บทที่ 531
วันนี้เราจะมาคุยเรื่องจุดอิทธิพล
+โค้งฯ กันว่าเอาไว้ทำอะไร คงจบไปแล้วนะ เรื่องโค้งฯดาว ความหมายก็จะเหมือนกับความหมายดาวนั่นเอง แต่เราเอามาดูเป็นรายปี โค้งฯทั้งหมดก็จะมี โค้งจุดเจ้าชะตา และโค้งฯดาวเคราะห์ พอเข้าใจกันแล้วก็จะมีคุยกันเกี่ยวกับจุดอิทธิพล ที่เราต้องดูกันต่อไปจากโค้งฯดาวเคราะห์ เมื่อเราทราบเรื่องดูเรื่องร้ายในแต่ละปีแล้ว เราก็มาหาจุดที่ย่อยลงไปอีกว่าโชค หรือเคราะห์มันคืออะไรในปีนั้น คือจุดอิทธิพล+โค้งฯ นั้นเอง วิธีการก็ไม่ยากนัก เพียงเราเอาจุด อิทธิพลมาใส่โค้งฯ ขาสองข้างกางไปถูกอะไรก็จะเป็นเรื่องได้เลยเช่นจุดเจ้าชะตาหรือดาวดีดาวร้ายก็อ่านได้เลยเพราะขาสองข้างทำหน้าที่เหมือนจุดเจ้าชะตา โค้งจุดอิทธิพลมีสองแบบด้วยกันคือ พื้นดวง และจร เราใช้พื้นดวงไว้ตรวจว่าปีนี้มีเรื่องนี้ใช่ไหม ส่วนจรจะบอกว่าเดือนไหน หรือเป็นการย้ำว่าปีนี้มีการเกิดเรื่องนี้แน่นอน การทำคือเข้าไปที่ compute และไปที่เครื่องบวกเลขดาวใครมีโปรแกรมคงเคยเล่นมาบ้างแล้วนะ ถ้าเราต้องการดูรายปีว่ามีเรื่องที่เราต้องการทราบไหม ให้ใช่ตัว n. คือพื้นดวงนำหน้าจุดอิทธิพล และ ไปใส่เครื่องหมายถูกลงไปตรง arc และกด port ลงไปจุดอิทธิพล+โค้งฯก็จะไปแสดงในจานทันทีว่าปีนี้จะเป็นโชคเรื่องนี้หรือไม่ เช่นเราต้องการอยากรู้ว่าโชคเค้าเกี่ยวกับขายที่ได้ไหม เราก็ใช้จุด su+ad-ju + ace เข้าไป ถ้าขาใดขาหนึ่งไปถึงจุดเจ้าชะตาหรือดาวพฤหัส ศุกร์ หรือดาว ดี ๆ ก็หมายความว่าน่าจะขายได้ แต่ต้องเข้า 3 ในสี่ คือเราอาจต้องตั้ง จุดอิทธิพลจรรายปีอีกอันหนึ่ง คือ ไปที ตัวตั้ง ไปเลือก t. เพื่อหาจรรายปี ก่อนอื่นท่านต้องตั้งดาวจรวงนอกไปรายปีก่อนคือเอาเอาอาทิตย์จรทับอาทิตย์กำเนิดก่อน ดาววงนอกก็จะเป็นพื้นดวงจรรายปีทันที วงนี้เอาไว้ดูแค่รายปีเท่านั้น ไม่ควรเอาไปใช้ดูรายวัน หรือ รายเดือน ผลการการของว่าจะเข้าสามในสี่ หรือไม่เราอาจต้องให้จุดมันค้างไว้ก่อนในพื้นดวง คือท่านต้อง add n. เก็บไว้ในเครื่องมือ ก่อน และใส่ความหมายเก็บไว้ ต่อจากนั้นท่านก็ไปตั้งจร จะ add เก็บไว้ดูครั้งหน้าถ้ามีคนถามก็ได้เพราะเราทำไว้ให้ใช้กับคนต่อไปได้โดยมีการคำนวณใหม่ในดาวพื้นดวงของเจ้าชะตาใหม่ ตอนนี้ถ้าท่านท่านจะดูสามในสี่ท่านก็เข้าไปในที่เรา add เข้าไปเข้าไปทำเครื่องหมาย ถูกเพื่อดึงจุดที่เราตั้งไว้ออกมาใช้ มันก็จะไม่ลงเมื่อตอนเราตั้งวงนอกไป ตอนนี้เราก็สี่จุด ทั้งพื้นดวงสาม จรหนึ่ง ถ้าเข้าสามจุดคือขา และจรหนึ่ง ก็มีจังหวะดีมากที่จะขายได้ แต่ถ้าไม่เข้าหรือเข้าแค่ขาเดียวก็อย่าไปทำนายให้มากนักเพราะอาจไม่ใช่เรื่องนี้ก็ได้ อาจเป็นโชคเรื่องอื่นเราก็ต้องหาต่อไป สุดท้ายท่านอาจต้องมีหนังสือพระเคราะห์สนธิ กอดไว้หนึ่งเล่มเพื่อหาจุดอิทธิพล ห้าพันจุด แต่เราก็คงใช้ไม่หมดแต่มีไว้ดีกว่าจะได้เปิดดูเรื่องต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น การเรียนโหราศาสตร์ยูเรเนียมมีความจำเป็นต้องมีหนังสือเล่มนี้ไว้เพราะเค้าจะบอกจุดอิทธิพลทั้งหมดที่ใช้ให้เราทราบได้
วันนี้พอเพียงแค่นี้ก่อนท่านอาจ งง แล้ว คราวหน้าเรามาย้ำกันอีกที

บทที่ 532

วันนี้เรามาคุยเรื่องเดิมกันอีกนิดหนึ่งเพื่อนเป็นการทำความเข้าใจให้ดียิ่งขึ้น การดูเหตุการณ์รายปีนั้นถือเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งที่เราจะพลาดไปไม่ได้เป็นอันขาด ข้าพเจ้าถ้าจะตรวจดวงให้ใครก็จะเริ่มจากรายปีก่อนว่าปีนี้เค้าเป็นอย่างไรมีเรื่องอะไรเข้ามาไหมโดยดูจากโค้งเป็นหลักก่อนว่ามีโค้งฯดีหรือโค้งฯร้ายเข้ามาบ้าง ครั้งแรกจะเริ่มจากโค้งเสาร์มาก่อนเพราะคนเรามาหาจะต้องมีทุกข์กันทุกคน จะทุกข์ จริง ๆ หรือทุกข์กึ่งสุขก็มี คือจะมาถามว่าจะได้เปลี่ยนงานหรือไม่อันนี้ก็เป็นทุกข์ชนิดหนึ่งคือใจเป็นทุกข์เราก็อาจจะทดสอบได้ทั้งโค้งฯ เสาร์ และ เมริเดียน ว่าเจ้าชะตาทุกข์แบบไหน ถ้าเสาร์ไม่มา เมริเดียนก็มา ส่วนมากจะเป็นเสาร์กันเป็นส่วนมาก การหาทางออกให้กับชีวิตไม่เจอ เราจะต้องนำพาจิตวิญญาณเข้าไปสู่แสงสว่างให้ได้ คือหาทางออกให้ได้ ส่วนอื่นก็อาจมาหาฤกษ์ดี ๆ ออกรถ ขึ้นบ้านใหม่ จะขายที่ได้ไหม อันนี้เป็นเรื่องไม่ใช่ดาวเสาร์ แต่เป็นเรื่องความต้องการของจิตไป เราก็อาจหาวันดีๆ ให้เค้าไปได้เลยไม่ต้องมาตั้งโค้งฯอะไรมากนัก แต่อาจตั้งโค้งฯ พฤหัสดูสักนิดว่าดีไหมสำหรับปีนี้ว่าเจ้าชะตาจะทำสิ่งดี ๆ ได้ไหม มีปัญหาอะไรไหมถ้าจะซื้อบ้าน รถ ถ้าไม่มีอะไร ก็วางวันดี ๆ ให้เลย เราเป็นนักโหราศาสตร์อาจต้องทำหน้าที่หลายอย่างเพื่อให้ลูกค้าพ้นจากความกังวลให้ได้ หรืออาจเป็นหน้าที่หลักในการหาคำตอบให้เจ้าชะตาให้ได้ดีที่สุด ไม่ว่าเรื่องอะไร เรามีเครื่องมือไว้ดูเรื่องต่าง ๆ ได้ทุกอย่าง สุดท้ายเราอาจใช้จุดอิทธิพลเข้าไปจับเอาสิ่งที่เจ้าชะตาถามเป็นขั้นสุดท้าย และหาวันที่จะเกิด หรือเดือนก็ได้ ใครยังไม่ถนัดการดูวันก็ดูรายเดือนไปก่อนก็ดูไม่ยาก เพียงแต่เราตั้ง new moon เข้าไป ณ วันที่เค้ามาหา และตั้งจุดอิทธิพลจร รายเดือนเข้าไป คือ t. ไม่ต้อง บวก ARC นะ เพราะจรจะไม่มี การทำโค้งฯกัน และก็กด new moon ที่เมนู หรือที่เมาส์ขวาเค้าก็จะขึ้นมาให้เองท่านก็กดไปจนกว่าจุด อิทธิพลที่เค้าถามเข้ามาในตำแหน่งดี ๆ หรือชนกับจุดเจ้าชะตาหรือทำมุมสวยๆ ในเดือนนั้น ๆ เราก็มีกฎอยู่ว่าการหารายเดือนต้องเริ่มไปจนถึงวันเกิดชนวันเกิด ถ้าเกินก็แปลว่าปีนี้ไม่มีให้ไปรอหลังวันเกิดเราก็อาจต้องเข้าไปดูรายปีของปีต่อไปก่อนแล้วมาหารายเดือนอีกครั้ง ขั้นตอนจะเป็นแบบนี้นะครับ ถ้าเราหาเป็นถึงวันเกิดปีนี้แล้วยังไม่น่าประทับใจเราก็ต้องกลับไปหารายปีต่อไปว่าเจ้าชะตามีหลังที่จะขายที่ในปีหน้าได้ไหม หรือได้แต่ข่าวไม่มีคนมาซื้อ ก็มีเพราะเค้าอาจตั้งราคาสูงเกินไปมีคนมาซื้อจริงแต่ไม่สู้ราคาก็เป็นไปได้ ดังนั้นคนขายและคนซื้อก็ต้องมีการติดต่อกันและอาจยอมบ้าง ไม่แล้วจุดขายของปีนี้ก็จะหลุดไป ตรงนี้เค้าอาจบอกว่าเราดูไม่ตรงก็ได้ มีคนเข้ามาติดต่อจริงแต่เจ้าชะตาทำเสียเองก็มีมาก เราต้องถามเจ้าชะตาว่าเดือนนี้มีคนมาติดต่อไหมการติดต่อคือการเริ่มมีการซื้อขายแล้ว แต่อาจไม่พอใจ แต่ถ้าเจ้าชะตาพอใจการขายก็สิ้นสุดลงได้รับเงิน เราก็อาจตั้งจุดได้รับเงินเข้าไปดูว่าเจ้าชะตาได้รับเงินหรือไม่ ก็ได้ ถ้ามีจุดขายไม่มีจุดรับเงินก็อาจหมายความว่าการขายไม่จบแน่นะ

