมาคุยกันใหม่ ท่านปรับเวลาเกิดของท่านแล้วหรือยัง.... ! เอาเป็นว่าเราจะคุยเรื่องกันยาวหน่อย ถ้ามีปัญหาอยู่ไกล ก็เข้ามา chat room ในวันเสาร์นี้ได้ 18.00 น เปิดใช้

บทที่ 316
    สวัสดีครับวันนี้เรามาต่อเรื่องการปรับเวลาเกิดกันต่อ เราจะได้อะไรจากการปรับเวลาเปิดให้ตรงก่อนทำนาย เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ แต่ไม่ค่อยมีให้ความหมายของมันมากนัก นอกจากเจ้าชะตาบอกเวลาอะไรก็เอามาใช้เลย ซึ่งจริงแล้วผิด ตั้งแต่เกิดแล้ว เราต้องเข้าใจว่า เวลามีสองเวลา คือ เวลาเกิด และเวลากำเนิด  จะ งง กัน เวลาเกิด คือเวลา ณ ตัวเด็กออกมาจากท้องแม่ หรือเวลา ณ โรงพยาบาล แต่เวลานี้อาจนำมาใช้ได้ชั่วคราว จริงแล้วเราต้องหาเวลา กำเนิด ซึ่งอาจเป็นเวลา เกิดเลย ก็ได้ หรือห่างออกไป ก็ได้ ขึ้นอยู่กับเราจะหาเวลานั้นได้ถูกต้องหรือไม่ มันยากพอสมควร แต่ก็ไม่ยากเกินความสามารถของเรา สิ่งแรกเราก็ใช้เวลาที่เค้าให้มาก่อน แล้วเราก็เช็ค เหตุต่าง ๆ ที่เจ้าชะตาได้ประสพมาในแต่ละวัน ว่าตรงกับสามจุดที่กล่าวไว้ในบทก่อนหรือไม่ แต่ต้องเป็นเรื่องสำคัญ เช่น การให้กำเนิดบุตร การเกิดอุบัติเหตุ ฯลฯ และคอยจับดูว่า เวลานั้น
AS MC MO ทำมุมถึงจุด AS MC MO ในพื้นดวงหรือไม่ เราต้องใช้วิธีนี้ก่อน หรืออาจดูว่า AS เค้า ควรอยู่ในราศีไหน MC ควรอยู่ในราศีไหน แล้วค่อย ๆ ปรับให้เข้ากับตัวตนของเค้าเช่นเจ้าชะตาเกิดใกล้น้ำ เราก็ปรับ as ณ เวลาเกิดให้เปลี่ยนไปทำมุมกับ NE อันนี้ตัวอย่าง ถ้าเค้าเกิดในที่สูง เราก็ปรับ  AS ทำมุมกับ KR ก็ได้ วิธีนี้ก็ง่ายดี หลังจากการปรับแล้วก็คอยนั่งดูเรื่องต่าง ๆ ที่เกิดมันจะตรงกับตำแหน่งที่เราปรับหรือไม่ ส่วนมากการปรับแบบนี้มักจะให้ผลดี และตรง พอ ๆ กับ การจับ เรื่องสำคัญที่เกิด ในแต่ละวัน เดือน ปี ที่ผ่านมา เราก็สามารถนำมาทดสอบ เวลาใหม่เราก็ได้ บอกอย่างหนึ่งถ้าเราปรับ as mc แล้ว mo ก็จะได้ไปในตัว จุดนี้ก็คือนั่งดู mo พื้นดวงว่ามีความสัมพันธ์ กับเรื่องที่เคยเกิดมาแล้วหรือไม่ จริงอยู่อาจจะยาก แต่ถ้าท่านฝึกไป สักวันหนึ่งท่านก็อาจใช้เวลาน้อยลง สมัยก่อนข้าพเจ้าก็ใช้เวลาปรับหาเวลาเกิด เป็นปี ตอนนี้เหลือ ครึ่งชั่วโมง ก็สามารถได้มาที่เกือบแท้มาใช้ได้ การได้เวลาแท้ อาจจะไม่ใช้เวลาเกิด ซึ่ง จะคุยในวันหลัง เวลาตรงไหนก็ได้ที่บอกเรื่องต่าง ๆ ให้กับเราได้เราก็ใช้เป็นเวลากำเนิดได้ เพราะเค้าจะบอกเรื่องต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้มากกว่า เวลาเกิด จริงไหม ท่านผู้อ่าน บทต่อไปเรามาคุยกันต่อยังอีกยาวท่านผู้มีสติ หยั่งรู้ทั้งหลาย จงหาความจริงในความไม่จริง แล้วท่านจะได้คำตอบ จะบอกให้ !
บทที่ 317
สวัสดีครับ วันนี้เรามาคุยกันเรื่องเวลาเกิดกันต่อนิดหนึ่งก่อนจะไปเรื่องอื่น เพราะอาจมีบางคนยังไม่ค่อยเข้าใจ สำหรับผู้ที่ไม่ได้มาเรียน มันก็เป็นเรื่องยากพอสมควร แต่สำหรับผู้ติดตามอ่านมาและมีพื้นมาบ้างแล้ว คิดว่าพอจับแนวทางการปรับเวลาเกิดได้ไม่ยากนัก เพียงเราเข้าไปปรับในตัวเวลาในพื้นดวง
mc as mo
ก็จะเปลี่ยนแปลงไปเพียงสามปัจจัยเท่านั้น จริงแล้วเราสามารถค้นหาเวลาที่แท้จริงได้ และสามารถปรับก่อนทำนายได้ เพราะถ้าเราใช้เวลาไม่ถูกต้องการดูแบบเป็นนาที ก็จะทำให้เราพลาดได้เช่นเดียวกัน แต่การดูภาพรวมใหญ่ เช่น รายปี รายเดือน อาจพอดูได้ แต่ถ้ารายวัน นาที อาจมีปัญหาอยู่บ้าง อาจทำนายไปแล้วอาจเกิดช้าหรือเร็วกว่าที่กำหนดไว้ก็ได้ ส่วนนี้มีผลมาจากเวลาเกิดไม่ตรงนั่นเอง อย่าไปคิดอะไรมาก ถ้าไม่มีอะไรเลยก็ใช้เวลาเกิดไปก่อน เราก็ดูเพียงปีสำคัญ เดือนสำคัญไปก่อน แล้วค่อยหาเวลามาปรับให้เจ้าชะตาอีกที คือการดูเรื่องสำคัญกันเลย ไม่ต้องไปย้อนดูเรื่องเก่า ๆ ดูเรื่องที่กำลังจะเกิดกับเจ้าชะตา เช่นวันนี้ได้รับเงินจากการขายที่ดินได้ เราก็นำมาหาได้เช่นเดียวกัน จุด ณ เวลาขายที่ดินรับเงิน ณ เวลานั้น เราก็เอาปรับปรับได้ ง่ายไหม แต่การปรับอย่างนี้อาจต้องใช้เวลาในการติดตามสักนิดเพื่อให้แน่ใจเสียก่อนว่าเวลาที่เราปรับนั้นถูกต้องตรงไปตามขั้นตอนหรือไม่ เพราะอาจพลาดได้ ถ้าตรงแล้วทุกอย่างจะเป็นไปตามเวลากำเนิดที่เราหาได้ และการทำนายก็จะไม่เคลื่อนที่ไปมากนัก ให้เป็นชั่วโมงก็ว่าได้ ถ้ายังไม่เข้าใจก็ติดต่อเข้ามาได้สอบถามกันเป็นรายคนก็ได้ ไม่อยากทิ้งส่วนนี้ไป เพราะเป็นเรื่องสำคัญในการทำนาย

บทที่ 318

สวัสดีครับวันนี้เรามาคุยเรื่องการหาเดือนสำคัญมีว่าอย่างไรไปดูกันครับ อาทิตย์นี้กับอาทิตย์หน้าเรียนตามปกติ แต่ปลายเดือนอาจมีการหยุดเพราะไปทำบุญ อาจมีการรวมกันบ้างเพื่อไม่ให้เสียเวลาเรียน แนวทางในการเรียนการสอนตอนนี้มีการปรับเปลี่ยน เล็กน้อย อยากให้นักเรียนมาพร้อมกันระยะนี้อย่าขาด ไม่แล้วครูขาดเองจะบอกให้ อิอิ หนีดาวอังคาร เจ้า
 

การทดสอบเดือนสำคัญ

          ในตามความจริงนั้น โค้งสุริยยาตร์ ระหว่าง จุดเมษ กับ แอดเมตอส บางปี ก็อำนวยให้เราสามารถที่จะวินิจฉัยได้เหมือนกัน ว่าในเดือนนั้น ๆ น่าจะเป็นเดือนสำคัญในชีวิตของเจ้าชะตาหรือไม่ ด้วยวิธีการทดสอบเหตุการณ์ พลัดพราก ย้อนหลัง

          ดังตัวอย่าง เช่น ในเดือนมีนาคม 2518 แอดเมตอส โคจรอยู่ ณ ตำแหน่ง ประมาณ 4 พค.35 ถึง

4 พค.49 ห่างจาก จุด ที่ทำมุม 45 องศา กับจุดเมษ เท่ากับ 10.25 องศา และ 10.11 องศา เมื่อแปลงอายุเป็นปีก็จะเท่ากับ 10 ปีกว่าเล็กน้อย ในการคิดโค้งสุริยยาตร์โดยละเอียดต้องคิดเดือน มีนาคม คือให้ถือเสมือนว่า เจ้าชะตาเกิดในเดือนนี้ หากสอบชีวิตจริงของเจ้าชะตาแล้วปรากฏเมื่อ 10 ปี กว่าที่ผ่านมานี้ 2508 มีเหตุการณ์พลัดพรากจากกันเกิดขึ้นแก่เขา เช่นย้ายที่อยู่ที่เรียนหรือพลัดพรากจากสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ ก็ย่อมจะหมายความว่า ประมาณเดือน มีนาคม นี้ เหตุการณ์ที่สำคัญ ๆ จะบังเกิดขึ้นแก่เขา หากสอบแล้วไม่ปรากฏว่าได้ประสบเหตุการณ์ดังกล่าว เดือน มีนาคม นี้ก็จะไม่มีเหตุการณ์สำคัญในชีวิตที่น่าสนใจเกิดขึ้นแก่เจ้าชะตา

          อย่างไรก็ดี ในการตรวจสอบเดือนสำคัญสำหรับชีวิตของเจ้าชะตาที่แน่นอนกว่านี้ ท่าน ย่อมสามารถที่จะปฏิบัติได้ โดยไม่ยาก โดยใช้ เสาร์ พฤหัส รวมทั้ง อังคาร ด้วย เป็นตัวสอบ ด้วยวิธีสอบ กับจุดเมษ เช่นเดียวกัน กล่าวคือ โดยอาศัยระยะระหว่าง เมษ กับ ดาวพระเคราะห์จรที่ใช้ทดสอบเช่นเดียวกับสอบโดย แอดเมตอส

1.     โค้งสุริยยาตร์ ระหว่าง เมษ กับ เสาร์ จะแสดงถึงการพลัดพรากจากกันในอดีต

2.     โค้งสุริยยาตร์ ระหว่าง เมษ กับ พฤหัส จะแสดงถึงประสบโชคลาภ ในอดีต

3.     โค้งสุริยยาตร์ ระหว่าง เมษ กับ อังคาร จะแสดงถึงความไม่อยู่เฉย ในอดีต ทั้งนี้รวมทั้งการได้รับบาดเจ็บ เมษ/อังคาร

การสอบระยะระหว่าง เมษ กับ พฤหัส เสาร์ อังคาร ตามที่กล่าวมานี มักอำนวยให้เราทราบ วัน ที่จะเกิดเหตุการณ์สำคัญ ๆ ได้บ่อย ๆ ดังนี้ก็เพราะ ดาวพระเคราะห์ทั้ง 3 โคจรค่อนข้างเร็ว เมื่อนำมาใช้ทำการสอบด้วย

บทที่ 319

วันนี้เรามาคุยเรื่องอาทิตย์ย้ายราศีกัน เป็นการทำนายรายเดือนเช่นเดียวกัน โดยระยะทางจะมากกว่าดู
new moo จันทร์จรทับจันทร์กำเนิดจะมีระยะสั่นกว่า แต่ก็สามารถทำนายได้เหมือนกัน สมัยก่อนนิยมกัน แต่ก็สามาใช้ได้ครับ อันนี้ก็น่าสนใจในการดูรายเดือนนะครับ
 

อาทิตย์ย้ายราศีบอกอะไรกับเราบ้าง

                อาทิตย์ ย้ายราศีเราไว้ใช้ในการดูเหตุการณ์รายเดือน หลังจากเราดูเหตุการณ์รายปีมาแล้วว่ามีเหตุการณ์ที่เราต้องการทราบ เมื่อเราทราบว่ามีเหตุการณ์สำคัญรายปีเกิดขึ้นมาแล้วไม่ว่าจะเป็นดวง
sola Returen หรือดวง สงการณ์ ก็ตามเราก็เริ่มมาหาเหตุการณ์รายเดือนต่อไป (แต่ควรผ่านรายสามเดือนก่อนก็จะดี) หลักการมีอยู่ว่าเราต้องบีบจากรายปีมาเป็นรายเดือน จาก 365 วัน เหลือ 30 วันและหรือ 3 วัน และดูให้เหลือ 1 วัน จนถึงรายนาที  ให้ได้ วิธีทำเราก็ตั้งจุดต่าง ๆ ไว้ที่รายปีไว้ ต่อไปเราก็หมุนอาทิตย์ตั้งแต่เดือนเกิดของเจ้าชะตาไปเลื่อย ๆ ว่าอาทิตย์ย้ายราศี ณ วันไหน และวันนั้นน่าจะมีความรุ่นแรงในเรื่องที่เราตั้งไว้ในรายปีหรือไม่ ว่าจุดต่าง ๆ ได้เข้าจุดเจ้าชะตา หรือเข้าแกน เข้าโค้ง หรือจุดอิทธิพลที่เราสร้างขึ้นมา เราจะต้องตรวจเช็คไปเลื่อย จนเจอเดือนที่น่าสนใจที่สุดภายในสิบสองเดือน เมื่อเราทราบเดือนแล้วเราก็สามารถบอกกับเจ้าชะตาได้แล้วว่าเดือนไหนน่าจะเกิดเหตุการณ์สำคัญ แต่น่าจะมีเดือนให้เจ้าชะตาเลือกสักสองสามเดือนเพื่อไม่ให้เจ้าชะตาถูกบีบจนเกินไปถ้าเราดูเรื่องร้าย ๆ แต่ถ้าดูเรื่องดี ๆ เราก็เพื่อไว้สักสองสามเดือน ที่แรงกันไว้สำหรับมือใหม่จะได้ไม่พลาด ต่อจากนั้นเราก็มาหาเหตุการณ์รายวันต่อไป

                การหาเหตุการณ์รายวันเราก็ดูจันทร์ย้ายราศีเพราะจันทร์ย้ายราศีทุก ๆ สามวัน เราก็ใช้วิธีเดือนกันกับการดูรายเดือนซึ่งจะแนะนำต่อไป เรากับมาสนใจเรื่องเหตุการณ์รายเดือนก่อนว่าสามารถบอกอะไรกับเราได้บ้าง

                ข้าพเจ้าบอกแล้วว่าเหตุการณ์รายเดือนต้องมาจากเหตุการณ์รายปีเป็นการดูต่อเนื่อง แต่เราสามารถดูเหตุการณ์รายเดือนได้ เป็นการดูแบบกาลชะตาได้เหมือนดูกาลชะตารายวัน แต่รายเดือนจะบอกก่อนว่าเดือนนี้เป็นอย่างไรเป็นภายใหญ่ ๆ ไว้ก่อน ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าสนใจมาก เราสามารถดูเหตุการณ์รายเดือนว่าเดือนนี้ดีหรือไม่ดีได้เช่นกัน ความแม่นยำสูงพอสมควร แต่เราต้องแยกออกจากการดูเหตุการณ์รายเดือนที่มาจากรายปี

                การดูเหตุการณ์รายเดือนแบบกาลชะตาเราก็ตั้งอาทิตย์อยู่ตรงเส้นแบ่งราศีได้เลยและตั้งจุดที่เราต้องการทราบเข้าไปถามเค้า เราสามารถใช้โค้ง จุดศูนย์รังสี จุดอิทธิพล จุดสะท้อน จุดสะท้อนวงนอกได้ด้วย เราก็ทราบว่าเดือนนี้เป็นอย่างไรบ้างก่อนที่เราจะมาดีกาลชะตารายวันกันต่อไปซึ่งเป็นเรื่องสำคัญเพื่อป้องกันการดูพลาดได้ ต่อไปเราก็มาดูจันทร์ย้ายราศีเพื่อกำหนดวันสำคัญที่น่าสนใจสำหรับเรื่องที่เราต้องการทราบต่อไป

                การดูกาลชะตารายเดือนจะบอกเหตุการณ์สำคัญที่เราคาดคิดเอาไว้ว่าได้หรือไม่ได้เป็นส่วนสำคัญ และเราก็จะมาดูว่าวันไหนจะเกิด ส่วนกาลชะตาที่บอกวันเดือนปี เวลามา และถามเราเรื่องใดเรื่องหนึ่งมันเป็นกาลชะตาอีกแบบหนึ่งแต่ก็เหมือน ๆ กัน แต่รายเดือนเราไม่คาดหวังว่าจะเกิดแต่เรารู้ว่าได้หรือไม่ได้ เป็นการรู้ล่วงหน้าแบบไม่มีเป้าหมาย

บทที่ 320

สวัสดีครับ วันนี้เรามาคุยกันเรื่องใกล้ตัวกันนิดหนึ่งคือดวงจันทร์ ใกล้ตัวเรามากที่สุดในดาวดวงอื่น ๆ ดวงจันทร์เราถือว่าเป็นดาวเคราะห์น้อย เป็นบริวารของโลก และใกล้โลกมากที่สุด เหมือนพี่น้องกัน จริงแล้วพวกดาวเคราะห์น้อยมีผลทางด้านโหราศาสตร์ค่อนข้างสูง และส่งผลแรงพอดูทีดู ยังไม่ได้พูดเกี่ยวกับดาวเคราะห์น้อยอีกห้าดวงเอาไว้ใกล้จบจะเขียนเล่าให้ฟังนะครับ วันนี้เอาดวงจันทร์ไปก่อนนะครับ ว่าเราได้อะไรจากดาวดวงนี้บ้าง
 

ดวงจันทร์ บอกอะไรกับเราบ้าง

                ดวงจันทร์หมายความดังนี้

1.     เจ้าชะตาหญิง ใช้สำรวจดวงเจ้าชะตาที่เป็นหญิงเป็นหลักก่อน และมาดูอาทิตย์เป็นเรื่องของกายสังขารของเจ้าชะตา เช่นจันทร์ทำมุมสัมพันธ์ถึงศุกร์ ก็จะแปลได้ว่าเจ้าชะตาเป็นคนสวย

2.     แม่ หรือบุคคลเพศหญิงที่ใกล้ชิด เราสามารถดูดวงของเจ้าชะตาไปถึงแม่ได้โดยให้สังเกตดูว่าจันทร์ของเค้ามีปัญหาอะไรหรือไม่ถ้าจันทร์ของเจ้าชะตามีดาวฮาเดส ทับอยู่ก็จะแปลได้ว่าแม่ของเจ้าชะตาอาจมีสุขภาพไม่ค่อยปกติ รวมไปถึงตัวของเจ้าชะตาด้วยไม่คนใดก็คนหนึ่ง เพราะเป็นสายเลือดเดียวกัน

3.     อารมณ์ ความรู้สึกที่ถูกกระตุ้นจากสภาพแวดล้อมต่างใกล้ตัว หรือเหตุต่าง ๆ ที่มากระทบทำให้ตัวเจ้าชะตามีอาการทางร่างกายและความรู้สึกเปลี่ยนแปลงไปชั่วคราว ถ้าจันทร์ในพื้นดวงทำมุมถึงเสาร์ก็จะแปลว่าเจ้าชะตามีความรู้สึกทุกข์อยู่ตลอดเวลา หรือไม่มีความสุขจากดาวเสาร์มากระทบเค้าก็จะเป็นคนอารมณ์เสียอยู่บ่อย ๆ ก็ได้ แต่ไม่ใช้จิตที่แท้จริงของเค้า

4.     ประชาชน หรือชมชนที่ตัวเจ้าชะตาสัมผัส เช่นตัวเจ้าชะตาต้องเข้าไปสัมผัสกับบุคคลเหล่านั้นเช่นผู้ร่วมงาน คนรับใช้ เราก็สามรถบอกในแง่มุมนี้ก็ได้

5.     ถ้าจันทร์อยู่ในราศีใดก็จะบ่งบอกถึงโรคสำคัญที่จะเกิดขึ้นกับตัวเจ้าชะตา เช่นจันทร์อยู่ในราศีกรกฏเจ้าชะตาก็ต้องระวังเรื่องเกี่ยวกับสำไส้ โรคกระเพาะอาหารเป็นต้น

การอ่านเรื่องเกี่ยวกับดวงจันทร์ในพื้นดวงถ้าเราต้องการอ่านเรื่องอะไรเราก็จะแปลจันทร์ที่เราอ่านไปในเรื่องในเลย ถ้าต้องการอ่านเรื่องอารมณ์ความรู้สึกเราอ่านในเรื่องของอารมณ์ไป เช่นจันทร์ ทำมุมถึง อังคารก็จะแปลได้ว่าเจ้าชะตาเป็นคนอารมณ์ร้อนเอาแต่ใจต้นเองเป็นต้น ถ้าจะอ่านเรื่องตัวเค้าจันทร์ทำมุมถึงอังคาร ก็จะอ่านได้ว่าเจ้าชะตาเป็นบุคคลที่กล้าห้าวหาญไม่กลังใครเป็นคนแข็ง นักต่อสู้ เราจะพูดอย่างไรก็ได้ขอให้อยู่ในอิทธิพลของดาวอังคารก็แล้วกันในแง่มุมทุก ๆ ด้านของดาวอังคารจะตรงกับตัวเจ้าชะตาหมด ถ้าอ่านเรื่องเกี่ยวกับแม่ ก็จะแปลได้ว่าแม่ของเจ้าชะตาเป็นบุคคลดื้อ ชอบเอาชนะภายในบ้าน ฯลฯ หรือ ถ้าอ่านถึงบุคคลใกล้ชิดเจ้าชะตาก็จะแปลได้ว่าเจ้าชะตาอยู่ใกล้ชิดกับคนห้าว ๆ หรือเป็นคนแข็ง หรือมีคนใช้ที่หัวดื้อก็ได้