บทที่ 533

วันนี้เราจะพูดการตั้งจุดอิทธิพลในเครื่องคิดเลข เราจะเข้ามาที่เมนู compute และกด เครื่องหมาย > ด้านบนก็จะมีจอเล็ก ๆ ขึ้นมาให้ท่านใส่จุดอิทธิพล (su+ju-ur) หรือศูนย์รังสี (su/ju) มีดาวให้ท่านเลือก ช่องแรกเป็นตัวเลือก พื้นดวง n จร คือ t  +- arc ช่องลงจะเป็นสีดำ จะเอาไว้ให้เลือกดาวที่ต้องการ ส่วน a คือตัวแปลที่จะ แสดงในจอภาพใหญ่ ท่านสามารถเลือกตัวแปรได้ตั้งแต่ a-z 1-12ตามใจชอบ และก็กด plot สิ่งที่ท่านตั้งขึ้นก็จะไปแสดงบนจอภาพ ว่าอยู่ตำแหน่งไหนของตำแหน่งดาวในพื้นดวง หรือดาวจร เพื่อดูว่าทำมุมถึงจุดเจ้าชะตาหรือไม่ ในเครื่องคิดเลขนี้สามารถทำอย่างอื่นได้อีกมาก เช่นท่านสามารถใส่ตัวเลขตองตำแหน่งดาวก็ได้ แทนเครื่องหมายดาว และท่านสามารถสลับดาวจรกับพื้นดวงมาเป็นจุดอิทธิพลผสมก็ได้ก็จะมีผลแรงมากขึ้นไปอีก ถ้าท่านไม่ใส่ +- arc ก็จะเป็นพื้นดวงไป ถ้าท่านเลือก n. ก็จะไม่มีขากางออกไปเป็นรายปีเพียงแสดงจุดเดียวบนพื้นดวงว่าท่านมีจุดนี้ในพื้นดวงถึงจุดเจ้าชะตาหรือไม่เป็นการดูว่าเป็นมีจุดอิทธิพลอะไรบ้างถึงเจ้าชะตาทั้งหกจุด และเข้าแกนก็ได้ เราจะมองว่าจุดที่เราตั้งถ้าไปเข้าแกนทั้งสี่ คือ มังกร เมษ กรกฎ ตุลย์ เป็นแกนหลักที่สามารถนำมาใช้ทำนายได้ถ้ามีดาวหรือจุดอิทธิพลอะไรอยู่ในแกนก็คือว่าถึงจุดเมษด้วยคือจุดเจ้าชะตาเช่นกันและถือว่าอยู่ในตำแหน่งที่เป็นตัวตนเองเจ้าชะตาด้วย คือดาวเด่น หรือจุดอิทธิพลเด่น เค้าจะทำงานแรงกว่าดาวทำมุม หรือจุดต่าง ๆ ในพื้นดวงเข้าราศีอะไรเราก็สามารถพูดได้ ตามราศีนั้น ๆ เช่นถ้าเราต้องการทราบว่าเราเป็นนักโหราศาสตร์ได้หรือไม่เราก็อาจตั้งตัวแปรดังนี้ n.a=ur+ap-su แล้วกด plot จุดที่เราใส่ลงไปเข้าจุดเจ้าชะตาก็หมายความว่าท่านมีส่วนที่จะเป็นนักโหราศาสตร์ได้ แต่ถ้าใช้ t.a=ur+ap-su จร ก็จะบอกว่าปีนี้ เดือนนี้ วันนี้ ท่านจะพบกับเรื่องโหราศาสตร์ก็ได้เช่นเดียวกัน

 

บทที่ 534

วันนี้เราจะมาคุยกันเรื่องจุดอิทธิพลต่อกัน จริงแล้วจุดในการหาเรื่องต่าง ๆ ในพื้นดวงเราสามารถใช้ได้ทั้ง จุดอิทธิพล และศูนย์รังสี ดาวโดด โค้งฯ และปัจจัยอื่น ๆ ได้ อะไรก็ได้ที่สามารถบอกเรื่องที่เกี่ยวกับเจ้าชะตาได้ รวมไปถึงจุด MP   index day เช่นกันก็สามารถบอกเรื่องต่าง ๆ เป็นรายปี รายเดือน รายวัน ได้ อย่างแม่นยำถ้าท่านเลือกใช้ให้เป็นว่าควรจะใช้เวลาไหน ดี เหมาะสมกับเรื่องที่เจ้าชะตาถามขึ้นมา แต่ถ้ามีคนมาดูไม่ถามอะไรเลย นั่งให้เราทำนายแต่ฝ่ายเดียว ไม่พูดอะไรเลย เหมือนเราพูดกับก้อนหินละก็ ควรเชิญเค้าออกจากห้องทำนายได้เลย เพราะเค้าไม่ได้ให้ความร่วมมือในการค้นหาข้อมูล จริง ๆ แล้วคนทำนายต้องมีข้อมูลของเจ้าชะตาบ้างเพื่อนเป็นแนวทางในการหาสิ่งที่เค้าต้องการเช่น เรื่องที่ผ่านมา หรือเหตุสำคัญต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับเจ้าชะตา ณ เวลาไหน ก็มีส่วนในการปรับเวลาเกิดได้เช่นเดียวกัน การที่เจ้าชะตาที่ไม่มีการยิ่งคำถามมาก็มีอยู่ว่าเค้าไม่เข้าใจในศาสตร์นี้ อีกอย่างเป็นอยากทดสอบว่าถ้าไม่บอกอะไรจะทายอะไรได้ไหม อันนี้เขาเรียกว่าการรองของ อย่างนี้ควรงดการทำนายได้เลย เพราะไม่ให้ความร่วมมือในการทำนาย ข้าพเจ้าก็มีปัญหานี้เหมือนกัน พอดีข้าพเจ้าเป็นคนตรง ทีผ่านมาก็เจอคนพวกนี้เหมือนกันมานั่งไม่พูดไม่ถามให้เราต้องขอให้ถามเข้ามาจะได้ดูว่าถูกไหม นั่งเป็นก้อนหินเลย ข้าพเจ้าเลยจัดการให้ออกจากห้องไปและไม่เก็บเงินคิดว่าเราทำหน้าไม่จบ และไม่ควรเก็บเงินเพราะเค้าไม่ให้ความร่วมมือในการดู จริง ๆ แล้ว โหราศาสตร์เชิงวิเคราะห์ นี้ต้องมีส่วนร่วมมือจากเจ้าชะตาเข้ามาด้วย เพราะข้อมูลของดาวตีได้หลายความหมาย เราไม่ใช่มีท่านเทพองค์ไหนมาอยู่ในตัวไม่ต้องบอกอะไรก็พูดได้ เราเป็นนักอ่านดาว ถ้าท่านเจอแบบนี้จัดการได้เลยไม่ต้องดูให้มีนักเรียนหลายท่านเจอคนแบบนี้มาก ในที่สุดจบลงไม่ใครก็ใครก็ต้องยอมกันไป ส่วนมากข้าพเจ้าบอกว่าถ้าท่านไม่เชื่อก็เชิญออกไปไม่ต้องจ่ายเงิน ในที่สุดก็ต้องกลับมาหาข้าพเจ้าอีกเพราะไม่มีคนที่จะดูให้ อันนี้เล่าสู่กันฟังเล่น ๆ  แต่ของจริงมี ถ้าเจอแบบนี้เราต้องจับจุดให้ได้ เราก็ทายไปเลื่อย ๆ ถ้าเค้าเล่นกับเรา ทายไปตรงกับใจอะไรเค้าก็จะเอ่ยปากออกมาถ้าเราทำให้เค้าเปิดปากได้ก็จบ แปลว่าเค้าเริ่มสนใจในคำพูดของเราแล้ว เราก็เริ่มคุยกันต่อได้เรื่องต่างๆ ก็จะเดินไปตามกฎระเบียบการทำนายไปจนจบการทำนาย เรื่องนี้ทุกท่านต้องเจอต้องแก้ไขปัญหาด้วยตัวเอง แต่ละคนมีวิธีที่แตกต่างกันออกไป แต่ข้าพเจ้าใช้แรงหน่อยคือถ้าไม่เชื่อเชิญกลับบ้านไปตั้งสติให้ดีจะมาหรือไม่มาก็ตามใจ

บทที่ 535

ดาวโคจรไปสู่ในพื้นดวง
การอ่านโคจรไปสู่นั้นสามารถอ่านได้ทั้งดาวจรและพื้นดวงได้ ค่าที่ได้พอ ๆ กับการวัดมุม เหมาะสำหรับคนที่ยังไม่ถนัดการวัดมุมใช้วิธีนี้ก็ได้ในการอ่านพื้นดวงของเจ้าชะตาเป็นอย่างดีและง่ายในการทำความเข้าใจในพื้นฐานการผสมดาว ขั้นตอนไม่ยากเราต้องการทราบจุดไหนก็ไปอ่านตรงจุดนั้นหรือไปอ่านตรงที่มีดาวเกาะกลุ่มกันอยู่ในพื้นดวง แต่ต้องอ่านจากซ้ายไปขวาห้ามอ่านข้ามดาวเด็ดขาดไม่แล้วท่านจะไม่ได้ความหมาย เพราะดาวจะเดินเวียนซ้ายคือความเป็นไปของเจ้าชะตาว่ามีดาวอะไรโคจรไปสู่เจ้าชะตาบ้าง เราอาจอ่านจากจุดเมษก่อน หรือจุดกรกฎ หรือจุดตุล หรือจุดมังกร เป็นการตั้งต้นแบบง่าย ๆ ว่าตัวตนของเข้าชะตาเป็นอย่างไรบ้างใครไม่มีโปรแกรมแต่รู้พื้นฐานดาวในพื้นดวงว่าอยู่ตำแหน่งไหนก็สามารถ ทำการอ่านได้เลย ยกตัวเอง
ad > ha > ve เราก็อาจแปลได้ว่าเจ้าชะตามีปัญหาด้านความรักจะเป็นแบบไหนก็อ่านต่อไปได้ แต่ถ้าหมดไม่มีดาวต่อก็พอไว้ก่อน ค่อย ๆ อ่านดาวในพื้นดวงให้เข้าใจในวงจรของเค้าก่อนแล้วเราก็จะทราบจุดดาวต่าง ๆ ในพื้นดวงเอง ถ้าเราต้องเราทราบตัวตนของเจ้าชะตาเราก็ไปอ่านที่อาทิตย์พื้นดวงก่อนว่ามีดาวอะไรใกล้ ๆ บ้างเราก็อ่านได้เลย เช่น su>me>ne
เราสามารถแปลได้หลายแบบอาจแปลได้ว่าเจ้าชะตาเป็นคนใช้ความคิดหรือมีจิตนาการเพราะจบลงด้วยดาวเนปจูน เราจะอ่านจากซ้ายไปขวาเสมอจบที่ดาวอะไรดาวนั้นเป็นตัวขยายความของอาทิตย์พื้นดวง ให้ท่านเลือกอ่านเอาตามที่ต้องการ ระยะไม่สำคัญห่างกันแค่ไหนก็อ่านได้ แต่ต้องอ่านตามที่กล่าวมาคือซ้ายไปขวา เช่น จันทร์ อยู่ห่างจาก ศุกร์ 45 องศา ห่างจาก
เมริเดียน
90 องศา เราก็อ่านได้ คือ mo>po>mc แปลได้ว่าเจ้าชะตะตามีจิตใจที่มีธรรมะ หรือชอบวิชาการ ในใจลึก ๆ หรือเป็นคนที่มีปัญญารักการศึกษาหาความรู้ก็ได้ เพราะดาวเค้าจะแปลได้หลายอย่างแต่บทสรุปก็จะเหมือนกันท่าน และถ้าอยู่ในราศีกอ่านเข้าไปด้วยยิ่งได้ใจความมากขึ้นไปอีก พื้นฐานของดาวต้องอยู่ในราศีเสมอเป็นพื้นฐานเราเอามาใช้ในการทำนายได้
หรือต้องการทราบว่าเจ้าชะตาป่วยเป็นโรคอะไร ก็ดูดาวที่ก่อนหน้าอาทิตย์จะบอกโรคได้ ความหมายดาวสุขภาพท่านต้องไปหาอ่านดูในบทที่ผ่านมา รวมไปถึงพ่อแม่ด้วยเพราะพื้นดวงจะบอกสายเลือดเดียวกัน ไม่ใครก็ใครก็ต้องเป็นรวมไปถึงเจ้าชะตาด้วย ส่วนมากก็จะเป็น พ่อ แม่ เกือบหมด ญาติพี่น้องอ่านในพื้นดวงไม่ค่อยเห็น