ด้านจันทร์จรบอกอะไรกับเรา

                จันทร์จรวงนอกจะบ่งบอกถึงเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นเป็นชั่วโมง ดวงจันทร์จะเดินประมาน 2 ชั่วโมง ครึ่ง ต่อหนึ่งองศา จันทร์จรจะบอกเรื่องที่จะเกิดขึ้นกับเจ้าชะตา เช่นจันทร์จรโคจรมาทับพฤหัสพื้นดวงของเจ้าชะตาก็จะแปลได้ว่าเค้าจะได้รับโชคดี ๆ ในระยะชั่วโมงนั้น ที่จันทร์ทำงานอยู่ ถ้าพ้นไปแล้วก็หมดไป ส่วนมากเราใช้ดวงจันทร์เป็นตัวบอกเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นกับเจ้าชะตาในด้านดีและด้านร้ายได้ และสามารถนำมากำหนดฤกษ์ ดีประจำวันได้เช่นกัน ดวงจันทร์เป็นดาวงเคราะห์ที่สำคัญมากในการพยากรณ์เรื่องต่าง ๆ เพราะดวงจันทร์ใกล้โลกมากและเดินทางได้เร็วกว่าดาวดวงอื่นเค้าใช้เวลาในการโคจรรอบโลก 28 วัน คนในสมัยก่อนจะสังเกตดวงจันทร์และพยากรณ์เกี่ยวกับดวงจันทร์ไว้มาก เช่นถ้าต้องการได้บุตร ให้ทำการหลับนอนในช่วงดวงจันทร์จรโคจรมาทับลัคนาของสตรี ก็เริ่มทำกิจกรรมได้เลยก็จะมีบุตรได้ง่าย ดวงจันทร์ช่วยเตือนเรื่องไม่ดีต่าง ๆ เกี่ยวกับชีวิตของเราเช่นจันทร์จรทบเสาร์กำเนิดหรือเสาร์จร ก็จะบอกถึงชั่วโมงนั้นไม่ควรทำกิจกรรมอะไรหรือลงทุนทำอะไรไปไม่ก็เกิดผลดีกับเรา แต่ถ้าจันทร์จรไปทำมุมถึงพฤหัสพื้นดวง หรือพฤหัสจร ก็เป็นชั่วโมงดีจะทำอะไรก็จะมีโชค หรือจะเดินทางก็ปลอดภัย ดวงจันทร์จรยังไว้ใช้ดูเหตุการณ์รายเดือนได้อีก เช่น new moo และ full moon เป็นตำแหน่งที่บอกเหตุการณ์รายเดือนที่จะเกิดขึ้นจากการสำรวจเหตุการณ์รายปีมาแล้วเราก็สามรถใช้ ทั้งสองจุดตรวจสอบได้เช่นเดียวกัน พูดไปแล้วดวงจันทร์จะบอกอะไรต่ออะไรในชีวิตเราในโลกนี้ รวมไปถึงสิ่งมีชีวิตทั้งมวลในโลกนี้ และเกี่ยวกับธรรมชาติในโลกนี้ เช่น การเกิดน้ำขึ้นน้ำลงก็เป็นผลจากดวงจันทร์ที่เห็นง่าย ๆ นกที่ใช้แสงจันทร์ในการบอกทิศทางในการบินตอนกลางคืน ดวงจันทร์ใช้กำหนดทิศทางในการเดินทางของสัตว์ต่าง ๆ บอกถึงเวลาออกมาหากิน ดวงนั้นเราควรให้ความสนใจดวงจันทร์ในพื้นดวงชะตาให้มากเพราะจะเป็นตัวบอกเรื่องราวต่าง ๆ ของตัวเจ้าชะตาเป็นอย่างดี ในดวงของสตรีดวงจันทร์เปรียบได้กับแม่ของเจ้าชะตา ดังนั้นแม่มีนิสัยใจคออย่างไร ตัวเจ้าชะตาก็จะมีอุปนิสัยเหมือนกับมารดาเช่นเดียวกัน

บทที่ 321

สวัสดีครับสำหรับนักโหราศาสตร์ ถ้าเป็นแล้วจะรักษาไม่หายนะครับ เมื่อวานข้าพเจ้าก็โดนดาวอังคารเล่นงานจนได้ รู้ทั้งรู้ ว่าน่าจะมีเรื่องเกี่ยวกับดาวอังคาร คือทางรถ ก็นึกอะไรไม่ทราบเอาอันใหม่ออก ไป พอดีได้เรื่อง มีรถป้ายแดงเหมือนกันแต่ใหญ่กว่ามาจูบที่กันชนมีแผลนิดหน่อยเลยต้องเอาไปจัดการที่ศูนย์ที่โคราชตามระเบียบ เพราะต้องไปจัดการเรื่องสีที่เค้าพ้นมาจากโรงงานไม่ดีด้วยก็เลยทำเสียครั้งเดียว คนที่เรียนวันพฤหัสนี้มาเรียนวันอังคารแทน และอาทิตย์หน้าคนวันอังคารไปเรียนวันพฤหัส นะครับ
วันนี้เรามาคุยเรื่องเกล็ด ๆ น้อย ของดาวกันหน่อย วันหยุดไม่อยากให้อ่านอะไรหนักๆ ให้พักบ้าง คราวนี้คงจะไปสักเจ็ดวันกว่ารถจะเสร็จ นะครับ ถือเป็นการหนีดาว
sa ur ha ไปด้วย เมื่อวานตอนกลางคืนก็มีเพื่อนเก่าโทรมาถามว่าพ่อจะอยู่ได้อีกนานไหม ทำให้เครียดไปเหมือนกัน จะบอกตรง ๆ ก็ไม่ได้ ไม่รู้จะบอกอย่างไร เลยตอนไม่หลับเอาไปขวัญเลยท่าน เพราะเรื่องนี้เค้าจะไม่พูดกัน แต่เพื่อนมันอยากทราบเพราะหมดค่าโรงพยาบาลไปล้านกว่าบาทแล้ว ที่ถามจะได้ไปเตรียมเงินมา ดูแล้วก็คงไม่นานนะ อันนี้เอามาออกข้อสอบวันอังคารด้วยบอกไปจะรู้ข้อสอบหมอ แต่จะบอกอะไรให้ คนจะไปเค้าจะไปตอนใกล้วันเพราะ new moon ใหญ่ แรงดี มาเข้าเรื่องกันดีกว่า วันนี้มาคุยเรื่องนิสัยของดาวเหมือนคนเลย ก็มีนิสัย ดาวก็มีนิสัยเล่นกันท่านเอาไว้ทายได้เก็บเอาไว้นะครับ เกล็ด ความรู้เล็ก ๆ น้อย จะทำให้ท่านเก่งในการทำนายครับ คราวที่แล้วจำได้จะเขียนเกี่ยวกับดาวพวกนี้กับโรคต่าง ๆถ้าจำไม่ผิด หรือมีการซ้ำกันบอกด้วย นะครับ เพราะเขียนจากความคิด คิดอะไรได้ก็เขียนขึ้นมา อาจมีซ้ำกันบ้าง ต้องขออภัยด้วยนะครับ คิดว่าไม่ซ้ำนะ
 

อุปนิสัยของดาวที่ส่งถึงดวงชะตา

ปัญญาความสามารถอย่างบริสุทธิ์       พุธ   เนปจูน  อาพอลอน, พุธ เนปจูน  โพไซดอน

นักวิเคราะห์                                           พุธ  อังคาร แอดเมตอส

ไร้สาระ(banal)                                        เนปจูน อาพอลอน พุธ พฤหัส ฮาเดส

มั่งคง                                                   อังคาร พฤหัส แอดเมตอส

รู้สึกนึก                                                 อาทิตย์ พุธ พุธ อังคาร วัลคานุส

ขี้โมโห                                                 พุธ  มฤตยู  วัลคานุส

เข้ากับใครไม่ค่อยได้                                 จันทร์ อังคาร,   ศุกร์ อาเดส อาพอลอน

มีระเบียบวินัย                                          อาทิตย์ จันทร์ เซอุส อาทิตย์ พฤหัส แอเมตอส

                                                          เซอุส วัลคานุส โพไซดอน

เห็นแก่ตัว                                              ศุกร์ โครโนส แอดเมตอส

อิจฉาริบยา หึง                                        จันทร์ ศุกร์ พลูโต เสาร์ คิวปิโด วัลคานุส

ดื้อ                                                       อังคาร โครโนส  วัลคานุส

คิดด้านเดียว                                            พุธ พฤหัส แอดเมตอส

เด็ดเดี่ยว                                                 อังคาร เซอุส เสาร์ มฤตยู เซอุส

แสดงออก                                                อาทิตย์ อังคาร อาพอลอน, อาทิตย์ พุธ ศุกร์

ประเภทความรู้สึก                                        ศุกร์ อังคาร  คิวปิโด

ช่างจำ                                                     พุธ ฮาเดส โพไซดอน

เข้ากับคนอื่นได้                                           ศุกร์  อาพอลอน พฤหัส พลูโต

อุดมการณ์                                                 โครโนส  ไพไซดอน

บทที่ 322

วันนี้เรามาคุยเรื่องเบาอีกนิดในวันหยุดที่สบายไม่ร้อนมากมีฝนนิดหน่อย ข้าพเจ้าชอบอากาศแบบนี้ มันไม่ทำจิตใจสงบดีวันใดมีเมฆฝนดำทำให้จิตใจหดหู่ ไปด้วย เอามาเริ่มกันดีกว่าว่าวันสำคัญเราจะหาได้อย่างเรา อาจสืบเนื่องมาจากรายเดือน รายปี ละมาเจาะหารายสามวันก็จะมีบทสรุปกันดังนี้นะครับอ่านดูไม่เข้าใจก็โทรมาถามนะครับอาจยุ่งยากนิดแต่ให้อ่านหลาย ๆ ครั้งจะเข้าใจ เราต้องตั้งจุดที่เจ้าชะตาต้องการขึ้นมาก่อนทั้งพื้นดวงและจร ทั้งหมดสี่จุด สามจุดคือพื้นดวง อึกจุดคือจร คงทำได้ และหาดูว่าวันไหนจันทร์จรมาทับจุดพวกนี้ก็มักจะเกิดขึ้น เช่นดูวันเสียชีวิตวันไหน ง่ายมากเราก็ดูรายสามวัน และก็ดูว่าจันทร์มาทับจุดทั้งสี่หรือไม่ เพียงจุดใดจุดหนึ่งหรือทำมุมถึงตั้งแต่สองขึ้นไปก็เอาเรื่องแล้วครับ
 

การกำหนดวันแบบง่าย ๆ
                มีคนถามว่าเรื่องนี้จะเกิดวันไหนเดือนไหน เรามีวิธีหาได้หลายแบบแต่ที่จะแนะนำท่านในวันนี้เป็นการดูแบบง่าย  เราควรบอกบอกให้เจ้าชะตาแบบกลาง ๆ ไปก่อนถ้าเรายังไม่แม่น ควรบอกไปสามวันไปก่อน

                ขั้นตอนมีอยู่ว่าถ้าเข้าถามเรื่องอะไรก็ตามแต่ให้เราตั้งจุดอิทธิพลที่ถามขึ้นมาสี่จุดด้วยกันมีดังนี้ จุดที่หนึ่ง จุดที่เค้าถามพื้นดวง ใช้  compute ใช้ n. จุดที่สอง บวกarc  จุดที่สาม ลบ arc จุดที่สี่เราไปตั้งไว้ในด้วงจรรายปีวงนอก อาทิตย์จรทับอาทิตย์กำเนิดว่าปีนี้มีหรือไม่ ใช้ t.  ตั้งจุดที่เจ้าชะตาถามเข้าไปและเราก็ดูว่าปีนี้มีเหตุการณ์ที่เค้าต้องการทราบเกิดขึ้นหรือไม่ถ้ามี อันดับต่อไปเราก็ปรับวันให้เป็นวันปัจจุบันโดยใช้ now  มายัง ณ วันปัจจุบัน และเริ่มหมุนโดยใช้ และกดหาจันทร์ย้ายราศีในเมนู  ช่วยหมุนให้จุดที่เราตั้งวงนอกไปทับกับจุดที่เราตั้งไว้วงในวันไหนเดือนไหนก็จะเป็นวันนั้น เราจะได้อยู่โดยประมานสาม หรือสามเดือนก็ได้ เราก็สามารถบอกเจ้าชะตาได้แล้ว ถ้าเค้าถามในเรื่องความเป็นความตายเราใช้วิธีนี้ปลอดภัยที่สุด ไม่ควรบอกตรง ๆ ถ้าบอกตรงไปจะทำให้เจ้าชะตาเครียดหรือมีความกังวลมากเกินไป เราจะบอกโดยประมาทจะดีกว่าบอกตรง ๆ ไป เพราะทางแก้ไขมันก็มี อยู่ เป็นการดูรายเดือนแบบง่าย ๆ หรือดูมุมก็ได้จุดที่เราตั้งทำมุมถึงจุดที่เราตั้งวงในก็ได้แต่ขอให้เป็นมุมแรง ๆ ก็แล้วกัน เช่น 180 90 มุม 45 ไม่จำเป็นก็ไม่ควรใช้เพราะอ่อนไปนิด
                อย่างให้ท่านทดลองใช้ดูเพราะง่ายในการหารายเดือนและรายวันด้วย มันอาจไม่ตรงมากนักแต่ก็ไม่ห่างไปจากนี้มากนัก ใช้ได้ผลถ้าไม่ตรงก็บอกเจ้าชะตาไปว่าเวลาเกิดมันยังไม่ตรง  เพราะการดูแบบนี้ใช้ได้ดีสำหรับผู้ที่ยังไม่ได้ปรับเวลาเกิด หรือไม่มีเวลาปรับให้ลูกค้า เราเล่นวิธีนี้จะดีกว่าการไปหารายเดือนรายวันที่เราต้องปรับเวลาเกิดเค้าเรียบร้อยแล้วและมั่นใจว่าเวลาเกิดเค้าตรงแล้วเท่านั้น

บทที่ 323

วันนี้เราจะมาคุยเรื่องดวงจันทร์อีกนิดหนึ่งคือการทำนายโรคที่เกิดจากดวงจันทร์พื้นดวง คิดว่าน่าจะให้ประโยชน์กับท่านไม่มากก็น้อยคิดมีท่านสามารถนำไปใช้ได้อย่างดี ท่านอ่านดูและจะเข้าใจนะครับ
 

การวินิจฉัยโรคจาก ดวงจันทร์

จันทร์ ในราศีต่าง ๆ เมื่อทำมุมถึง อังคาร เสาร์ ทั้งนี้ใช้ได้ทั้งดวงชะตากำเนิด และจร

จันทร์ราศีเมษ

                เมื่อทำมุม 0 90 180 กับ เสาร์ ส่วนที่เจ็บป่วยคือ ศีรษะ ตา หวัด เยื่อคออักเสบ หรือเยื่อหุ้มปอดอักเสบ โรคกระเพาะ และเบื่ออาหาร ถ้าถูกเบียนด้วย อังคาร จะมีผลทำให้นอนไม่หลับ สำหรับโรคที่เกี่ยวกับศรีษะนั้น จะได้แก่ความไม่ปกติของเยื่อบุสมอง ปากแห้งเป็นประจำ คนไข้กระหายน้ำเป็นกำลัง ร้อนท้อง บริเวณหน้าอก และตับอักเสบ

จันทร์ราศีพฤษภ

                เมื่อทำมุมถึงเสาร์ การเจ็บป่วยจะมาจาก การกิน และการดื่มมากเกินควร มีผลคือ หน้าอกใหญ่ หรือลงพุง เป็นไข้อันเนื่องมาจากสภาวะการอุดตันในร่างกายรูปแบบหนึ่ง ปอดอักเสบและเนื้องอกในปอด เมื่อถูกเบียนด้วยอังคาร จะมีอาการไข้เรื้อรัง คอหรือลำคออักเสบ ปวดกระดูก นอนไม่หลับ และขี้เหล้า

จันทร์ ราศีมีถุน

                เมื่อถูกเบียนด้วยเสาร์ สาเหตุแห่งการเจ็บป่วยจะมาจากการอดหลับอดนอนมากเกินไปและการหมดกำลังเนื่องจากการเดินทาง มีผลทำให้อ่อนเพลีย และเกิดความอ่อนแอ การเจ็บป่วยได้แก่ อาการผอมแห้งแรงน้อย เมื่อถูกเบียนด้วย อังคาร มักเป็นไข้ความร้อนสูง และท้องผูกได้ง่าย

จันทร์ราศีกรกฏ

                เมื่อถูกเบียนด้วยเสาร์ สาเหตุคือผลสะท้อนมาจากความเย็น หรือเกิดการอาบน้ำบ่อย มีกาการแน่นหน้าอก ท้องผูก ไข้ โรคเกี่ยวกับเต้านม เมื่อถูกเบียนด้วย อังคาร โรคภัยไข้เจ็บจากการเกิดโลหิต นอนกจากนี้ยังได้แก่โรคท้องเดิน โรคเกี่ยวกับน้ำดี ท้องขึ้น เฟ้อ เรอเปรี้ยว

จันทร์ ราศี สิงห์

                เมื่อถูกเบียนด้วยเสาร์ โรคภัยไข้เจ็บที่เกิดมีเม็ดโลหิตแดงมากเกินไป เจ็บเสียดที่หน้าอก ไข้ความร้อนสูง และเฉียบพลัน ร้อนนอกร้อนใน เมื่อมีตำแหน่งสัมพันธ์กับ อังคาร การเจ็บป่วยเนื่องจากความดันโลหิตสูง การมีอาการไข้ที่รุนแรงและอยู่อย่างนั้น เป็นลม ง่วงเหงาหาวนอน อ่อนเพลียทั้งร่างกาย ใจสั่น และเบื่ออาหาร

จันทร์ ราศีกันย์

                เมื่อถูกเบียนด้วย เสาร์ การทำงานของกระเพาะอาหารไม่ปกติ ทำให้อาหารไม่ย่อย รู้สึกไม่สบายที่ช่องท้องบริเวณกะบังลม ส่วนเหนือ และข้างหน้ากระเพาะอาหาร มีอาการไข้รุนแรง และไม่ปกติ หากได้ตำแหน่งสำพันธ์กับ อังคาร โรคบิด ถ่ายเป็นโลหิต โรคเกี่ยวกับประจำเดือน เป็นแผลในลำไส้และมีอาการไข้ แต่ไม่เรื้อรัง

 จันทร์ ราศีตุลย์

                เมื่อถูกเบียนด้วยเสาร์ มักดื่มจัดและรับประทานจุ มักจุดเสียดเป็นประจำ เยื่อบุเมือกของศรีษะ ไอ เสียงแหบแห้ง มีอาการหอบหืด อาหารไม่ค่อยย่อย และมักมีอาการไข้เล็กน้อยในตอนกลางคืน ถ้าถูกเบียนด้วยอังคาร นอนไม่หลับ มีไข้ เจ็บปวดไปทั่งร่างกาย

จันทร์ ราศีพิจิก

                เมื่อถูกเบียนด้วยเสาร์ ฉีกขาด และมีบาดแผลหรือเนื้องอกที่อวัยวะเพศ เมื่อมีตำแหน่งสัมพันธ์กับอังคาร อักเสบ หรือมีโพลงหนองในอวัยวะเพศ หรือที่ก้น

จันทร์ ราศีธนู

                เมื่อถูกเสาร์เบียน มักก่อให้เกิดการเจ็บเนื่องมาจากเยื่อบุเมือกอักเสบ การแตกหักที่มือเท้า หรือตามข้อ การมีอาการไข้แบบสะท้านร้อนหนาว ถ้าได้ตำแหน่งสัมพันธ์กับอังคาร จะมีผลทำให้เป็นโรคบวมตามข้อ ซึ่งมีผลมาจากดื่มมากเกินไป โลหิตมากเกินไป น้ำดีออกมากเกินไป เยื่อช่องท้อง หรือท้องร่วงอย่างแรง

จันทร์ ราศี มังกร

                เมื่อถูกเบียนด้วยเสาร์ การเจ็บป่วยจะมีผลมาจากเยื่อบุอักเสบ อาการหอบหืด ไออย่างหนักในเวลากลางคืน หืดและมีไข้หนัก ถ้ามีตำแหน่งสัมพันธ์กับ อังคาร ความเจ็บป่วยจะมีสาเหตุมาจากระบบการย่อยไม่ปกติอย่างแรง ท้องร่วงและอาเจียน เบื่ออาหาร คนไข้จะต้องได้รับอาหารเสริมอยู่เสมอ มีอาการจุกเสียดแน่ที่หน้าอก และมีไข้สลับ

จันทร์ ราศี กุมภ์

                เมื่อถูกเบียนด้วยเสาร์ ความเจ็บป่วยมักมาจากการเคร่งเครียดในการงานมากเกินไปอดหลับอดนอน และอ่อนเพลีย หากมีตำแหนงกับอังคาร จะมีผลก่อให้เกิดอาการร้อน และเจ็บปวดแทรกอยู่ในอาการเจ็บป่วยเหล่านี้ด้วย

จันทร์ ราศี มีน

                เมื่อถูกเบียนด้วยเสาร์ ความเจ็บป่วยมักเกิดจากความหนาวเย็น ซึ่งอาจเป็นเรื่องของอาการอาบน้ำหรือสัมผัสน้ำบ่อย ๆ นอนจากนี้ยังอาจเจ็บป่วยเป็นไข้ มีอาการหอบหืด เจ็บเสียดตามบริเวณหน้าอก และท้องน้อย หากมีตำแหน่งถึงอังคาร ความเจ็บป่วยจะมีมาจากดื่มจัด ไม่ค่อยมีความสงบในเวลากลางคืน เจ็บไข้ โรคเกี่ยวกับศรีษะ ปวดศรีษะ กระหายน้ำ อาการบ้าคลั่งหมายเหตุ ดาวเคราะห์ก็ดี ราศีต่าง ๆ ก็ดี ย่อมจะแสดงถึงอิทธิพลเป็นส่วนต่างของร่างกาย ซึ่งจะให้ข้อมูลเกี่ยวกับอวัยวะที่เจ็บป่วยด้วย ทั้งนี้โดยการพิจารณาจากดาวพระเคราะห์ทีถูกเบียนหรือราศีที่เป็นโทษ ซึ่งราศีใดแทนอวัยวะใด หรือมีดาวเคราะห์ใดเป็นเกษตรส่วนใดของร่างกาย ตามปกติจะกล่าวแสดงไว้ในวิชาโหราศาสตร์เบื้องต้นที่ท่านเคยศึกษาจากหลายค่าย

บทที่ 324

วันนี้เราจะมาคุยกันเรื่องการดูรายสามวันที่เป็นการดูเรื่องต่างๆให้แคบขึ้นมาอีกจากรายสามเดือน รายเดือน รายสามวัน และทำให้เหลือรายวันให้ได้ และเป็นรายชั่วโมง นาที วินาที กันต่อไป เราค่อย ๆ ไปกันดีกว่านะครับว่า การดูรายสามวันเค้ามีวิธีการดูอย่างไร
กาลชะตาลรายสามวัน