บทที่ 536

การอ่านดาวโคจรไปสู่ สามารถอ่านได้ทั้งพื้นดวงและจร เราจะเอาราศีเข้ามาอ่านด้วยก็ได้ จะให้รายละเอียดมากขึ้น หรืออ่านกพร้อมกับการวัดมุมด้วยก็ได้ไม่มีปัญหา ถ้าอ่านไปแล้วสามารถบอกเรื่องของเจ้าชะตาหน้าตรง ดาวจรก็สามารถนำมาใช้ได้ ตอนนี้ ur > Ar จร และอีกไม่นานก็จะมีดาว ma เข้ามาทับอีก ก็จะได้ ma > ur > Ar ก็จะแปลได้ว่ากำลังจะมีการเปลี่ยนแปลงหรือมีเรื่องวุ่น ๆ ในบ้านเมืองหรือในโลกนี้ในระยะนี้ หรือถ้าดูประกอบกับดวงเมืองก็จะแปลได้ว่าอาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยฉบับพลันในระยะใกล้ ๆ นี้ ถ้าอยากทราบเดือนไหนก็ดูรายเดือนต่อไปคือ new moon ไปเลื่อย ๆ ก็จะเห็นดาวจรโคจรไปอยู่ในราศีของดวงบ้านเมืองในระยะอันใกล้นี้ ก็อาจมีการเปลี่ยนแปลงระดับหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นดวงเมืองหรือดวงคนก็อ่านได้เหมือนกัน การอ่านแบบนี้จะเป็นการอ่านแบบง่าย ๆ แต่ได้ใจความที่ดี เหมาะสำหรับคนที่เพิ่งหัดผสมดาวใหม่ๆ  แต่อย่างลืมต้องอ่านจากซ้ายไปขวาเสมอไม่แล้วจะไม่ได้ความหมายอะไรเลย


เราจะเห็นว่าดาว ณ วันที่ 3/04/2011 จรวิงเข้าสู่ราศีเมษ เป็นแรม 15 ค่ำ พอดี มีดาว ma ur ju me จร ใต้มีพื้นดวงเมืองมีดาว me>ze>no>su เราก็สามารถอ่านได้แล้วว่าจะต้องมีเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่างในเดือนเมษายนนี้ รวมไปถึงราศีตุลย์เข้าไปด้วยใครมีจุดเจ้าชะตาสำคัญในราศีไหนก็จะได้รับผลตรงนี้ไปด้วย จะดีเหมือนเรือนชะตา เป็นเป็นการดูเรือนแบบราศีนั่นเอง และจรก็มี ze>sa ในราศีตุลย์ เป็นราศีตรงข้ามกับเมษ ก็จะส่งผลไปถึง su ดวงเมืองไปด้วยท่านก็คงจะต้องแบบกันเอาเองเพราะเรื่องบ้านเมืองพูดไม่ได้ su พื้นดวงคือจุดเจ้าชะตาของดวงเมือง มีอะไรเกิดจะถึงบ้านเมืองเราอย่างแน่นอน คอยดูไปนะครับ ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น

บทที่ 537
วันนี้เรามาดูเรื่องดวงที่ไม่ใช่คน กัน ในโหราศาสตร์ยูเรเนียน เราสามารถดูสิ่งของหรือสะสารต่างๆ ได้ทุกอย่างว่ามันเป็นอย่างไร รวมไปถึงสิ่งมีชีวิตที่ไม่ใช่คนก็ดูได้ แต่ขอให้มีเวลาเกิด หรือเวลาที่เรารับสิ่งของนั้นเข้ามา เช่นเราซื้อรถสักคนเราก็เอาเวลาที่เอารถออกจากอู่เป็นวันเกิดของเค้าได้เลย หรือเจอแมวสักตัวเราก็เอา ณ เวลานั้นเป็นวันเกิดได้ และสามารถบอกนิสัย หรือปัญหาของวัตถุนั้น ๆ ได้ ว่ามีปัญหาตรงส่วนไหน แมวตัวนี้ดื้อไหม เลี้ยงง่ายไหม เราก็ใช้หลักการอ่านเหมือนคนเช่นกัน ดวงเมืองก็เหมือนกันเราก็อ่านเหมือนดวงคนคนหนึ่งเช่นกันก็จะบอกความเป็นไปของประเทศเรา เราเอาเวลาไหนเป็นดวงเมือง เราก็ใช้เวลาที่ตั้งเสาหลักเมืองเป็นการดูนะ แต่ถ้ามีเวลาอื่นที่ดูแล้วตรงก็ใช้ แต่เสาหลักเมืองได้ถูกทำขึ้นมาหลายตันหลายสมัย แต่เรายึดหลักเสาแรกเป็นการเริ่มต้น ใครจะมาทำแก้ไขเอาใช่ไม่ได้นะ ดังนั้นเสาแรกของ ร
. 1 เป็นเสาต้นแรกที่เราใช้ดูดวงกรุงเทพฯ ว่าเป็นอย่างไร การลงเสาหลักเมืองต้นแรกอาจมีปัญหา หรือมีความคิด ที่จะใช้เวลานี้ เพราะสมัยก่อน ดวงดาวยังไม่แน่นอน หรือจงใจอย่างไรก็ไม่ทราบ แต่มองดูแล้วเหมือนใช้เวลาให้เป็นไปตามต้องการเพราะคนตั้งอาจรู้ว่าต่อไปบ้านเมืองเป็นอย่างไรก็ใช้เวลานี้ไป ก็มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา โดยมีทหารเป็นผู้นำเสมอ อันนี้เราอาจพูดไม่ได้แต่ข้าพเจ้าก็ติดตามมาครึ่งชีวิตผ่าน 16 ตุลาคม มาแล้ว ก็ยังไปเดินกับเขาเลย ไม่มีใครปกครองได้นาน เกินถ้าไม่ใช่ทหาร มาเป็นผู้ปกครอง ถ้าจะแก้ก็คงต้องย้ายเมืองใหม่ไปเลย แต่ก็มีคนคิดเหมือนกัน แต่ก็ล้มไป มันยากท่าน อย่างพม่าก็ใช้วิธีย้ายเมืองหลวงไปเลยเขาทำได้และก็ดีด้วย ถ้าท่านอยากมีดวงดีก็ย้ายถิ่นกำเนิดใหม่หาตำแหน่งดี ๆ ไป ก็จะทำให้ท่านมีความเจริญก้าวหน้าได้ตามดวงดาวนะท่าน ไม่ทำไม่รู้ มีหลายท่านที่มีอันจะยินย้ายไปอยู่ทางเหนือคิดว่าจะช่วยได้ อันนี้ขึ้นอยู่กับ ลัคนา เมริเดียน ใหม่เหมาะสมกับเจ้าชะตาไหม อีกห้าหกปีข้าพเจ้าอาจต้องใช้วิธีนี้หนี้ดาวก็ได้ เพราะคำนวณไว้แล้วว่าจะไปตรงตรงจุดไหนถึงจะแก้ไขดาวร้าย ๆ ที่เข้ามาได้ อันนี้ขึ้นอยู่กับความเชื่อนะครับ แต่ข้าพเจ้าเข้าใจก็คิดว่ามันได้ผลระดับหนึ่ง ถ้าใครอยากทดสอบดูดวงไม่ใช่คนก็เอาดวงสุนัข ที่บ้านมาดูก็ได้ถ้ารู้เวลาเกิด แล้วมาสังเกตดูนิสัยของมัน ดู ว่าเป็นไปตามดาวไหม ดาวร้ายมาก็อย่าไปเครียดมันจิตอย่าตกหาทางแก้ไป เวลาดีมาดาวร้ายก็ออกไปเอง ชีวิตเรามีทั้งขึ้นและลง จำไว้จะให้ดีไปหมดไม่ได้ แต่หลบได้ถ้าไม่ดีนะ การหลับคือทำจิตให้สงบอย่าไปกังวลในเวลาดาวไม่ดีมาทำดาวร้ายให้ดีให้ได้คือปัญญาเรา
 

บทที่ 538

วันนี้เราจะพูดเรื่องดาวโคจรไปสู่เข้าไปในราศีจะทำให้เกิดอะไรขึ้น ดาวเกาะกลุ่มกันโคจรไปสู่นั้นจะมีความรุนแรงออกจะมากนิดหนึ่ง จะเป็นดาวไม่ดี การดูแบบนี้ก็เหมือนดูเหมือนดาวเข้าเรือนชะตา หรือภพ นั่นเอง แต่เราดูเพียงราศีความหมายก็เหมือนกันไม่ต้องวัดมุม หรืออาจจะวัดก็ได้ไม่ผิดกฎหมายอะไรนะ ก็จะได้ความหมายมากขึ้นไปอีก ยกตัวอย่างวันที่ new moon วันที่ 3/04/2011 ที่จะถึงนี้ คิดว่าเป็นเดือนที่น่าสนใจ จะมีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้นกับประเทศเรา ตั้งแต่ new moon นี้ ถึง new moon ครั้งต่อไป ระยะเวลา 28 29 วันของการเกิด new moon ถ้าถามว่า new moon คืออะไรก็จะตอบว่าคือ แรม 15 ค่ำนั่นเองเราเอาไว้ใช้ดูเรื่องรายเดือน ที่จะเกิดขึ้นกับตัวเราหรือสิ่งของ วัตถุ ฯลฯ ในเดือนนั้นได้ ก็ให้สังเกต ดาวเค้าจะเดินในแนวระดาบ แต่เราจะเห็นบนพื้นโลกมาทำมุมทับกันหรืออยู่ในแถวเดียวกัน และโคจรเข้าราศีเมษเป็นราศีเริ่มต้นของสิ่งต่าง ๆ ก็อาจเทียบได้ว่าเป็นตัวเรา หรือถ้าใครเกิดเดือนเมษายน หรือมีจุดเจ้าชะตาในราศีเมษก็ต้องระวังนิดหนึ่ง เพราะ อังคาร ยูเรนัส อาทิตย์ จันทร์ พุธ มีถึงห้าดวงด้วยกัน มาอยู่ในราศีใดราศีหนึ่งก็จะบอกได้ว่าราศีนั้นอาจมีปัญหาได้เพราะเป็นดาวไมดีสองตัวและเราต้องไปดูราศีตรงข้ามด้วยว่ามีดาวอะไร เกิดมี เสาร์ เซอุส ทำมุมตรงข้ามกันอยู่ก็เพิ่มความแรงเข้าไปอีก ถามว่าใครจะโดนบ้าง คือ ราศีเมษ และราศีตุล ซึ่งจะเป็นราศีตรงข้ามก็จะได้รับผลกระทบตามไปด้วยเพราะเรือนตรงข้ามก็มีส่วนรับส่งดาวเข้าไปด้วย ตามปกติคนที่เกิดราศีตุล ก็ไม่ค่อยดีอยู่แล้วเพราะมีเสาร์ สถิตในราศีอยู่แล้ว และเดือนเมษายนนี้มีดาวตรงข้ามเป็นดาวร้าย ๆ เขามาด้วย ก็เป็นจังหวะที่ต้องระวังให้มาก  ไม่ทราบว่าจะเกิดเรื่องอะไร เค้าจะแรงเป็นระยะ ของดาวที่เข้ามาในมุมตรงข้าม ราศีที่โดนเต็ม ๆ คือราศีเมษ ในดวงเมืองนั้นมีอาทิตย์ ราหู ก็จะแปลได้ว่าเมืองเราคนเราจะได้รับจากดาวร้าย ๆ พวกนี้อย่างแน่นอนอาจมีการเปลี่ยนแปลงบางอย่างโดยใช้กำหลัง คือ เสาร์ และ เซอุส คิดว่าไม่พ้น new moon เดือนพฤษภาคม นี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงบางอย่างไปในทางที่ดีหรือไม่ดี ประชาชนก็มีผลกระทบอย่างแน่นอน รวมไปถึงคนที่อยู่ในเมืองไทยด้วย อาจมีการเปลี่ยนงาน โยกย้าย การพลัดพราก ฯลฯ เกิดขึ้นมากหน่อยในเดือนเมษายน นี้ ควรเก็บตัวอยู่กับบ้านอย่าเดินทางในวันที่ไม่ดี วันไหนต้องเดินทางไกลถามโหร ดูแล้วกันนะ เพราะมันต้องดูเป็นรายวันเรายังสอนไม่ถึง ก็คงเก็บไว้ก่อน ดีกว่า ถ้าคิดจะเดินทางก็รีบเดินทางหน่อยอย่าทำอะไรที่เสียงภัยมากนัก หรือให้ใครยืนเงิน อาจไม่ได้คืน ตอนนี้คนสองราศีและราศีใกล้ ๆ  กัน เช่น กันย์ และ พฤษ ก็อาจต้องระวังไว้ด้วย อยากจะพูดเรื่องดวงเมืองมากไปกว่านี้แต่คงพูดไม่ได้อาจถูก ปิด web ได้นะ เอาก็นพอหอมปากหอมคอก็พอแล้ว อะไรที่เข้าแกนเมษ ก็จะกระทบกับประชนคนหมู่มากไปหมด