                กาลชะตารายสามวัน เป็นการดูเหตุการณ์สำคัญที่เราคาดหวังว่ามันจะเกิดขึ้นหรือไม่โดยใช้หลักดวงจันทร์ย้ายราศีทุก ๆ สามวันกว่า ๆ มาช่วยในการบีบวันจากกาลชะตาอาทิตย์ย้ายราศีทุก 30 วัน ลงมา ว่าจะเกิดขึ้นในเดือนไหนภายในสามสิบวันระหว่างดวงอาทิตย์โคจรระหว่างราศี มันจะต้องมีวันหนึ่งซึ่งเป็นวันสำคัญที่จะเกิดเหตุการณ์สำคัญขึ้นกับตัวเราหรือคนที่มาดูกับเรา แต่ถ้าเราได้สามวันแล้ว ข้าพเจ้าแนะนำว่าใหม่ ๆ ให้รู้เพียงว่าเรื่องหรือเหตุการณ์ต่าง ๆ มันจะเกิดในช่วงสามกันก่อนก็เพียงพอแล้ว อย่างพึ่งไปบีบลงวันเพราะความชำนาญของเรายังไม่แม่นยำพออาจผิดพลาดได้ เราก็อาจบอกว่าภายในสามวันไปก่อนก็เพียงพอแล้วที่เจ้าชะตาต้องระวังหรือรอรับข่าวสารที่ตั้งใจไว้ การดูกาลชะตารายสามวันนี้ เราก็สามารถใช้เดี่ยว ๆ ก็ได้ ไม่ต้องไปดูอาทิตย์ย้ายราศีก่อน แต่ก็มีโอกาสผิดพลาดได้เหมือนกัน แต่ไม่มากนัก อยากให้ผู้สนใจทดสอบดูไปก่อนจนกว่าจะหาทางพบท่านก็สามารถใช้กาลชะตารายสามวันไปก็ได้
                หลักการทำนายกาลชะตารายสามวันนี้เราเริ่มด้วยการที่เราต้องหมุนดวงจันทร์ ไปที่เส้นแบ่งราศีของแต่ละราศีที่เราต้องการทราบของช่วงวันหรือก่อนวันที่เราต้องการทราบ หรือหมุนล่วงหน้าไปยังตำแหน่งล่วงหน้าไว้ก่อน แล้วเราก็อ่านดาวจรวงนอกไปก่อนว่าช่วงจันทร์เริ่มย้ายราศีนี้มีดาวดีดาวร้ายอะไรเข้าพื้นดวงเราบ้าง ก่อน แล้วค่อยไปตั้งจุดอิทธิพลและศูนย์รังสีเข้าไปสามอีกครั้ง พอได้ว่าช่วงจันทร์ย้ายราศีช่วงนี้ไม่ค่อยดีเราก็ไม่ควรทำอะไร เราก็อาจหาต่อไปว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นกับเราภายในสามวันกว่า นี้ซึ่งเป็นช่วงจันทร์โคจรจากเส้นแบ่งราศีหนึ่งไปยังเส้นแบ่งราศีหนึ่งระหว่างนี้มันจะมีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้น ถ้าเป็นเรื่องดี ๆ ก็ไม่ต้องไปกังวลมัน เราจะใช้ในการเช็ครายสามวันสำหรับเรื่องการเดินทางไกล ว่าปลอดภัยหรือไม่ จะดีกว่าเช็คเป็นรายวัน เพราะแน่นอนกว่า และช่วงที่เราจะทำงานใหญ่ ๆ หรือเข้าหาผู้ใหญ่หรือติดต่อเรื่องการงานว่าช่วงสามวันนี้บนฟ้าแจ่มใสดีหรือไม่ ถ้าดีแล้วค่อยเลือกวันทำการกันต่อไป กาลชะตารายสามวันเป็นการดูคุมเรื่องต่าง ๆ ไว้ก่อน ก่อนที่เราจะดูกาลชะตารายวันอีกที เพื่อป้องกันการผิดพลาด หรือนำมาใช้ถามเรื่องการเจ็บป่วยว่าคนที่เจ็บป่วยจะไปวันไหนเราก็ใช้รายสามวันเช็คก็เป็นการเพียงพอแล้วอย่าไปใช้รายวัน เพราะโอกาสไม่ตรงจะมีมากเราให้โอกาสเจ้าชะตาเค้าสามวันให้ระวังไว้เท่านั้นก็เพียงพอแล้ว แต่เราอาจดูแล้วรู้ในใจก็ได้แต่ไม่ควรบอกกับผู้มาถามเพราะจะทำให้ญาติพี่น้องหรือคนที่มาถามไม่สบายใจมากขึ้นควรปล่อยให้เค้าทำใจบ้าง ไม่ควรบอกวันขอแนะนำไว้ การบอกวันตายไม่ควรบอกใครมากนักเพราะผิดกฎบนฟ้าด้วยเหมือนกันถ้าไม่จำเป็นจริง ๆ และอีกเรื่องหนึ่งที่กาลชะตาไม่ควรนำไปใช้คือเรืองเกี่ยวกับหวยหรือการซื้อหวยการพนันเราก็ไม่ควรนำไปใช้เพราะผู้ผิดกฎฟ้าเราให้เวลาดีเค้าไปเจ้าชะตาอาจถูกขึ้นมาจริง ๆ เราก็ผิดด้วยเหมือนกันเพราะไปบอกเวลาที่ฟ้าเปิดเอาทองจากฟ้าไป แต่ในที่สุดฟ้าก็ต้องเอาคืนไปอย่างแน่นอน เราควรนำไปใช้ในสิ่งที่เป็นประโยชน์จะดีกว่า

บทที่ 325

วันนี้เราจะมาคุยเรื่องจุดเมษมีความหมายอะไรซึ่งตอนนี้จุดเมษกำลังโดนดาวร้ายเล่นงานอยู่มีทั้งทับแกนและทำมุมจะส่งผลอะไรกับตัวเราไหม ให้อ่านบทความนี้แล้วท่านจะเข้าใจเรื่องจุดนี้ดีขึ้น
 

จุดเมษคืออะไร
 เราถือเป็นจุดเจ้าชะตาชนิดหนึ่ง แต่จะเป็นจุดเจ้าชะตาที่เกี่ยวข้องกับสภาพแวดล้อมของเจ้าชะตา ไม่ใช่ตัวของเจ้าชะตาแต่ก็มีผลต่อเจ้าชะตาได้เช่นเดียวกัน เพราะสภาพแวดล้อมจะมีบทบาทต่อตัวเจ้าชะตาไม่น้อยกว่าจุดเจ้าชะตาอื่น ๆ และถือว่าเป็นจุดเจ้าชะตารวมที่สำคัญ สามารถใช้บอกว่าเจ้าชะตาเป็นคนอย่างไร มีลักษณะอย่างไร ความหมายของจุดเมษคือ

  1. เป็นจุดเจ้าชะตาจุดหนึ่งแต่เป็นแบบสภาพแวดล้อมของตัวเจ้าชะตา
  2. เป็นจุดบ่งบอกถึงมวลชนประชาชน ถนนหนทาง คนหมู่มาก
  3. เป็นจุดที่บ่งบอกถึงการแบ่งโลกออกเป็นสองส่วน  The equator line.
  4. เป็นบ่งบอกสภาพแวดล้อมของเจ้าชะตาด้วย
  5. เป็นจุดเริ่มต้นเปลี่ยนฤดูกาลจุดหนึ่ง บอกถึงการเริ่มต้นของชีวิตในโลกนี้

จุดเมษมีผลต่อตัวเจ้าชะตามากถ้ามีดาวเคราะห์ทำมุมถึงหรือเข้าแกนทั้งสี่ หรือมีดาวดีดาวร้ายทับแกนอยู่ก็จะบอกถึงความเป็นมาเป็นไปของตัวเจ้าชะตาด้วย เช่น อังคารทับเมษ ก็จะแปลได้ว่าเจ้าชะตามีอยู่ในสภาพแวดล้อมที่รีบร้อน การใช้กำลัง หรือตัวเค้าถูกสภาพแวดล้อมใหญ่ควบคุมอยู่เลยทำให้ตัวเจ้าชะตากลายเป็นคนกล้า ดื้อ เอาแต่ใจตนเอง ชอบเอาชนะ ไม่ยอดแพ้ใคร หรือทำงานเกี่ยวกับเครื่องแบบเช่นทหารหรือตำรวจ เพราะดาวอังคารแบบว่าทหารตำรวจหรือบุคคลที่อยู่ในเครื่องแบบ หรือตัวเจ้าชะตาอาจมีความเกี่ยวข้องกับคนที่มีเครื่องแบบก็ได้ หรืออย่างน้อยบ้านเจ้าชะตาอาจอยู่ให้โรงพักก็ได้ หรือใกล้กับค่ายทหารก็ได้ ถ้าเป็นทับเสาร์ ก็จะแปลว่าเจ้าชะตามีสภาพแวดล้อมที่มีดาวเสาร์ควบคุมอยู่ทำให้เจ้าชะตามีเหตุของดาวเสาร์เข้าทำงานเช่น เจ้าชะตาต้องเข้าไปมีส่วนกับดาวเสาร์ เช่น อยู่ใกล้ชิดกับคนยากคนจน คนเจ็บป่วย รวมไปถึงเจ้าชะตาก็อาจมีความทุกข์เข้าไปด้วย หรือสภาพแวดล้อมเป็นดาวเสาร์เช่นบ้านอาจอยู่ใกล้โรงพยาบาล วัด หรือป่าช้า (ดาวเสาร์) หรือชีวิตมักไม่ค่อยมีความสุขมีแต่เรื่องทุกข์ใจอยู่เนื่อง ๆ จากดาวเสาร์ เราจะเอาความหมายของดาวมาพูดผสมกับความหมายของจุดเมษเข้าไปเราก็ได้คำแปลออกมาแล้วคงไม่ยากในการตีความ แต่ท่านต้องแยกให้ออกว่าอะไรคือตัวตนของเจ้าชะตาอะไรคือสภาพแวดล้อมของเจ้าชะตาให้ได้ มันมีความแตกต่างกันอยู่แต่มองรวม ๆ แล้วอาจเป็นภาพเดียวกันที่บ่งบอกถึงตัวเจ้าชะตาแต่ในรายละเอียดแล้วไม่ใช่ โดยเราแบ่งจุดเจ้าชะตาออกเป็นสองจำพวกคือพวกที่เป็นตัวของจุดเจ้าชะตา เช่น อาทิตย์ จันทร์ เมริเดียน  เป็นจุดเจ้าชะตาจริงคือตัวตนของเค้า ส่วน เมษ ลัคนา ราหู คือสภาพแวดล้อมของตัวเจ้าชะตาที่จะทำให้เจ้าชะตามีความเป็นไปตามสภาพแวดล้อมนั้นด้วย ภาพรวมมองรวม ๆ แล้วอาจไม่แตกต่างกันนัก ยกตัวอย่าง เหมือนคนที่เป็นทหาร เครื่องแบบ ยศ สถานที่ทำงานเป็นสภาพแวดล้อมของเค้าเราก็มองเค้าว่าเค้าเป็นทหาร แต่ถ้าถอดเครื่องแบบออกเค้าก็เป็นบุคคลธรรมดาเดินตามถนนก็เป็นคนธรรมคนหนึ่ง แต่ธาตุแท้อาจชอบของสวยงามชอบปลูกต้นไม้ ชอบธรรมชาติ ชอบความสงบ สิ่งนี้คือตัวตนของเจ้าชะตาจริง ๆ แต่บทบาททางทหารก็จะมีบทบาทถึงชีวิตของเค้าด้วยเช่นกัน

บทที่
235

วันนี้ได้ตื่นเช้าหน่อย ได้มองเห็นดาวดวงหนึ่งขึ้นทางทิศตะวันออกก่อนพระอาทิตย์ขึ้น ข้าพเจ้าได้เฝ้าสังเกตมานานแล้ว และได้เจอบทความเกี่ยวกับดาวดังกล่าวนี้และมีความหมายในโหราศาสตร์ด้วยเค้าเรียกดาว รุ่งอรุณ และดาว สนธยา อยากให้ท่านลองเอาไปใช้ทำนายดูจะเห็นอะไรมากยิ่งขึ้น สิ่งเล็ก ๆ น้อยนี้อาจทำให้ท่านทำนายได้ถึงใจเจ้าชะตาก็ได้ใครจะไปรู้ อันนี้ก็เป็นไม้เด็ดอีกขบวนท่าอีกไม้เด็ดอันหนึ่งที่ข้าพเจ้าได้ใช้ทำนายอยู่ เอาไปใช้ได้ครับ
 