บทที่ 539
สำหรับวันนี้เราจะมาคุยกันเรื่องราศีกันอีกครั้งเพื่อนให้ความแน่ใจว่าท่านจำได้ เพราะราศีเป็นพื้นฐานในการผสมดาวเช่นกัน
ราศีมีทั้งหมด
12 ราศี เราจะค่อย ๆ ไปทีละราศีอย่างละเอียด
ราศีเมษ ( Aries ) มีดาวอังคารเป็นเจ้าเรือน
เป็นราศีที่ใช้เป็นจุดกำหนดการเริ่มต้นของจักรราศี  มีอิทธิพลต่อสิ่งมีชีวิต   คือ การเกิด การเริ่มต้น มีชีวิตในโลกนี้  และสิ่งต่าง  ๆ ในธรรมชาติโดยทั่วๆ ไป อันเป็นจุดตั้งต้น ของวงจรชีวิตในทางธรรมชาติ ทั้งในรอบการมีชีวิต ในรอบปี และในรอบวัน เป็นเรื่องของการเกิดมาของสัตว์ทั้งหลายบนโลกใบนี้ รวมไปถึง คน สัตว์ ต้นไม้ สิ่งที่เรามองไม่เห็น พลังอำนาจ จิต วิญญาณ ทั่วไปย่อมเกิดมาในโลกใบนี้ เด็กที่เกิดใหม่ก็มักที่เทียบได้ราศีเมษ ถ้าใครมีจุดเจ้าชะตาในราศีนี้ก็จะเป็นนิสัยแบบนี้ การเริ่มต้นสิ่งต่างๆ  การเริ่มต้นเป็นอย่างไร ลงท้ายก็จะเป็นอย่างนั้น มีลักษณะมีอุปนิสัยแสดงเชิงรุก  และรู้สำนึก ชอบการเอาชนะ  การเป็นผู้นำ มีความคิดริเริ่มใหม่ มีทั้งดีและเสีย ถ้ามีดาวดี ๆ อยู่ในราศีก็จะส่งผลดียิ่ง ๆ ขึ้นไปอีก แต่ถ้ามีดาวไม่ดีอยู่ในราศีก็จะส่งผลไปทางด้านไม่ดี หรือตัดทอนลักษณะอื่น ๆ ที่ส่งผลดีลงไปด้วย เช่นมีดาวพฤหัสอยู่ในราศีเมษในพื้นดวง ก็จะแปลได้ว่าเป็นบุคคลที่มีโชคลาภ เป็นต้น คนที่เกิดในราศีเมษ ทางโหราศาสตร์เปรียบเทียบได้กับส่วนของศรีษะมนุษย์  โรคที่มักจะเกิดขึ้นส่วนมากมักเกี่ยวข้องกับอาการทางสมองต่าง ๆ เช่น อาการปวดศรีษะ , ใบหน้า ,เส้นผม  
ราศีเป็นกลุ่มดาวบนท้องฟ้าที่อยู่คงที่แต่โลกโคจรผ่านไปเป็นเดือน ๆ ถ้าใครเกิดช่วงอาทิตย์เข้าราศีไหนก็จะเป็นคนราศีนั้นไป ระยะเวลาในการเดินของดวงอาทิตย์โดยประมาณ
30 องศา ก็ได้เวลา 30 31 วันพอดี กับจาน 360 องศา เราจึงแบ่งราศีให้มีความขว้าง ราศีละ 30 องศา เราก็จะมีคนที่เกิดทุกวันก็จะมี อาทิตย์ 30 ดวง ในราศี ใครเกิดขึ้นราศีก็จะมีความแรงหน่อย ใครเกิดกลางราศีก็จะได้รับอิทธิพลพอดี แต่ปลายราศีก็จะเอนไปทางราศีถัดไป และถ้าอาทิตย์กำหนดไปทำมุมกับดาวอะไร เจ้าชะตาก็จะเป็นแบบดาวดวงนั้น ถ้าไปทำมุมทับกับดาวพุธ ก็จะทำให้เป็นคนช่างพูด ชอบเดินทาง หน้าตาอ่อนกว่าวัย ฉลาด  นักคิด
 

บทที่ 540
 

ราศีพฤษภ ( TAURUS )
ธาตุดิน (Earth)อาทิตย์โคจรอยู่ในราศีพฤษภ อยู่ระหว่าง วันที่ 21 เมษายน ถึง วันที่ 21 พฤษภาคม ของทุกปี เป็นราศีที่ถัดมาจากราศีเมษ เป็นราศีที่มีอิทธิพลที่สอดคล้องกับธรรมชาติคือการมี วิวัฒนาการ ทางด้านการเจริญเติบโตของร่างกาย  มีการสะสม การกักตุน เพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งที่จำเป็นในการอยู่รอดในโลกนี้  หากพิจารณาถึงธรรมชาติของเด็กแรกเกิด ไม่ผิดอะไรกับเด็กที่กำลังกินกำลังนอน ต้องการดูแลเอาใจใส่ เพื่อนการอยู่รอด  ถ้าเป็นลูกนกก็ต้องการความดูแลเอาใจใส่จากแม่นกเป็นอย่างยิ่ง  ถ้าเป็นต้นไม้ก็เป็นระยะที่ต้องการดินและน้ำและปัจจัยต่าง ๆ ที่จะให้มีการเจริญเติบโตเป็นต้นไม้ที่แข็งแรงเปรียบเทียบราศีพฤษภ คนราศีนี้จึงมีนิสัยชอบสะสม แสวงหาสิ่งของไว้ในบ้าน ต้องการความมั่นคงให้กับชีวิต ไม่ชอบยุ่งกับใคร มีเรื่องเกี่ยวกับการเงิน ทรัพย์สินเป็นส่วนใหญ่ ปากท้องเป็นเรื่องสำคัญสำหรับชาวราศีนี้มาก อาจเปิดร้านขายของทั่วไป หรือร้านอาหาร ของใช้ที่มีการกักตุนของไว้เป็นจำนวนมาก ๆ ไว้ขายตอนราคาขึ้น เป็นต้น เป็นราศีที่พอใช้ได้ไม่มีพิษภัยกับใครมากนัก สนใจกับเรื่องตัวเองเป็นส่วนมาก เงินเป็นเรื่องสำคัญ กับชาวราศีนี้ ถ้ามีดาวดีหรือร้ายก็ให้ทำนายตามดาวกับราศีไปได้เลยถ้ามีดาว ha อยู่ก็เหมาะกับการทำทางด้านอาหาร ของที่เสียหายง่าย แต่ถ้ามีดาวพุธ ก็อาจไปทำด้านการเรียนรู้ การศึกษา การติดต่อ ได้ โรคของคนราศีนี้คือ
ส่วนช่วงลำคอ โรคที่ส่งผลมักเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ และโรคที่เกี่ยวข้องกับลำคอ เช่นคอหอยพอก,ทอมซินอักเสบ

บทที่ 541
 

ราศีมิถุน (Gemini )ธาตุ ลม (Air)อาทิตย์โคจรอยู่ในราศี อยู่ระหว่าง วันที่ 22 พฤษภาคม ถึง วันที่ 21 มิถุนายน ของทุกปีดาวพระเคราะห์ประจำราศี ดาวพุธ เป็นราศีถัดไปจากราศีพฤษภ มีอิทธิพลสอดคล้องกับธรรมชาติ กล่าวคือ เมื่อได้มีการสะสมจนถึงขีดจำกัดอันหนึ่งแล้ว การพัฒนาการในขั้นต่อไปตามธรรมชาติก็คือ การติดต่อกับสิ่งแวดล้อมที่ใกล้ชิดเพื่อเรียนรู้และหาประสบการณ์ และพัฒนาการ เป็นระยะที่สำคัญมาก  หากเป็นมนุษย์จะอยู่ในระหว่างการสอน คลาน นั่ง เดิน พูดจา อยากรู้อยากเห็นในสิ่งใหม่  ถ้าเป็นนกก็เริ่มฝึกหัดบินจากแม่นก และทักษะต่าง ๆ  และถ้าเปรียบกับต้นไม้ก็เป็นระยะที่เริ่มมีกิ่งก้านสาขาใหญ่โตขึ้น เป็นเรื่องของการเรียนรู้สิ่งใหม่รอบตัวเจ้าชะตา คนที่เกิดราศีนี้ก็จะมีนิสัยเหมือนกับราศีนี้ ชอบเรียนรู้ หาความรู้ ชอบเดินทาง การศึกษาสิ่งใหม่ มีการติดต่อสื่อสารกับสิ่งใกล้ตัวเป็นส่วนใหญ่ มองหาสิ่งที่ป้องป้องตัวเองให้พ้นภัยจากธรรมชาติและภัยจากสิ่งที่จะมาทำให้เป็นอันตรายได้ เป็นราศีที่อยากรองของใหม่ในชีวิตนี้ หน้าตาจะอ่อนกว่าไหวเป็นส่วนมากโรคประจำตัว  โรคเกี่ยวกับปอด แขน มือ ไหล่ บ่า ประสาท ถ้ามีดาวดีก็จะทำให้เจ้าชะตามีนิสัยดีไปถ้าไม่ดีก็มีผลทำให้ชีวิตมีปัญหาเกิดขึ้นได้เช่น ถ้ามีดาวเสาร์อยู่ก็อาจทำให้การใช้เจ้าชะตามีชีวิตที่เรียนรู้ช้า ไม่ชอบเข้าสังคม เก็บตัว มีปัญหาในการพูดฯลฯ ดาวในราศีมีส่วนสำคัญที่จะทำให้คนในราศีแปลเปลี่ยนไปตามดวงดาวแต่มีฐานของราศีเป็นตัวกำหนดความเป็นไปของชีวิตเจ้าชะตา

บทที่ 542
ราศีกรกฏ (Cancer)ธาตุน้ำ (Water)อาทิตย์โคจรอยู่ในราศีนี้ อยู่ระหว่าง วันที่ 22 มิถุนายน ถึง วันที่ 22 กรกฎาคม ของทุกปีดาวพระเคราะห์ประจำราศี ดวงจันทร์ความหมายทางด้านธรรมชาติเป็นราศีถัดไปจากราศีมิถุน มีอิทธิพลสอดคล้องกับความเป็นไปของวงจรของธรรมชาติ คือ เมื่อธรรมชาติได้พัฒนาการ มาตามลำดับจนถึงขั้น การเรียนรู้ แล้ว ย่อมจะเริ่มรู้ว่า อะไรเป็นอะไร สิ่งแรกที่มนุษย์เริ่มรู้จัก คือ บิดา มารดา บ้าน หรือ สถานที่เกิดของเขา ในขณะเดียวกันจะเกิดความรู้สึกอาย การป้องกันตัว เริ่มเกิดขึ้น ตรงจุดนี้เอง ที่ธรรมชาติเริ่มการปลูกฝัง อารมณ์  ความรู้สึก ให้แก่เขา ซึ่งอาจเป็นไปโดยอาการไร้สำนึก หรือรู้สำนึกก็ได้ มนุษย์เริ่มรู้จักความเงียบสงบ เด็กจะหยุดร้อง รู้จักปกปิดความละอาย  ถ้าเปรียบเทียบกับต้นไม้ เป็นระยะนี้จะเต็มไปด้วยกิ่งก้านสาขาอันหนาทึบ เริ่มออกดอก มีความหมายถึงเจ้าชะตาที่ต้องการความปลัดภัยในชีวิต บ้าน ความรู้สึกที่เป็นตัวของตัวเอง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับดาวพื้นดวงด้วยที่จะทำให้เจ้าชะตามีความแตกต่างไปจากผู้อื่น โรคประจำตัวโรคเกี่ยวกับทรวงอก หรือเต้านม กระเพาะ เส้นเลือดในหัวใจ