ดาวอรุณ คือดาวที่สถิต หลัง อาทิตย์  ดาวสนธยา คือดาวที่อยู่หน้า อาทิตย์

พุธอรุณ ประสิทธิภาพในทางความคิด จะมากขึ้นตามอายุ

พุธ สนธยา ชอบการเสนอแนะ หรือสอนง่าย

เกี่ยวกับทางด้าน ความคิด พุธ พักต์ วัตถุนิยม ปกติ อุดมการณ์

ศุกร์อรุณ รักสวยรักงาม ศิลปะ ศุกร์สนธยามัก เกรงใจผู้อื่น

ดาวสันโดษ

พฤหัส สันโดษ เป็นคนที่มีโชคประสบความสำเร็จ

เสาร์ สันโดษ จน หนี้สิน คนใช้ หรือมีความวิตกกังกลในชีวิต

จันทร์ สันโดษ อยากดัง ไม่อยู่นิ่ง

ศุกร์ สันโดษ มีโชคในเรื่องของความรัก

อังคาร สันโดษ ในด้านดี มีสัญชาติญาณในการอาสา ถ้าเป็นด้านร้าย กระด้างกระเดื่อง

มฤตยู สันโดษ นักประพันธ์ที่ปากกล้า ชีวิตมักเปลี่ยนแปลงตัวเอง

เนปจูน สันโดษ หลอกลวง  คลุมเคลือ

พลูโต สันโดษ มีโชตชะตาเกี่ยวข้องกับความเป็นกลุ่มก้อน
พบกันพรุ่งนี้ตอนนี้ได้มาอยู่ต่างจังหวัด แต่ก็ทำงานได้เพราะมีระบบที่สามารถติดต่อกับ
host ได้ เลยไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป วันนี้แถมเรื่องเด็ดอีกนิดพอดีนึกขึ้นมาได้นำเอาไปใช้ดูนะท่าน
 

ตรีโกณ
โหราศาสตร์เรียกชื่อสภาวะ
(stantes) ของสะสารว่า ไฟ ดิน ลม และน้ำ และนำเอาสภาวะ ทั้ง สี่ นี้แจกลงไปในราศี สภาวะละ หนึ่ง ราศี คือ

ไฟ ได้แก่ราศี เมษ สิงห์  ธนู  อันเป็นตรีโกณแก่กัน
ดิน ได้แก่ราศี พฤษภ กันย์ มังกร  อันเป็นตรีโกณแก่กัน
ลม ได้แก่ราศี  มิถุน ตุล กุมภ์  อันเป็นตรีโกณแก่กัน
น้ำ ได้แก้ ราศี กรกฏ พิจิก มีน อันเป็นตรีโกณแก่กัน

โดยมีความมุ่งหมายสำหรับประกอบโครงสร้างชนิดของ ชนิด และวิญญาณของแต่ละบุคคล เพื่อหาสูตรความเป็นไปของชีวิตมนุษย์ จากการค้นกว้าปรากฏว่าได้ผลดีมากโดยเฉพาะสำหรับโหราศาสตร์แนวจิตวิทยา หรือโลกจิตศาสตร์(kosmopaychlogy)  ใช้นำไปใช้วินิจฉัยจิตใจคน

ตรีโกณธาตุไฟ เมษ สิงห์ ธนู จะมีคุณสมบัติ ฉลาด โอ่อ่า ผู้ดี และเชื้อเจ้า
ตรีโกณธาตุดิน พฤษ กันย์ มังกร  จะมีคุณสมบัติ รอบครอบ ต้ำต้อย และเจียมตัว
ตรีโกณธาตุลม มิถุน ตุลย์ กุมภ์  จะมีคุณสมบัติ เมตตา  กรุณา  เข้ากับผู้อื่นได้ง่าย และสุภาพ
ตรีโกณธาตุน้ำ กรกฏ พิจิก มีน จะมีคุณสมบัติ เยือกเย็น ช่างคิด ขี้ขลาด และขี้กังวล
 

บทที่ 236

การทำนายโหราศาสตร์ยูเรเนียน การใช้จิตสมาธิเข้ามาช่วย
              
การพยาการณ์มีหลายวิถีด้วยกัน อาจจะเริ่มมาจากพื้นฐานก่อนคือแปลดาวไปตามที่ได้เรียนรู้มา สำนวนและการออกคำทำนายก็จะเหมือน ๆ กัน แต่พอเริ่มเรียนไป เรียนมาก็เกิดความชำนาญขึ้นมา และจิตก็ตามมา ระยะหลังข้าพเจ้าได้ดูโดยใช้สมาธิเข้าช่วยตีดาวเป็นส่วนใหญ่ ทำให้อ่านสิ่งในตัวของผู้มาหาได้ดีทีเดียว โดยไม่ต้องถามเลย เราจะยิ่งไปที่ความต้องการของเขาเลย ทำให้เจ้าชะตานิ่งไปพักหนึ่งเหมือนกัน ทุกคนก็อยากทำได้แบบข้าพเจ้าทุกคน ความถูกต้องในการดูมันก็อยู่บนพื้นฐานของดวงดาวเช่นกันข้าพเจ้าจะไม่ออกนอกวิชา แต่ใช่จิตพาไปหามากกว่า แต่อย่าให้จิตหลอกเราก็แล้วกัน

                ท่านสามารถฝึกได้ถ้ามาถึงระยะหนึ่งเริ่มฝึกจิตให้นิ่ง การทำสมาธิสำคัญมากก่อนทำนาย เพราะเป็นการรวมพลังจิตก่อนดูให้ใคร แล้วมันจะตรงอย่างไม่น่าเชื่อ มีศิษย์หลายคนถามว่าทำไมข้าพเจ้าไม่ตั้งจุดนี้จุดนั้น ดูแบบง่าย ๆ เหมือนไม่ได้ใช้เครื่องมือเข้าช่วยมากนักแต่สามารถพูดได้อย่างตาเห็น
              จริงอยู่การดูทุกคนคิดว่าต้องใช้จุดอิทธิพลเข้าช่วย ศูนย์รังสีก็มี โค้งฯก็มี ตอนนี้ยิ่งพัฒนาให้มีการดูผสมระหว่างเรือนกับมุมเข้าด้วยกันแล้ว ยิ่งง่ายเข้าไปใหญ่ แต่ข้าพเจ้าก็ดูแบบพื้นๆ ไม่ต้องตั้งอะไรมากมีพื้นดวงและโค้งนิดหน่อยก็ดูได้แล้ว พอเราดูถึงจุดหรือระดับถึงหนึ่ง จิตมันก็จะกำหนดให้เองว่าเราจะดูได้อย่างไร ใช้อะไรช่วยในการทำนายคำทำนายออกมา เหมือนสูงสุดคืนสู่พื้นดิน ของง่าย ๆ คือของไม่ธรรมดา

                ถ้าใครสามารฝึกได้ถึงระดับนี้นับว่าเก่งใช้ได้ทีเดียว ทำให้ไม่เหนื่อยในการตีดาว ดูแบบสบาย ๆ แต่การพัฒนาโปรแกรมก็ต้องมีต่อไปเพราะไม่ทุกคนที่จะทำได้เหมือนข้าพเจ้ายังต้องให้เครื่องมือเข้าช่วยก่อนในระยะแรก พอถึงจุดสูงสุดเขาจะไม่ต้องการอะไรมากมีแค่พื้นดวงก็เพียงพอแล้วเหมือนคูณปู ยุวดี เรื่องฉาย ซึ่งเป็นศิษย์คนหนึ่งที่เข้าถึงจุดนั้นแล้ว การใช้สำนวน การตีคามของแกข้าพเจ้าทราบได้เลยหลายปีผ่านมานี้เธอได้พัฒนาตัวเองไปถึงจุดนั้นแล้ว มีหลายคนหาว่าเธอดูแบบไม่มีวิชาการ ไปเรียนมาแบบไม่ถูกหลัก แต่หารู้ไม่ว่าคนที่พูดวิชาความรู้ยังห่างไกลกับเธอมากยังติดกับตำราอยู่ ยังไม่เป็นตัวของตัวเอง ในการออกคำทำนายยังยึดติดของกับตำราอยู่
                ท่านอาจารย์ประยูร ฯ ได้กล่าวไว้ในห้องเรียนขณะที่ผมยังเรียนกับท่านอยู่ ท่านพูดขึ้นมาประโยคหนึ่งว่าการทำนายไม่จำเป็นต้องยึดหลีกในตำรามากนักให้สร้างสำนวนหรือจุดอิทธิพลขึ้นมาเองตามยุคตามสมัย ถ้าไปยึดเดิมคนฟังจะไม่เข้าใจ คือต้องแปลไทยให้เป็นไทยอีกว่ากันอย่างนั้น ข้าพเจ้าฟังแล้วก็ไม่เข้าใจอะไรมากผ่าน ไป พอวันหนึ่งได้เกิดเรื่องการทำนายแบบไม่ตรงกับตำราเดิม โดยคุณปูได้หาคำแปลก ๆมาใช้ คนฟังแล้วเข้าใจแต่คนเรียนหาว่านอก รีด เข้าไปอีก ข้าพเจ้าก็กลับไปฟังเทปที่ได้อักมาทุกครั้งที่เข้าเรียนกับท่าน ก็ได้ถึงแก่นแท้ว่าปูได้ถึงจุดนั้นแล้วคือแปลให้เป็นอิสระเป็นไทยแก่ตัว แต่การแปลจะต้องขึ้นอยู่บนพื้นฐานของดวงดาวเป็นสำคัญ ขึ้นอยู่กับเราจะพูดเพราะดาวมันจะบอกเราเอง การมีเทปท่านอาจารย์อยู่ก็อุ่นใจมีอะไรก็เข้าไปฟังได้เหมือนมีท่าน อาจารย์คอยชี้แนะอยู่ เพราะข้าพเจ้ามีเทปของท่านทุกชั่วโมงการสอน เพราะตอนเรียนใหม่ไม่ค่อยรู้เรื่องคิดว่าสักวันเทปพวกนี้คงช่วยเราได้เลยเริ่มอัดเทปมาเลื่อย ๆ จนในที่สุดก็เห็นคุณค่าของมัน และได้เก็บขึ้นบน
cd เรียบร้อยแล้ว เพราะสมัยนั้นไม่มี cd มีแต่เทปม้วน ซึ่งต่อไปก็จะเสื่อมไปข้าพเจ้าจึงนำเสียงท่านอัดลงบนแผ่น cd จนได้ ท่านก็จะจากเราอีกนานเท่านาน ท่านคิดดูว่าข้าพเจ้าใช้เวลาเรียนกับท่านเกือบหนึ่งปีเต็ม จะมีเทปขนาดไหน บางทีก็มีเสียงการหลับของผมเข้าไปด้วย แต่ความรู้มันอยู่ในเทปตอนนี้ก็นั่งฟังในสิ่งที่สมัยก่อนไม่เข้าใจแต่มาสมัยนี้ฟังแล้วรู้ทันทีเลยเพราะสิ่งที่ อาจารย์พูดมันเป็นความจริงทุกอย่าง เหมือนสมัยเรียนไม่มีผิด เป็นตำราที่หาได้ยากยิ่งในตอนนี้ ดีกว่าหนังสือเสียอีก เพราะมีหลักฐานจากเสียงท่านเลย ใครจะมาอ้างอย่างไรคงลบคำสอนของท่านไม่ได้แน่นอน ผมเชื่ออย่างนั้น พูดนองเรื่องไม่นานหันมาเข้าเรื่องการพยากรณ์ด้วยจิตกันต่อ มีหลายท่านเริ่มเอาไปใช้อย่างที่เห็นแน่ ๆ คือ คุณปู ศิษย์ข้าพเจ้าเอง มานึกได้ก็ตอนแกใช้คำแปลก ๆ เราก็ใช้เหมือนกัน นี่ เป็นอย่างนั้นแล้ว ปูก็มาถึงจุดหนึ่งซึ่งสามารถสร้างสำนวนของตัวเองได้ ไม่แปลกอะไรถ้าท่านไปถึงจุดนั้นได้ แกจะแปลดาวไปตามความเข้าใจของแกจากจิตแกสิ่งนี้คือสิ่งที่หายากมากที่ใครจะไปถึงได้