บทที่ 543
ราศีสิงห์ (Leo) ธาตุไฟ (Fire) อาทิตย์โคจรอยู่ในราศีสิงห์ อยู่ระหว่างวันที่ 23 กรกฎาคม ถึง วันที่ 23 สิงหาคม ของทุกปี
ดาวพระเคราะห์ประจำราศี อาทิตย์ความหมายทางด้านธรรมชาติถัดจากราศีกรกฏ ก็จะเป็นราศีสิงห์ มีอิทธิพลคล้องสอดคล้องกับธรรมชาติ คือในระยะนี้จะเป็นระยะ ที่ธรรมชาติต้องการจะเอาชนะ ในทุกสิ่งทุกอย่าง  หากเป็นมนุษย์ธรรมชาติจะสอนให้รู้จักการมี ความต้องการ ไม่ยอมเสียเปรียบผู้ใด คำพูดที่ว่า ใครดี ใครอยู่ เห็นจะนำมาใช้ประกอบการทำความเข้าใจถึงอิทธิพลของธรรมชาติในระยะนี้ได้ ความรักก็ดี ความหวงแหนต่าง ๆ ก็ดี จะเริ่มเกิดขึ้นในจิตใต้สำนึก ถ้าเปรียบเทียบกับผลไม้ที่เด่นแสดงให้เห็นเด่นชัดออกมาจากต้น 
การเป็นผู้นำทางความคิด และจิตใจ ต้องการความเหนือผู้อื่น แสดงออกทางความคิดท่าทาง ถ้ามีดาวดีก็ดี ถ้ามีดาวไม่ดีก็จะทำให้เจ้าชะตามีนิสัยที่เปลี่ยนไปจากเดิม เช่นอังคาร เสาร์ จะทำให้มีความคิดไม่ยอมใครมากขึ้น ดื้อ เอาเปรียบคน
โรคประจำตัวโรคเกี่ยวกับหัวใจ ระบบเลือด ความดัน เพราะจะคิดมากเพื่อนความเป็นใหญ่
 

บทที่ 544
ราศีกันย์ (Virgo)ธาตุดิน (Earth)อาทิตย์โคจรอยู่ในราศีกันย์ อยู่ระหว่าง วันที่ 24 สิงหาคม ถึง วันที่ 22 กันยายน  ของทุกปีดาวพระเคราะห์ประจำราศี ดาวพุธความหมายทางด้านธรรมชาติเป็นราศีถัดไปจากราศีสิงห์ ความปรารถนาก็ดี หรือ ความเป็นอยู่ หรือความอยู่รอด ก็ดี ซึ่งเกิดแก่ผู้ที่ได้รับอิทธิพลของราศีกันย์ ถ้าเป็นมนุษย์ก็เริ่มเรียนจบ เริ่มที่จะมองหางานทำหาเลี้ยงตัวเองเพื่อความอยู่รอดของเขา ถ้าเป็นนก ก็ถึงวัยที่จะต้องออกบินจากรังไปหาอาหารกิน  และต้องระวังศัตรูภายนอก  ถ้าเปรียบกับลูกไม้ก็ต้องตกลงสู่พื้นดินจากต้นแม่ เพื่อไปเจริญเติบโตเป็นต้นใหม่เพื่อความอยู่รอด เจ้าชะตาต้องการความมั่นคง จริงจังในชีวิต เอาการเอางาน แต่ราศีนี้มีผลเสียพอสมควรคือถูกเอาเปรียบได้ง่ายเหมือนมีคนมาแสวงหาผลประโยชน์จากเจ้าชะตาเป็นส่วนมากเพราะเจ้าชะตาจะมีผลงานมาก ทำให้มีคนไม่ชอบหน้า เอาเปรียบในงานที่เค้าทำอยู่ 
โรคประจำตัว ลำไส้ ,ระบบเกี่ยวกับท้อง, กล้ามเนื้อ, ประสาท

บทที่ 545
ราศีตุลย์ ( Libra )
ธาตุ ลม (Air)อาทิตย์โคจรอยู่ในราศีตุลย์ อยู่ระหว่าง วันที่ 23 กันยายน ถึง 23 ตุลาคม ของทุกปีดาวพระเคราะห์ประจำราศี ดาวศุกร์ความหมายทางด้านธรรมชาติราศีตุลย์ เป็นราศีถัดไปจากราศีกันย์ มีอิทธิพลเป็นไปตามวิวัฒนาการของธรรมชาติ คือ เมื่อมีการทำงานก็จะต้องมีผู้ให้งานทำ มีหุ้นส่วน ผู้ร่วมคิด และการที่ต้องออกไปทำงานเหมือนกับนกออกบินไปหากิน ก็จะเป็นโอกาสที่จะพบคู่ครอง  ระยะนี้ธรรมชาติจะเริ่มสอนให้รู้จักเอาอกเอาใจ รู้จักการใช้ความงามล่อใจเพศตรงข้าม ทั้งนี้รวมถึงสิ่งเย้ายวนอื่น ๆ ด้วย เช่น การใช้ของหอม เครื่องประดับ เสริมสวย เป็นต้น หากเปรียบเทียบกับธรรมชาติช่วงปี ก็คือเป็นเดือนตุลาคม และเริ่มเข้าฤดูใบไม้ร่วง ซึ่งหากมองไปในธรรมชาติก็จะพบกับสีของใบไม้ดอกไม้ ที่สวยงาม อากาศเย็นสบาย ถ้าเป็นธรรมชาติภายในรอบวัน ซึ่งเทียบราศีเมษได้กับเวลาเช้า ราศีตุลย์ ก็จะเทียบได้กับเวลาเย็น ธรรมชาติของเวลาเย็นซึ่งดวงอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้า แดดร่ม ลมตก มีอิทธิพลต่อชีวิตฉันใด อิทธิพลของราศีตุลย์ ก็ฉันนั้น บุคคลที่อยู่ในอิทธิพลของราศีตุลย์ จึงมีบุคคลิกภาพเหมือนกับความเป็นไปของธรรมชาติในตอนนี้ คือ รักสวยรักงาม มีศิลปะ  ชอบสังคม หากได้รับอิทธิพลของราศีนี้มากเกินไปหรือแรงเกินไป ก็จะทำให้ฟุ้งเฟ้อ หรือเป็นคนออกเจ้าชู้  คนที่เกิดในราศีนี้จะตรงข้ามกับราศีเมษซึ่งมีนิสัยใจคอต่างกันโดยสิ้นเชิง สองราศีนี้จะเป็นราศีตรงข้ามกันตั้งแต่พูดมาลืมบอกไปว่าราศีตรงข้ามกันจะเป็นคู่กันนิสัยใจคอต่างกันเลยทำให้สามารถอยู่ด้วยกันได้ เพราะความแตกต่างกันนี้เอง ใจร้อนกับใจเย็นก็จะมีความขัดกันในตัวทำให้ต่างฝ่ายสามารถคงอยู่ร่วมกันได้ โรคประจำตัว ไต ม้าม โรคผิวหนัง

บทที่ 546
ราศีพิจิก (Scorpio) ธาตุน้ำ (Water) อาทิตย์โคจรอยู่ในราศีนี้ อยู่ระหว่างวันที่ 24 ตุลาคม ถึง 22 พฤศจิกายน ของทุกปีดาวพระเคราะห์ประจำราศี  ดาวอังคารความหมายทางด้านธรรมชาตินับตั้งแต่ราศีตุลย์ เป็นต้นไปจะมีสภาพซึ่งอุปมาเหมือนกับ ซีกกลางคืนของชีวิต ในรอบปีจะเทียบได้กับการเข้าไปสู่ฤดูหนาวอันเย็นเฉียบ อิทธิพลของความหนาวเย็นจะปกคลุมอยู่นานถึง 6 เดือน ตั้งแต่เดือนตุลาคม ถึงเดือนมีนาคม เปรียบได้กับธรรมชาติภายในรอบวันซึ่งเริ่มเวลากลางคืนตั้งแต่ เย็น ( ราศีตุลย์ ) จนถึงย่ำรุ่ง (ราศีมีน) วิชาโหราศาสตร์จึงเรียกราศีตุลย์  พิจิก  ธนู มังกร และ มีน ว่า ราศีภาคกลางคืน  มีอิทธิพลในทางโหราศาสตร์แก่มนุษย์คือ บุคคลที่เกิดในอิทธิพลของราศีเหล่านี้ จะมีธรรมชาติ ไม่แสดงออก และ ชอบคิดมากกว่าชอบทำ หรือ ถนัดทฤษฎีมากกว่าปฏิบัติ ส่วนบุคคลที่อยู่ในอิทธิพลของราศี เมษ พฤษภ มิถุน กรกฏ สิงห์ กันย์ ซึ่งวิชาโหราศาสตร์เรียกว่า ราศีภาคกลางวัน นั้น จะมีธรรมชาติ แสดงออก และ ชอบทำมากกว่าชอบคิด หรือ ถนัดปฏิบัติมากกว่าทฤษฎี   ในการพิจารณาอิทธิพลตามธรรมชาติของราศีพิจิก หมายถึงราศีแห่งการตายและการเกิดใหม่ การมี ภัยคุกคามต่อชีวิต  ธรรมชาติในรอบปีในถ้าเปรียบเทียบกับต้นไม้ ลูกผลก็จะตกลงสู่พื้นดินเป็นจำนวนมาก แต่จะมีลูกผลที่แข็งแรงที่สุด ได้เกิดและเจริญเติบโตเป็นต้นใหม่    ถ้าเปรียบเทียบได้กับคนก็เหมือนตัวอสุจิ ที่เข้าไปสู่ครรภ์มารดา จะมีการต่อสู้เพื่อการอยู่รอดจากตัวอสุจิจาก มีนับ 10 ล้านตัวเพื่อเข้าไปผสมกับไข่ในครรภ์มารดาได้เพียงตัวเดียว  นอกนั้นก็จะตายไป  ความตาย ด้วยเหตุนี้เอง ราศีพิจิกที่หมายถึงความตาย  พอถึงวันที่ประมานวันที่ 23 ตุลาคม ดวงอาทิตย์ก็เริ่มยกเข้า ราศีพิจิก วิญญาณจะเริ่มมาสู่โลก เพื่อเข้าสู่การจุติ  ของสรรพสิ่งที่มีชีวิตในโลกนี้  เป็นช่วงที่มีการเริ่มชีวิตใหม่ ซึ่งลีลาเป็นคนละแนวกับชีวิตที่ได้ผ่านมา เหมือนตายแล้วเกิดใหม่ ชีวิตใหม่นี้จะมีธรรมชาติลึกลับและเต็มไปด้วยอาการดิ้นรนต่อสู้ อิทธิพลหลักของราศีนี้ จึงมีความโน้มเอียงไปทางด้านของการต่อสู่เพื่อความอยู่รอด และในขณะเดียวกันจะมีอิทธิพลเดียวกับการถึงแก่กรรม  เฉพาะนั้นราศีพิจิกจึงหมายถึงราศีของวิญญาณ ความเร้นลับ  คนที่เกิดในราศีนี้มักจะมีเซ็นในเรื่องการรับรู้สิ่งต่าง ๆ ที่คนอื่นรับไม่ได้ เพราะมาจากราศีจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับดาวทำมุมถึงจุดเจ้าชะตาว่ามีความแรงมากน้อยหรือไม่ อย่างน้อยก็ต้องมีอยู่บ้าง ถ้าใครไปเกิดขาบเส้นแบ่งราศีก็ยิ่งมีความแรงมากขึ้นไปอีก บางคนสามารถสัมผัสกับวิญญาณ และสิ่งที่คนธรรมดารับไม่ได้ เครื่องรับส่งทางสมองดีกว่าผู้อื่น เราเลยถือว่าเป็นราศีแห่งการเกิดใหม่ของวิญญาณ ในโลกนี้ และโลกหน้า หรือเป็นภพที่ 8 ก็ได้ คนราศีนี้อาจมองนิสัยยากสักหน่อยเพราะมีอะไรมักจะปกปิดแนวความคิดของตัวเอง เหมาะกับทำงานด้านจิตวิญญาณ โหราศาสตร์ ได้ดี เพราะเค้ามีประสาทสัมผัสที่ดี  โรคประจำตัว ระบบขับถ่ายของเสียต่างๆ รวมถึงอวัยวะเพศ  กระเพาะปัสสาวะ

บทที่ 547
 

ราศีธนู ( Sagittarius )ธาตุไฟ (Fire)อาทิตย์โคจรอยู่ในราศีธนู ระหว่าง วันที่ 23 พฤศจิกายน ถึง วันที่ 21 ธันวาคม ของทุกปีดาวพระเคราะห์ประจำราศี ดาวพฤหัส ความหมายทางด้านธรรมชาติเป็นราศีถัดไปจาก ราศีพิจิก เปรียบได้กับ ทุกชีวิตเมื่อได้ผ่านพัฒนาการมาจนถึงขั้นนี้ ย่อมหมายถึงว่า ได้ผ่านประสบการณ์มาพอสมควร และย่างเข้าสู่วัยแห่งความเป็นผู้ใหญ่ ธรรมชาติของบุคคลในวัยนี้ ความวู่วามจะลดลง มีความคิดอ่านกว้างขวางและลึกซึ้งขึ้น ธรรมชาติจะเป็นผู้สอนให้เขารู้จักคำว่า อุดมการณ์ อันเป็นเครื่องมือสำคัญแก่เขาสำหรับวิวัฒนาการในขั้นต่อไป ซึ่งจะเป็นขั้นของ การเรียนรู้ อีกขั้นหนึ่งของธรรมชาติ แต่เป็นการเรียนรู้ชีวิตที่แท้จริง ดังจะเห็นได้จากการเริ่มสนใจศาสนามากยิ่งขึ้น สนใจด้านปรัชญา มองการณ์ไกลขึ้น จึงกล่าวได้ว่าราศีธนูเป็นราศีแห่งการขยายตัว อันมีอิทธิพลเช่นเดียวกันกับราศีมิถุนแต่กว้างขวางออกไป ถ้าเปรียบได้กับลูกผลของต้นไม้ก็เริ่มเจริญเติบโตเป็นต้นไม้ที่สมบูรณ์
คนเราเริ่มจะหาอิสระในความคิดของตนเอง การสร้างชีวิตใหม่เริ่มจากราศีนี่ เป็นราศีภาคกางคืน มีแนวความคิดเป็นของตัวเองมากขึ้น การหาความรู้และประสบการณ์ที่ผ่านมาจะช่วยให้เจ้าชะตาเป็นตัวของตัวเองมากขึ้นมองโลกได้ไกลขึ้น รู้อะไรเป็นอะไรในทางธรรมะมากขึ้น
โรคประจำตัว  โรคประจำตัวที่มักพบได้คือ ที่เกี่ยวกับบั้นเอว ตับ เลือด

บทที่ 548
ราศีมังกร (Capricorn ) ธาตุดิน (Earth) อาทิตย์โคจรอยู่ในราศีมังกร ระหว่าง วันที่ 22 ธันวาคม ถึง วันที่ 20 มกราคม ของทุกปีดาวพระเคราะห์ประจำราศีดาวเสาร์ความหมายทางด้านธรรมชาติเป็นราศีถัดไปของราศีธนู ธรรมชาติในตอนนี้เทียบได้กับฤดูหนาว ถ้าเป็นรอบวันจะเทียบได้กับเวลาเที่ยงคืน ความจริงพัฒนาการของธรรมชาติจะสิ้นสุดที่ตรงจุดนี้ กระแสน้ำ ที่หล่อเลี้ยงในธรรมชาติของวงรอบเก่าจะหมดไป กระแสน้ำเลี้ยงใหม่จะเริ่มขึ้น การพัฒนาการของธรรมชาติหาได้สิ้นสุดแต่เพียงจุดนี้ไม่ แต่ยังคงดำเนินอยู่ต่อไป กล่าวคือ เมื่อธรรมชาติได้พัฒนาการมาถึงจุดนี้แล้ว คงเทียบได้กับ การบรรลุ  หรืออาจกล่าวได้ว่าเป็นวัยทองของชีวิต มีชีวิตสันโดษ  บุคคลที่เกิดในอิทธิพลของราศีมังกรจะมีบุคลิกภาพไม่ผิดอะไรกับธรรมชาติของฤดูหนาว ที่มีแต่ความโดดเดี่ยวในชีวิต คนเราก็เหมือนธรรมชาติ ธรรมชาติก็คือชีวิต ของคนในโลกนี้ย่อมเปลี่ยนแปลงไปตามกฎแห่งธรรมชาติ ตามฤดูกาลที่ผ่านไปที่รองปี มีสูงสุดและก็มีจุดต่ำสุด ตอนที่เราสูงสุดจงมีคุณธรรมประจำใจที่ดี ยกจิตให้สูง ทำความดีไว้ พออายุมากขึ้นก็จะส่งผลดีมาถึงเจ้าชะตาไม่ว่าคนจนหรือคนรวยก็มีความสุขในจิตใจได้เสมอ ความสงบ การอยู่คนเดียว จะทำให้เรานึกภาพที่ผ่านมาได้ว่าเราได้ทำอะไรลงไปบ้าง สิ่งนี้จะติดตัวไปตอนที่ท่านเป็นธาตุทั้งสี่ กลับสู่พื้นดิน และงอกขึ้นมาใหม่เป็นต้นไม้ที่แข็งแรงจากผลแห่งกรรมเก่า ในเมื่อเราทำอะไรเราก็จะได้สิ่งนั้นติดตามจิตไปเกิดใหม่ ดีหรือไม่ดีอยู่ที่ฟ้า และดวงดาว ณ เวลาที่ท่านเกิด เราเลือกเกิดไม่ได้แต่เลือกทำความดีได้
โรคประจำตัว จะเกี่ยวกับ หัวเข่า ม้าม กระดูก

บทที่ 549
ราศีกุมภ์ (Aquarius )ธาตุ ลม (Air)อาทิตย์โคจรในราศีกุมภ์ อยู่ระหว่าง วันที่ 21 มกราคม ถึง วันที่ 18 กุมภาพันธ์ ของทุกปีดาวพระเคราะห์ประจำราศีดาวเสาร์ ความหมายทางด้านธรรมชาติเป็นราศีถัดไปจากราศีมังกร มีอิทธิพลที่สอดคล้องกับวิวัฒนาการในทางธรรมชาติคือ หลังจากการบรรลุเป้าหมายของชีวิต ต่อไป ก็จะเป็นเรื่องราวของบั้นปลายของชีวิต นับแต่นี้ ความเปล่าเปลี่ยวจะเริ่มคืบคลานเข้ามาสู่ชีวิต ทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตมักจะพัวพันกับธรรมชาติ   อย่างไรก็ดี กิจกรรมทางด้านปัญญาและความคิด ซึ่งอาจมีขึ้นได้สำหรับบุคคลในสมัยปัจจุบัน หลังจากการบรรลุเป้าหมายแต่ละครั้งแต่ละคราว คือ มีการพัฒนาการ ราศีกุมภ์ในสมัยนี้ จึงมีความหมายทางโหราศาสตร์ถึง การพัฒนาการด้วย ผู้เกิดในอิทธิพลของราศีนี้จะมีบุคลิกภาพเป็นไปตามอิทธิพลตามที่กล่าวมานี้ และเป็นราศีแห่งปัจจุบัน คือตอนนี้เราถือว่าเราได้เข้าอยู่ในราศีนี้ มีความเปลี่ยนแปลง การพัฒนาการของวัตถุมากขึ้นจิตใจของคนเราต่ำลงมามีการเห็นแก่ตัวมากขึ้นเพื่อความอยู่รอดในสังคมนี้ ทุกคนลืมความเป็นจริงแห่งธรรมชาติไปหมด พอจะรู้ก็ใกล้จะจากโลกนี้ไปแล้ว ทุกอย่างในโลกนี้ธรรมชาติสร้างมาให้มีความพอดีแต่ในสมัยนี้มัก มีคนทำให้มันไม่พอดีจึงเกิดภัยต่าง ๆ ตามมาได้ เช่นภัยธรรมชาติ สุขภาพแย่ลง จิตคนต่ำลง ไม่ยอมแพ้กัน มีแต่การแข่งขัน เลยทำให้เป็นราศีแห่งการรีบเร่งหาผลประโยชน์ใส่ตัวกันมาก คือวัตถุกันมากขึ้น กว่าคุณงามความดี ไม่ทราบว่าจะสร้างกันไปทำไม พอถึงเวลาก็เอาไปไม่ได้สักอย่างนอกจากคุณความดีที่ทำไว้เท่านั้น เรามองข้ามกันไปหมดแล้วรคประจำตัว จะเกี่ยวกับ หัวเข่า ม้าม กระดูก
บทที่ 550
 

ราศีมีน  ( Pisces )  ธาตุน้ำ (Water) อาทิตย์โคจรในราศีมีน อยู่ระหว่าง วันที่ 19 กุมภาพันธ์ ถึง วันที่ 20 มีนาคม ของทุกปีดาวพระเคราะห์ประจำราศีดาวพฤหัส ความหมายทางด้านธรรมชาติราศีมีนเป็นราศีสุดท้ายของจักรราศี มีอิทธิพลสอดคล้องกับพัฒนาการของธรรมชาติคือ สร้างความสลายตัวให้แก่ธรรมชาติ อันเป็นจุดจบหรือ กาลอวสานที่แท้จริงของวงรอบธรรมชาติต่างๆ เนื่องจากชีวิตในขั้นนี้อันเป็นขั้นสุดท้ายมีสภาพที่เปล่าเปลี่ยวที่สุด หากเป็นบุคคลจะเทียบได้กับคนชราและคนที่ถึงแก่กรรมแล้ว อิทธิพลของราศีมีนจึงเทียบได้กับธรรมชาติในช่วงนี้ กล่าวคือ สร้างความเปล่าเปลี่ยว สันโดษ และวิเวกวังเวง ให้แก่โลกทั่วไป เป็นราศีสุดท้ายก่อนจะเข้าราศีเมษคือการเกิดใหม่ของชีวิต ทุกอย่างในโลกนี้จะหมุนเวียนกันไปคือ เกิด แก่ เจ็บ ตาย คือราศีของเรานี่เอง การวางรูปแบบของราศีก็เหมือนกับหลักของธรรมะตามหลักของพระพุทธเจ้าท่านได้สั่งสอนไว้จงอย่างยึดมั่นถือมั่นอะไร ทุกอย่างไม่ใช่ของๆเรามันเป็นของฟ้า ตายไปก็ไปได้แต่ จิต อันสะอาดเท่านั้นใครอยากไม่เกิดก็ตรงนี้นะครับ คนกับมนุษย์ มีความต่างกันตรงนี้
โรคประจำตัว จะเกี่ยวกับ เท้า ประสาท