บทที่ 237

วันนี้เราจะมาคุยเรื่องดวงรายปีอีกชนิดหนึ่งที่ให้ความสำคัญในการทำนายได้ อย่าไปมองข้ามเด็ดขาดเพราะจะมีลูกเด็ด ๆ อยู่ในดวงนี้ คือ
ดวงสงกรานต์

ดวงสงกรานต์เป็นดวงรายปีชนิดหนึ่ง ที่เราไว้ใช้ดูควบคู่กับดวงทินวรรษที่เป็นดวงเฉพาะบุคคลนั้น แต่ดวงสงกรานต์ เป็นการพยากรณ์รายปีให้ทราบว่าปีนี้จะมีอะไรเกิด โดยอ่านจาก ณ ตำแหน่งดาวและปัจจัยต่าง ๆ บนท้องฟ้า ณ วันที่ อาทิตย์เข้าราศีมังกร ที่ 00 Cp 00 หรือ 270 องศา จากราศีเมษ ส่วนมากจะเป็นการดูทั่ว ๆ ไป ประกอบการดู ดวงทินวรรษ หรือใช้ในการดูดวงคนที่เวลาเกิดไม่แน่นอน ได้ดีทีเดียว การดูดวงสงกรานต์จะเริ่มต้นตั้งแต่ทุกวันที่ 21 22 ของเดือนธันวาคม ของทุกปี และจะไปหมดเหตุการณ์ในรอบปีต่อไป ไม่เหมือนกับดวงทินวรรษ ที่เริ่มวันเกิดชนวันเกิด ดวงสงกรานต์ในความคิดของคนสอนอยากให้ท่านใช้กับผู้ที่ไม่แน่ในในเรื่องเวลาเกิดจะดีกว่าเพราะจะเป็นดูแบบกว้าง ๆ และเป็นการกำหนดเวลาที่แน่นอนกันต่อไป ดวงสงกรานต์ กับดวงทินวรรษจะบอกสิ่งต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นกับเจ้าชะตาเหมือน ๆ กัน แต่ต่างกันที่ความระเอียดมากน้อยเท่านั้นส่วนมากนักโหราศาสตร์ จะให้ดูควบคู่กับกับดวงทินวรรษ เพื่อเป็นการยืนยันการดูดวงรายปีที่ทำให้มีความมั่นใจยิ่งขึ้น

                การดูเราก็ตั้งจุดต่าง ๆ หรือปัจจัยที่ต้องการทราบเข้าไป แต่ในกรณีที่เจ้าชะตาไม่มีเวลาเกิดเราไม่ควรไปดูที่ลัคนา
และเมริเดียน หรือจุดหรือปัจจัยที่มี ลัคนา หรือเมริเดียวประกอบ เพราะเราจะตั้งเวลาเกิดไว้ที่ 12.00 น หรือ ที่ 6.00 น  ส่วนจันทร์พอใช้ได้ แต่ถ้าเจ้าชะตารู้เวลาเกิดแน่นอนก็สามานำมาใช้ในดวงสงการณ์ได้ และให้ผลเช่นเดียวกับดวงทินวรรษ แต่อาจจะบอกภาพรวมเกี่ยวกับโลกที่เราอยู่ จะกว้างกว่าหน่อย แต่ให้ผลรุ่นแรงทีเดียว ถ้าใครไม่มีเวลาเกิดอาจใช้ดวงนี้ก็ได้หรือเวลาไม่ตรงมากนัก ได้เลย

บทที่
278

วันนี้เราจะมาคุยเรื่องการดูรายปีอีกนิดซึ่งบางคนอาจทราบมาแล้วแต่บางคนยังไม่ค่อยมั่นใจในการดูและจับหลักยังไม่ได้เลยขอนำมาคุยกันอีกครั้งเพื่อเป็นการย้อนความจำกันนิด การดูรายปี เป็นจำเป็นอย่างยิ่งที่เราควรทำก่อนจะดีจรทั้งหลาย เพราะปีกำเนิดทุกอย่างว่ามีไหมถ้ามีเราถึงลงลึกไปอีกได้ถ้าไม่มีไม่ต้องไปหาต่ออันนี้เป็นกฎ
 

การตรวจดวงชะตาจรรายปี

ขั้นที่ 1
ให้ทำการตั้งดาวจรวงนอกไปเป็นดาวจรรายปีเสียก่อน โดยปรับให้อาทิตย์จรทับอาทิตย์กำเนิดโดยกด sola return  แล้วดูปีที่ต้องการจะดูถ้าต้องการทดสอบ ปีนี้ก็ให้ใส่ปีปัจจุบันลงไป โดยเราจะนับวันเกิดชนวันเกิดของปีต่อไป และใส่เวลาเกิดเดิม ถ้าจะให้ระเอียดลงไปควรปรับค่าตำแหน่งองศาลิปดาของอาทิตย์วงนอกกับวงในให้เท่ากันด้วยก็จะเป็นการทำให้ดูได้ละเอียดยิ่งขึ้น เราก็จะได้ดาวจรวงนอกเป็นเหตุการณ์รายปีที่จะเกิดอะไรขึ้นเวลาอ่าน

ก็ให้อ่านดาววงนอกทำมุมกัน และผสมกับดาววงในที่เป็นพื้นดวง ว่ามีดาวดีหรือดาวร้ายจรมาถึง

จุดเจ้าชะตาหรือไม่ รวมไปถึงให้ทำการตั้งจุดอิทธิพลที่ต้องการทราบลงไปในวงนอกว่าทำมุมถึงจุดเจ้าชะตาวงในหรือวงนอกหรือไม่ ให้ทำการกด compute n. และใส่สูตรที่ต้องการลงไป เช่น 1=SU+JU-UR

หรือ 1= SU$JU (ศูนย์รังสี) และทำการวัดมุมว่าจุดที่เราตั้งขึ้นนั้นทำมุมถึงจุดเจ้าชะตาอะไรบ้าง ก็ให้

อ่านออกมา รวมทั้งจุดเจ้าชะตาสะท้อนด้วย

ขั้นที่ 2
ทำการตรวจสอบโค้งอายุรายปี  โดยจะดูโค้งอายุทั้งโค้ง + และโค้ง ของดาวที่เราตั้งขึ้นมา

เมื่อต้องการดูโชคลาภให้ตั้งโค้ง พฤหัส โดยกด compute n. และใส่ JU  จุดพฤหัสโค้ง + และพฤหัสโค้ง จะมีค่าเหมือนจุดเจ้าชะตาจรรายปีด้วย เมื่อไปทำมุมถึงดาวอะไรก็ให้อ่านออกมาได้เลยเช่น

โค้ง + ของ พฤหัสไปทำมุม 45 กับ อาทิตย์ กำหนด หรือ จันทร์จรวงนอกในดวงรายปี ก็แปลได้ว่า

จะมีโชคดี เราแบ่งประเภทโค้งออกเป็นดังนี้ การดูโค้งจะเป็นการดูโดยภาพรวม ๆ ไปก่อนและค่อยๆดูรายละของเรื่องนั้น ๆ อีกครั้งหนึ่ง แต่ความแม่นยำถือว่าโค้งดาว ให้ความแม่นยำสูงมาก

โค้ง JU   ไว้ดูเกี่ยวกับเรื่องโชคลาภ ความสำเร็จ การประสพโชค สิ่งที่มุ่งหวังไว้

โค้ง AP   ไว้ตรวจดูความมีชื่อเสียงโด่งดังความสำเร็จ ในหน้าที่การงาน

โค้ง KR   ไว้ตรวจดูเรื่องการปรับตำแหน่งหน้าที่การงาน เลื่อนยศ การสอบได้ในปีนี้

โค้ง VE    ไว้ตรวจดูเรื่องเกี่ยวกับความรักหรือการแต่งงานการพบรัก การมีบุตร

โค้ง CU    ไว้ตรวจดูเรื่องการมีครอบครัว การแต่งงานควรดูคู่ไปกับโค้ง VE

โค้ง SA     ไว้ตรวจดูเรื่องการพลัดพราก การลาจาก การออกจากงาน การโยกย้าย การเปลี่ยนแปลง

                     การเดินทางจากที่อยู่อาศัยไป ณ แดนไกล หรือการจากโลกนี้ไป

โค้ง HA     ไว้ตรวจดูเรื่องเกี่ยวกับสุขภาพโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ ที่จะเกิดในปีนี้

โค้ง AD      ไว้ตรวจดูเรื่องความยากลำยาก ความตาย ความอึกอัดใจ การไม่ประสพความสำเร็จ

โค้ง UR       ไว้ตรวจดูเรื่องเหตุการณ์ฉับพลัน หรือเหตุการน่าตื่นเต้นในชีวิต

โค้ง MA      ไว้ตรวจดูเรื่องกิจการงาน ต่าง ๆ ในชีวิต

โค้ง NE        ไว้ตรวจดูเรื่องความเจ็บป่วย การหลอกลวง ความไม่กระจ่างในชีวิตปีนี้เป็นโค้งที่

                       สามารถไว้ตรวจดูเรื่องสุขภาพได้ด้วย ควรดูควบคู่ไปกับโค้ง SA , HA, AD

โค้ง VU        ไว้ตรวจดูเรื่องความสำเร็จ ความยิ่งใหญ่ในชีวิต ควรดูประกอบกับโค้ง KR

โค้ง PO          ไว้ตรวจดูเรื่องการบรรลุถึงจุดสูงสุดของปัญญา การเรียนรู้สิ่งที่เหนือธรรมชาติ
 

บทที่ 279
ขั้นที่ 3
 การตรวจดูโค้งจุดเจ้าชะตา

เราสามารถทำการตรวจดูโค้งจุดเจ้าชะตาก่อนตรวจดูโค้ง อื่น ๆ ได้ก็จะบอกเหตุการณ์ที่ต้องการ

ทราบได้เหมือนกัน เช่น โค้ง AR,SU,MO,AS,MC ,NO ว่าไปทำมุมถึงดาวดีหรือดาวร้ายอย่างไร

ดูทั้งดาวในพื้นดวงและดาวจรรายปีวงนอกเช่นเดียวกัน

ขั้นที่ 4 เมื่อทำการตรวจโค้งพอทราบแล้วว่าชีวิตในปีนี้น่าจะมีเรื่องดีหรือเรื่องร้ายแล้วขั้นต่อไป

ก็ให้ทำการตรวจดูเรื่องว่าเรื่องดีหรือร้ายนั้นเป็นเรื่องอะไรกันแน่ หรือเจ้าชะตาอาจถามขึ้นมาตอนนี้ก็สามารถตั้งจุด อิทธิพล หรือจุดศูนย์รังสี เข้าไปจับบอกได้อีกว่าเป็นเรื่องอะไรกันแน่น

ขั้นที่ 5
 ให้ทำการตั้งจุดอิทธิพลและศูนย์รังสีที่ต้องการทราบในพื้นดวงก่อน โดยกด F4 และใส่จุด

ที่ต้องการทราบลงไปและ + ARC และ – ARC ท้ายจุดที่เราตั้งลงไป เช่น ต้องการรู้ว่าจะรวยไหม

ก็ให้กด compute n. และป้อนคำว่า 1= SU+JU-UR+ARC และใส่ n. ใหม่ และป้อนคำว่า 2=SU+JU-UR-ARC และให้สังเกตุดูว่าทั้งสองจุดทำมุมถึงจุดเจ้าชะตาในพื้นดวงหรือจุดเจ้าชะตาจรรายปีหรือไม่

ถ้าทำมุมใดมุมหนึ่งก็ถือว่าเกิดเรื่องนี้

ขั้นที่ 6
 เป็นการตรวจจุดอิทธิพลหรือศูนย์รังสีที่ต้องการถามลงในดาวจรรายปีเพื่อเป็นการย้ำเพื่อให้

แน่ใจว่าจะมีเรื่องนี้เกิดแน่ โดยกด compute t. และใสสูตรลงไปเช่น 3=SU+JU-UR ถ้าไปทำมุมถึงจุดเจ้าชะตาในดาวจรรายปีหรือในพื้นดวงก็เป็นอันว่าแน่นอนเรื่องนี้จะเกิด

การตัดสินใจว่าเรื่องใดเรื่องหนึ่งจะเกิดกับเจ้าชะตานั้นจะต้องมีจุดที่ต้องการทราบเจ้าจุดเจ้าชะตาอย่างน้อย 2-3 ก็ถือได้ว่าเกิดเรื่องนี้ ถึง 80 เปอร์เซ็นต์ แต่ถ้าเข้าทั้งสาม จุดเลยก็มั่นใจได้ว่าเกิดแน่นอน 100 เปอร์เซ็นต์  และควรดูโค้งประกอบเพื่อเป็นการตัดสินใจอีกครั้งว่าชีวิตของเจ้าชะตาในปี

นี้จะออกไปในทางด้านดีหรือด้านร้ายกันแน่ เพื่อให้เจ้าชะตาคอยระวัง

เราสามารถทำการตรวจสอบเหตุการณ์ย้อนหลังหรือเดินหน้าโดยการดูโค้งต่าง ๆ ว่าจะมีเรื่องร้ายหรือเรื่องดีเกิดขึ้นในปีไหนได้โดยให้ทำการตั้งดวงรายปีไว้ และกด transit  และไปเปลี่ยน พ..