บทที่ 551
วันนี้เป็นวันเพ็ญ พระจันทร์เต็มดวงใครที่มีของดีหรือสะสมหินควรนำมาตากแสงจันทร์เพื่อนให้หินได้รับพลังงาน หินของท่านจะได้มีพลัง รวมถึงตัวท่านด้วยยิ่งดี ขออะไรวันนี้ก็จะได้ผลจากพลังงานจากแสงจันทร์ ข้าพเจ้าตื่นมาตีสาม เอาหินขึ้นมาตากเพราะตื่นขึ้นมาเองเหมือนโดนปลุกขึ้นมาก็เห็นดวงจันทร์เต็มดวง และเป็นเวลาที่พลังงานจากแสงจันทร์ให้พลังงานเต็มที่ มาดูในโปรแกรมก็พอดีดวงจันทร์เข้าแกนตุลย์พอภายในสองสามชั่วโมงก่อนเช้าจะดีนัก อาจถามว่าทำไมเราต้องนำหินมาตากแสงจันทร์เพราะต้องการให้เข้าดูดพลังงานที่อ่อนนุ่มจากดวงจันทร์เข้ามาเก็บไว้ในตัวหินให้มากที่สุด เพราะเดือนหนึ่งมีครั้งเดียวและวันนี้ก็เป็นวันที่จันทร์จรย้ายราศีพอดีนะ พลังงานเต็ม ๆ ใครหาว่าข้าพเจ้างมงายแต่ก็ตากหินมาเป็นเวลานานพอสมควรถ้ามีเวลาอันดี ๆ อย่างนี้ ส่วนมากก็จะไม่ตรงกับจันทร์ย้ายราศี บางทีตรงแต่ก็หลับลืมเอาไปตากเหมือนกันแต่วันนี้นอนเร็วเลยตื่นขึ้นมา ก็ยากอีกเหมือนกันที่ใคร ๆ จะตื่นขึ้นมาตอนตีสามบ่าเอาหินทั้งบ้านมาตากแสงจันทร์ อันนี้ขึ้นอยู่กับความเชื่อในเรื่องของพลังงานจากดวงจันทร์ นะ แต่ดวงจันทร์ก็มีผลทางด้านโหราศาสตร์ เพราะเราเอาไว้ดูเหตุการณ์ รายชั่วโมงกัน หรือดูรายสามวันก็ได้แม่นมาก ถ้าท่านไม่เชื่อครั้งแต่ไปทดสอบการนำน้ำใส่แก้วไว้นำไปตากแสงจันทร์น้ำในแก้วเพิ่มขึ้นเอง จากแรงดึงดูดของดวงจันทร์ น้ำนั้นเอามาดื่มหรืออาบก็ได้ เรื่องของแสงและพลังงานเป็นของคู่กัน อย่างน้อย ก็ทำให้เรามีความสุขเมื่อได้เห็นพระจันทร์เต็มดวง ใครที่เล่นพลังจักรวาลเค้าจะมานั่นสมาธิกันหรือเอาตัวมารับพลังกันในวันนี้ เพราะดวงจันทร์ใกล้โลกมากที่สุดได้รับแสงสะท้อนจากดวงอาทิตย์เต็มในคืนวันเพ็ญนะ วันอื่นไม่ต้องไปตากเพราะพลังงานไม่เต็มที่ วันนี้ไม่ได้สอนต่อเลยมาพูดแต่หิน สมัยก่อนที่บ้านมีหิน สะสมไว้มาก ใหญ่เท่าตัวก็ยังมี แต่เป็นหิน
คริสตัล หรือ หินควอตซ์ ที่เป็นผลึกหกเหลี่ยมเท่านั้นที่เค้าเล่นกัน หินตัวนี้จะดูซับพลังงานทุกอย่างไม่ว่าแสงจันทร์ น้ำ คลื่น หรือฝั่งดิน หรือวางไว้ใกล้ต้นไม่ใหญ่
อาทิตย์หน้าอาจไม่ได้เขียนไปกิจต่างจังหวัดรอกลับมาจะบอกต่อนะ

บทที่ 552
สวัสดีครับข้าพเจ้าได้หายไปหนึ่งอาทิตย์จบภาระกิจการเดินทางไปช่วยหาเงินสร้างวัดที่ต่างประเทศของมหาวิทยาลัยนเรศวรที่จังหวัด พิษณุโลก พอดีมีเพื่อนอยู่ทางนั้น คิดว่าอาจมีการเดินทางอีกครั้งตอนนี้อาจเอานักเรียนที่สนใจขึ้นไปทดสอบด้วยเพราะไปครั้งนี้ได้เงินทำบุญมาสองหมื่นกว่าบาทดูไป
60 กว่าคน สามวัน เกือบตายเหมือนกัน เอากันหน้ามืดไปเลย ใครสนใจที่อย่างจะทดสอบออกสนามก็เตรียมตัวได้อีกสามเดือน ต้องการคนสิบกว่าคนไปในครั้งต่อไปคนเดียวตายแน่ท่าน ใครต้องการฝึกการทำนายน่าจะไป นะ จะได้รู้ถึงปัญหาของตัวเองว่าควรจะปรับปรุงการดูไปในทิศทางไหน สามารถแก้ไขปัญหาได้ไวแค่ไหน ในการที่เจ้าชะตายิ่งคำถามเข้าไปเราจะได้ออกไปทางไหนที่ดีที่สุด แต่ไปครั้งนี้ก็จะมีคำถามยอดนิยมคือ จะได้ปรับตำแหน่งไหม ได้เรียนต่อไหม จะเรียนได้จบไหม ยอดนิยมที่ถามอีกคือความรักนะ ถามกันจัง บางคน 56 ก็ถามมีอยู่คนหนึ่ง ข้าพเจ้าก็ งง อยู่ว่าจะถามทำไม คุยไปคุยมาได้ความว่าสามีไม่อยู่แล้วท่านอาจต้องการใครสักคนที่มาเป็นเพื่อนคุย เราก็ต้องหาทางพูดให้นุ่ม ๆ เข้าไว้หน่อย เพราะคนมาหาเรามีความทุกข์ทั้งนั้นสิ่งแรกที่ดูคือโค้งเสาร์ไว้ก่อน เอาง่าย ๆ ในการดูออกงานเราไม่ต้องดูอะไรมาก ให้เวลา 15 นาที ให้เจ้าชะตายิ่งคำถามเข้ามาเลยว่าต้องการรู้อะไรเราก็เปิดโค้งฯ เรื่องนั้นหรือได้เลยเพราะโค้งฯมันจะมีเกือบทุกเรื่อง ส่วนจุดอิทธิพล จะเปิดน้อยมาก ถ้าไม่มีคำถามยิ่งตรง ๆ หรืออาจเปิดในตอนต้องการเวลาและเดือนที่ต้อง เช่นถามว่าได้เดินทางไปเมืองนอกหรือไม่เราก็ไปดูโค้งฯเสาร์ก่อน และไปเปิดจุดเดินทางไหนจรรายปีไป ก็บอกได้ว่าปีนี้ได้เดินทาง และเดือนไหนเราก็อาจดูรายสามเดือนไปก่อนเพราะส่วนมากเวลาเกิดมักจะไม่ค่อยตรงเราจะวางเวลาไว้ที่สามเดือนกันไว้ก่อนจะดี จะดูแล้วมันตรงค่อยลงรายเดือนต่อไป มีอยู่คนหนึ่งครูบอกไปว่าจะได้เดินทางไปเรียนต่างประเทศภายในสามเดือน แต่วันรุ่งขึ้นหนังสือตอบรับมาแล้ว วันก็แปลกดี อย่างนี้เป็นต้นเราจะบอกว่าภายในสามเดือนจะได้รับข่าวจะดีกว่านะ คนก็ให้ความสนใจมากส่วนมากก็ไปแอบถามดูว่าใช้ได้ไหมผลออกมาตรงเกือบหมด ก็ดีใจที่ได้ช่วยให้เค้าสบายใจมีกำลังใจในการต่อสู้ชีวิตต่อไปนะ ทุกคนมีความในใจกันทั้งนั้นแต่หาทางออกไม่ได้ แต่เราเป็นคนดู เราก็ต้องชี้ทางออกที่ดีที่สุดให้กับเค้า อาจให้กำลังใจบ้างอาจบอกสิ่งที่ไม่ควรทำบ้าง เอาไว้คุยกันคราวหน้ามีเรื่องคุยมากแต่ก็จะใส่เรื่องวิธีการดูไปให้คิดการเรียนด้วยของจริงจะดีกว่า
บทที่ 553

วันนี้เราจะมาคุยเรื่องดวงรายปีกัน คืออาทิตย์จรทับอาทิตย์กำเนิด หรือ (Solar Return) เป็นดวงรายปีที่เราจะต้องดูเป็นครั้งแรกในการดูจรปีนั้น ๆ เราจะนับจากวันเกิดชนวันเกิด และเรื่องต่าง ๆ ก็จะเกิดภายในปีนั้นเสมอ เป็นการดูแบบภาพรวมใหญ่ก่อน วงนอกก็จะเป็นภาพเหมือนพื้นดวงจรรายปีนั้น เราสามารถดูวงนอกก็ได้ แต่ควรดูผสมกับพื้นดวงไปจะดีกว่าเพราะเราจะเห็นภาพรวมในการที่ดาวจรมากระทบกับดาวพื้นดวงและให้ผลในการทำนายดาวรายปีกับดาวพื้นดวงอย่างถูกต้อง แต่ถ้าดูพื้นดวงรายปีเราก็ใช้โค้งฯ ดูแทนก็ได้แต่ก็บอกชีวิตได้ที่จะมีอะไรเกิดขึ้นได้เหมือนกันทำไมถึงต้องดูทั้งสองแบบก็เพราะว่าดาวจรกับดาวพื้นดวงมีความสัมพันธ์กัน ดาวจรเหมือนกรรมใหม่มากระตุ้นพื้นดวงที่เป็นกรรมเก่าให้ตื่นขึ้นมาทำงานในปีนั้น ๆ เราอาจใช้ จุด ศูนย์รังสี กับ จุดอิทธิพลเข้ามาช่วยในการทำนายก็ได้ โดยดูจากจุดเจ้าชะตาเป็นจุด ๆ ไป ว่ามีดาวดีดาวรายเข้ามากระทบหรือไม่ ถ้ามีดาวจรดีมากระทบกับพื้นดวงต้องให้ถึงจุดเจ้าชะตาด้วย หรือพื้นดวงอาจรอดาวจรในปีต่อไปเราก็สามารถกด (Solar Return) ไปเป็นรายปี จนเห็นว่าปีไหนมีดาวจร ดี หรือไม่ดี เข้ามา เราจะได้ระวัง แต่ถ้าดาวจรไม่ตรงกับจุดเจ้าชะตาก็ไม่มีอะไร แต่ไปตรงกับโค้งฯ ก็จะมีอะไรเกิดขึ้นเพราะโค้งทำงานเหมือนจุดเจ้าชะตาเช่นกัน เราอาจตรวจจากโค้งจุดเจ้าชะตาไปก่อน และมาตรวจโค้งฯดาวเคราะห์ที่ดีและไม่ดีอีกครั้งก็ได้เพื่อนให้ทราบว่าปีนี้เราโดนเรื่องอะไร หรือจะเอาจุดอิทธิพลบวกโค้งฯก็ได้ก็จะได้มาสามจุดเราก็ดูแกนที่กางออกไปว่าไปโดนดาวจรอะไรบ้างก็ได้ เราจะต้องดูรายปีก่อนถ้ารายปีไม่มีเรื่องที่จะบอกเราไม่ต้องไปหารายเดือนหรือรายวันได้เลย เพราะต้องมีรายปีเป็นพื้นฐานก่อนอื่นเหนือสิ่งอื่นใด การดูรายปีถือว่าเป็นสำคัญในการเช็คดวงครั้งแรกเสมออย่าลืมทำตามนี้ท่านจะไปตามการวิเคราะห์พื้นดวงรายปีได้เป็นอย่างดีและถูกต้อง ถ้ารายปีมีเรื่องที่เราต้องการทราบเราก็ลงไปที่รายเดือนกันต่อไปอีกหาเป็นเดือน ๆ ไป จนเจอเรื่องที่จะเกิดเดือนไหน คราวหน้าจะมาคุยเรื่องการดูรายเดือน แต่รายปีก็มีดูอีกแบบหนึ่งที่น่าสนใจถ้าเราไม่ทราบเวลาเกิดที่แน่นอนได้คราวก่อนขึ้นรายเดือน