ให้เดินหน้าไปในอนาคตว่าโค้งต่าง ๆ จะวิ่งเข้ามาทำมุมถึงจุดเจ้าชะตาหรือปัจจัย หรือดาวต่าง ๆ ในปีไหนกันเพื่อเป็นการคอยระวัง หรือหมุน พ.. ถอยหลังเพื่อไปทดสอบความแม่นยำในโค้งต่าง ๆ ที่ผ่านมาว่ามีเรื่องดีหรือเรื่องร้ายที่ชะตาเกิดขึ้นได้ สรุปโค้งอายุ สามารถบอกถึงเรื่องเหตุการณ์ที่ผ่านมาได้กี่ปีก็ได้เท่าที่ต้องการทราบ และเดินหน้าไปกี่ปีก็ได้เท่าที่ต้องการทราบ โดยยึดหลังว่าต้อง

ตั้งดวงจรรายปีไว้เป็นหลักเสมอเท่านั้นท่านก็สามารถทราบว่าปีไหน ๆ จะเกิดอะไรขึ้นโดยภาพรวม

และไปหารายละเอียดอีกครั้งดังที่กล่าวมา

บทที่ 280

วันนี้เราจะมาคุยเรื่องดาวเคราะห์น้อย ที่ยังไม่ค่อยมีคนมาเล่นกันมากนัก ก็เลยอยากให้ได้รับความรู้ ไว้ก่อนต่อไปเราจะนำท่านไปเล่นดาวเคราะห์น้อยกัน
ส่วนมากจะเล่นกันในต่างประเทศ แต่โปรแกรมเราก็มี่ไว้ให้ โดยเข้าไปเลือกดาวก็จะแสดงขึ้นมาความหมายตามด้านล่างนี้ ส่วนมากจะเป็นความหมายของร่างกายและสุขภาพ
 

ดาวเคราะห์น้อย

ความหมาย ดาวห้าดวงมีดังนี้ ส่วนมากไปดูเรื่องสุขภาพเป็นหลัก และส่วนของร่างกายที่มีปัญหา ตามราศีที่เค้าประจำอยู่ในพื้นดวงหรือจรเข้ามา ระยะการโคจรของดาวเคราะห์น้อยไม่นานนัก

1.  Ceres เซอเรส เป็นรู้ดาวเสาร์หัวกลับ   ย่อ cs 
หมายถึง เป็นคนชอบ ช่วยเหลือคน ชอบรักษา แนะนะ เค้าจะมีอะไรดี ๆ อยู่ในตัว การพูดการติดต่อ ภาระหน้าที่ ถ้าทำมุมถึงจุดเจ้าชะตา su mo as ve me
การแพทย์ หมอ ยา รักษา ปรุงยา รักษาสุขภาพ ให้การแนะนำ รวมไปถึงสุขภาพเริ่มดีขึ้น

ส่วนของร่างกายคือท้อง ลำไส้ มีปัญหา

 2.    Vesta วีต้า ย่อ vt  เป็นรู้ หรือเตาไฟ ที่ให้ความอบอุ่น ความสงบทางด้านจิตใจ เวทมนตร์ ศาสนา การเสียสละ
       การแทพย์ การมีความสัมพันธ์ทางเพศ

ส่วนของร่างกาย มดลูก การขับถ่ายทั้งหลาย รวมไปถึงการติดเชื้อทางการร่วเพศ มะเร็ง

3.Juno จูโน jn  เป็นรูแฉกมีเส้นยาวลงมาและมีขีดตรงกลาง  ใจร้อน ใช้กำลัง อิจาฉา สตรี มารดา เสียสละ มี แนวความคิดเป็นของตัวเอง สตรีใหญ่ ถูกโจมตี

การแพทย์ คือส่วนท้องทั้งหมด ลงไปถึงการพืชพันธ์ด้วย

        การแพทย์  การแต่งงาน รอบเดือน มดลูก ถ้าดาวนี้เสีย

4.  Pallus พารัส pa  เป็นรู้สามเหลื่อขนมเปียกปูนและมีแกนขนยามีเส้นตัด

ความหมาย เป็นคนชอบศิลปะ ความงาม มีความมั่นใจ ฉลาดหลักแหลม ปัญญาดี ผู้คุ้มครอง ปกป้อง รักสงบ ชอบความเป็นส่วนตัว

การแพทย์ การเจ็บป่วย สายตา การมองเห็น

ส่วนของร่างกาย ขา เท้า ส่วนขาลงไป

5.  Chiron ชีลอน  cr เป็นรูป ขีดยาว มีวงกลมอยู่ด้านล่าง และมีขีดสองขีดด้านขวาทำมุม 45 องศา

ความหมาย การเจ็บป่วย การรักษา การพลัดพราก กะทันหัน เดินทาง การงาน

ด้านการแพทย์ สุขภาพไม่ถ้าอยู่ในพื้นดวง ดาวจรกำลังป่วย อยู่ราศีไหนก็เป็นราศีนั้น พยาบาล รักษา

การใช้ดาวเคราะห์น้อยก็ใช้เหมือนดาวทั่วไป มันต้องใช้จุดเจ้าชะตาเข้าช่วย หรือราศีเข้าช่วยมันถึงหทำงานในพื้นดวงหรือดาวจร หรือโค้ง ดาวเคราะห์น้อยจะไม่มารวมกับดาวทิพย์ หรือยูเรเนียน เป็นอีกระบบหนึ่ง เราอาจดูอย่างเดียว กับดาวเคราะห์ตัดดาวทิพย์ทิ้งไป  

ส่วนจองร่างกาย เอว กระดูกสันหลัง ระบบย่อยอาหาร ส่วนมากจะเป็นแบบ กะทันหัน

บทที่ 281

วันนี้เราจะมาคุยเรื่องสีกันหน่อยจะนำมาใช้ในโหราศาสตร์ได้เช่นกัน เมื่อมีคนถามว่าควรใช้สีอะไรเราก็ดูสีตามธาตุของเจ้าชะตา หรือดาวเด่นในพื้นดวงก็ได้ รายละเอียดมีดังนี้
 

 ความหมายของสี

         เรื่องของสีเป็นเรื่องทางวิทยาศาสตร์และขณะเดียวกันมันก็เป็นเรื่องปรัชญาอันลึกซึ้งด้วยซึ่งปัจจุบันสองประการนี้ควรจะดำเนินควบคู่กันไป สีจะให้ความหมายทางด้านการแสดงออกทางด้านความรู้สึก และพฤติกรรมบางประการของมนุษย์ได้ เรื่องนี้ถือเป็นศาสตร์ที่น่าสนใจอย่างหนึ่งที่มีส่วนในชีวิตประจำวัน เราใช้สีในการสื่อความหมายต่าง ๆ ทางด้านอารมณ์และความรู้สึก

สีแดง            หมายถึงจิตวิญญาณแห่งชีวิต ความเข้มแข็ง เต็มไปด้วยความกล้าหาญ และความประสบความสำเร็จทางด้านชีวิต  การ    วางอำนาจ ความโกรธเคือง การใช้อารมณ์ ดื้อรั้น เอาแต่ใจตนเอง เจ้าอารมณ์

                   การใช้ความรุนแรง

สีชมพู            หมายถึงความรัก ความอ่อนกำลัง ความเมตตา ความสุภาพอ่อนโยน  การพร้อมที่จะรับใช้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน ความรักที่ปราศจากเงื่อนไข

สีส้ม              หมายถึงความรื่นเริง ความสนุก เป็นสีแห่งความสร้างสรรค์ และการแสดงออก มีจิตใจแจ่มใส ความมั่นใจ และรักอิสระ ความบริสุทธิ์ ศาสนา

สีเหลือง          จิตวิญญาณแห่งความรู้และสติปัญญา ร่าเริงแจ่มใส  มีความคิดเข้าข้างตนเอง มีเล่ห์เหลี่ยม ฉลาดแหลมคมเกินไป

สีเขียว           หมายถึงความรัก ความเห็นอกเห็นใจ รักอิสระ พลังงานจากธรรมชาติ ความ

                   สงบสุขและความราบรื่นในชีวิต การเย็นชา 

สีน้ำเงิน          หมายถึงจิตวิญญาณแห่งความเป็นจริง ความสงบสุขทางด้านจิตใจ  ความคิดริเริ่ม ความเชื่อมั่น ความสมบูรณ์ และ
                   การ อุทิศตน ความงาม ความสงบสันติ
  ความทะเยอทะยาน  ความยิ่งใหญ่ ความเชื่อในทางศาสตร์เร้นลับ ความสงบ
                   สันโดษ

สีม่วงคราม      หมายถึงจิตวิญญาณแห่งญาณสังหรณ์และพลังอำนาจ

สีม่วง             หมายถึงจิตวิญญาณแห่งการเสียสละ อุดมการณ์อันสูงส่ง มีพลังอำนาจและความเร้นลับ และความชาญฉลาด สมาธิจิต
    ความสะอาด
   

สีขาว             หมายถึงความบริสุทธิ์ ไม่เป็นพิษ ความสงบนิ่ง

สีดำ              หมายถึงความเร้นลับ ไม่เปิดเผย สิ่งซ้อนเร้น ความมืดของจิตใจ

สีเทา             หมายถึงความเศร้าหมอง การหมดหวัง ความไม่กระจ่าง ความกลัว ไม่กล้าแสดงออก

สีน้ำตาล          เป็นสีแสดงถึงสีแห่งธรรมชาติอย่างแท้จริง หมายถึงความแข็งแกร่ง ความมั่นคง ความหนักแน่ถาวร

 

เรื่องความทุกข์

ดาวร้ายสัมพันธ์ถึงดาวอะไร ก็มักจะเป็นอาชีพ ของเจ้าชะตา  ถ้ามีทุกข์เรื่องไหนเราก็จะมีอาชีพในเรื่องนั้น เป็นหลักการที่ใช้กันมานานและ

Mc+su

-no =as+me = me+ma ชาย

-no +mo=pl+ap หญิง

………………………………….

Mc + su –no=as=me/ma ชาย

Mc +su-no=mo =pl=ap หญิง