บทที่ 554

วันนี้จะมาพูดเรื่องการทำนายรายปีต่อยังเหลือการดูรายอีกชนิดหนึ่งคือดวงสงกรานต์ ชื่อเหมือนวันสงกรานต์ของเราแต่เป็นชื่อที่เรียกการดูรายปีอีกชนิดหนึ่ง ในความคิดของข้าพเจ้าดวงนี้อาจเอาไว้ใช้ดูเรื่องดวงเมือง หรือดวงที่เวลาเกิดไม่ค่อยจะตรงมากนัก เราจะนับจากอาทิตย์เข้าเส้นแบ่งราศีมังกร ที่ 0.00 องศาราศีมังกร คือประมาณ วันที่ 21-21 ของทุกปี วิธีการคือคลิกเมาส์ขวามือแล้วไปที่ solar quaterly - copriomus  ดวงอาทิตย์ก็จะย้ายไปอยู่ตรงจุดที่เราต้องการทันนี้ไม่ต้องหมุนมือได้เลย  เราจะยึดตรงนี้เป็นวันเกิด แต่การนับเดือนเราจะนับเดือนธันวาคมของปีหนึ่งไปชนกับธันวาคมอีกปีหนึ่ง ถือเป็นหนึ่งปี ถามว่าอันไหนให้ความแม่นยำกว่ากัน ก็จะตอบได้ว่าคล้าย ๆ กัน ระยะเท่านั้นแต่เวลาต่างกันเท่านั้น ดวงรายปีชนิดนี้การดูเหมือนกับดวงอาทิตย์จรทับอาทิตย์กำเนิดเช่นกัน เพียงแต่เปลี่ยนเดือนเท่านั้น เราใช้ในการดูจากดาวจร และโค้งฯ เหมือนกัน ใช้จุดอิทธิพลหรือ ศูนย์รังสีเหมือนกัน การทำนายอาจง่ายกว่า จริงๆ แล้วเราควรดูทั้งสองชนิดเพื่อเป็นการให้เกิดความถูกต้อง ถ้าดวง solar return บอกเหมือนกัน ก็ถือได้ว่าเรื่องที่เราต้องการทราบออกจะเกิดแน่นอน  เพราะการดูรายปีอย่างไหนจะต้องออกมาเหมือนกันทั้งหมดแต่อาจบอกเรื่องคล้าย  ๆ กัน คนละมุมมอง แต่สรุปแล้วต้องเหมือกันถ้าไม่มีในดวงใดดวงหนึ่งให้กลับไปหาใหม่ อาจไม่เกิดขึ้นก็ได้ เช่นในดวง solar return บอกว่าขายที่ดินได้ ในดวงสงกรานต์ ก็ต้องมีบอกเช่นกันถึงจะใช้ได้ แต่ถ้าบอกดวงใดดวงหนึ่งก็อาจยังไม่มีความแน่นอนมากนัก ถึงจะต้องมีดวงรายปีสองดวงใช้เช็คเข้าหากันนะ

บทที่ 555
 

วันนี้มาต่อเรื่องดวงรายปีอีกนิดยังไม่จบ ยังมีอีกชนิดหนึ่ง เรียกว่า พื้นดวงจรรายปี เราไม่ต้องดูดาวจรเลยก็ได้ จริงแล้วจะมีทั้งหมดสามชนิดด้วยกัน อันที่สามนี้ เราจะเล่นกันเป็นประจำเลยมองข้ามไป คือการหาโค้งฯ รายปีนั่นเอง ง่ายและสะดวกเจ้าชะตาถามเรื่องอะไรในปีนี้เราก็เปิดโค้งฯนั้น ๆ ดูได้เลย เช่นโชค ก็เปิดโค้งฯ ju หรือ ap ได้เลยไม่ต้องไปดูดาวจรวงนอก ให้ผลรุนแรงแต่ถ้าเราใช้ดาวจรเข้าช่วยก็จะทำให้เราดูได้ละเอียดมากขึ้น ในสมัยก่อนจะไม่ดูดาวจรรายปีกัน เพียงแต่ดูโค้งฯ ก็ตอบปัญหาได้ ทันทีได้เหมือนกัน เป็นหลักที่ใช้กันมานานแสนนานแล้ว ต่อมาได้มีการคิดดาวจรรายปีขึ้นมาเสริมให้ได้รายละเอียดมากขึ้น จริง ๆ แล้วการดูจรต้นกำเนิดมาจากโค้งฯ อายุขัยเป็นหลัก การดูโค้งฯ เราจะดูจากการเอาจุดเจ้าชะตาที่เป็นโค้งฯมาดูก็ได้ หรือเอาโค้งฯดาวเคราะห์มาดูก็ได้ ให้ผลเหมือนกันแต่ตีความยากถ้าเอาโค้งฯจุดเจ้าชะตารายปีมาดูต้องไปดูว่าไปถึงดาวเคราะห์อะไร แต่ถ้าเราเอาเรื่องที่ต้องการมาดูเสียเลยก็ง่ายขึ้น รวมไปถึงเอาจุดอิทธิพล หรือ ศูนย์รังสี มาทำเป็นโค้งฯก็ให้รายละเอียดมากขึ้น ใหม่ ควรดูโค้งฯไปก่อนจะได้เข้าใจได้ง่ายขึ้น ตัวนี้ก็บอกพื้นดวงจรรายปีได้เหมือนกัน คือดาวจรในระบบหนึ่งเหมือนกันว่าคนเราเดินไปตามกรรมที่เกิดมาว่าปีไหนจะได้โค้งฯอะไร ดีหรือร้าย มาบวกกับดูจรรายปีด้วยก็ยิ่งทำให้เรารู้ปัญหาต่าง ๆ ได้ง่ายยิ่งขึ้น การดูอย่างใดอย่างหนึ่งก็ไม่ผิดอะไร อยู่ที่ว่าเราจะทำความเข้าใจเรื่องการจรของดาวได้ลึกมากแค่ไหน เท่านั้นของเราจะต้องตีดาวให้ออกอันนี้จะยากในการผสมดาว การอ่านดาว ได้แม่นยำพอสมควร ไม่แล้วท่านจะไม่เข้าใจเลย จงทำความเข้าใจก่อนว่า เราจะต้องดูรายปีว่ามีเรื่องที่ต้องการหรือไม่ถ้าไม่มีก็ไม่ต้องไปสนใจ ถ้ามีเราก็หาต่อไปอีก อันเป็นพอเข้าใจนะครับ ต่อไปก็จะลงการดูรายเดือนกันต่อ ถ้ารายปีมีรายเดือนต้องบอกว่าเดือนไหนเป็นเดือนสำคัญนะ

บทที่ 556

การดูรายปีอีกชนิดหนึ่งที่ดูง่ายคือ solar year  ไปที่ other ในเมนูนั้นจะมี solar year แล้วใส่ อายุเข้าไปก็จะได้ดาวเพิ่มขึ้นมา ดาวสีชมดวงเป็นดาวจรรายปี ดาวพวกนี้มาจากโค้งฯ บวก เราใช้ดูจรรายปีอีกเช่นกัน และมีดาวจรสีเขียนขึ้นมาด้วยจะเป็นการดูดาวจร และโค้งฯ โค้งฯ บวกทุกดวงจะแสดงขึ้นมาให้เราเช็คได้เกือบหมดทุกอย่าง ดวงนี้จะดูได้ง่ายมากที่สุด เพราะเรื่องต่าง ๆ เราทราบได้จากโค้งฯบวกที่มีความรุนแรงมาก และดาวจรรายปีก็จะช่วยได้ ทำให้เราอ่านชีวิตของเจ้าชะตาได้อย่างง่ายดาย ท่านต้องทำความเข้าใจเรื่องการดูรายปีแบบนี้ให้มากหน่อยแต่เป็นประโยชน์สำหรับท่านในการอ่านได้ง่ายขึ้น  แต่ก็ยังมีดวงรายปีอีกชนิดหนึ่งที่จะพูดในครั้งแต่ไป เป็นนองสุดท้าย แต่สองดวงที่กล่าวมานี้ไม่ค่อยมีใครเข้าใจมากนักแต่เราสามารถใช้ได้ผลมากในการดูแบบอื่น ๆ ก็จะออกเหมือนกัน ไม่ว่าท่านจะดูแบบ solar return หรือ ดวงสงกรานต์ ดวง solar return  เป็นดวงหลักในการดูเป็นครั้งแรกและง่ายในการทำความเข้าใจ ท่านควรไปทีละก้าวท่านทำความเข้าดวงนี้ก่อนแล้วค่อยมาดูดวงรายปีแบบอื่น ๆ ได้อีก

บทที่ 557
การดูรายปีมีหลายชนิดด้วยกันแต่ถ้าท่านต้องการดูพื้นดวงรายปีผสมกับดาวจรท่านก็ต้องใช้ solar year ในการทำนายอันนี้ง่ายจะมีจะมีโค้งฯทั้งหมดขึ้นมาให้ท่านตรวจเช็คครบ เพียงแต่ใส่อายุเต็มเข้าไปท่านก็จะได้วงสีม่วงขึ้นมาเป็นโค้งฯ v1 ท่านจะได้ดูโค้งฯ + หรือ v1 ได้เลย ทำไม่ใช้โค้งฯ v1 เพราะความแรงจะแรงกว่าโค้งฯ - ในต่างประเทศจะใช้โค้ง + คือการเดินหน้าของดาวในพื้นดวงว่าจะไปชนกับดาวอะไรในพื้นดวงและดาวจร เราจะได้เห็นอย่างระเอียดไม่พลาดในการทำนายเจ้าชะตาเปิดขึ้นเจ้าชะตาถามเรื่องอะไรก็ไปดูสีม่วงเลยไปถึงดาวอะไรในพื้นดวงก็จะเป็นไปตามโค้งนั้น ดาวสีม่วงคือโค้งรายปีนั่นเอง จะทำให้ท่านไม่ต้องไปเปิดโค้งทั้งหมดมันจะทำให้ท่าน งง เพราะมีทั้ง v1 v2 ทำให้ท่านมองไม่เห็นอะไรแต่เราจะเรา v1 มาเท่านั้นเพราะผลออกมาก็เหมือนกันหรือท่านจะตั้ง จุดอิทธิพลเข้าไปดูรายปีด้วยก็ได้หรือจรก็ได้ ผลการทำนายก็จะเหมือนกัน การดูแบบนี้ท่านต้องมีความเข้าใจในเรื่องโค้งฯ พอสมควรว่าจะแสดงผลอย่างไรในแต่ละปี คือปีเกิดปีไหน ท่านก็เข้าไปใส่อายุเต็มโปรแกรมก็จะแสดงให้เห็น ณ ปีนั้นได้เช่นกัน เดินหน้า ถอยหลัง ก็ทำได้ ถ้าเจ้าชะตาถามว่าปีที่ผ่านมาเป็นอย่างไรก็ให้เค้าจำอายุให้ได้แค่นี้เราก็ทราบเรื่องต่าง ๆ ได้เร็วขึ้น เพราะกับเจ้าชะตาจำเรื่องต่าง ๆ ที่สำคัญในปีนั้นได้
บทที่ 558

หลักการของการดูเรื่องต่าง ๆ เราจะเริ่มจากการดูรายปีมาก่อนท่านจะใช้วิธีการใดก็ใช้ได้หมด พอเราทราบว่ามีเรื่องที่จะเกิดในปีนี้แล้วขั้นต่อไปเราก็จะไปรายสามเดือนกันต่อเป็นการทำให้เรื่องที่ต้องการทราบให้แคบลงมาจากหนึ่งปีมาเป็นสามเดือนหลักในการดูเมื่อเราทราบว่าปีนี้มีเรื่องที่เราต้องการทราบ เราก็กด now ให้เป็นเวลา ณ ปัจจุบันก่อนและดูว่าอยู่ในช่วงสามเดือนไหน ของจุดทั้งสี่คือประตูเข้าออก คือจุด มังกร เมษ กรกฎ ตุลย์ ถ้าอยู่ในช่วงของเมษ ถึง กรกฎ เราก็มาหารายสามเดือนของช่วงนั้นได้เลยมันจะแคบขึ้นหรือจะใช้ new moon หาไปจนถึงวันเกิดหน้าเลยก็ได้ตามแต่ท่าน โดยตั้งจุดอิทธิพลจรขึ้นมาแล้ว กด new moon ไปเลื่อย จนกว่าจุดอิทธิพลมาทำมุมสวย ๆ กับจุดเจ้าชะตาเราก็จะทราบว่าเรื่องต่าง ๆ ที่เราหาจากรายปีน่าจะเป็นเดือนนี้ แต่ท่านต้องควรหาจนหมดก่อนจะดีกว่าเพราะอาจมีรายเดือนอีกที่น่าสนใจควรมาสักสองสามเดือนแล้วนำมาพิจารณาว่าเดือนไหนแรงที่สุด แล้วถ้าได้เรือนที่น่าสนใจที่สุดเราก็เข้าไปหารายสามวันกันต่อ อันนี้เป็นการหาที่ถูกต้องที่สุดเพราะเราจะทำให้วันแคบลงมาให้ได้ อันนี้มีเรื่องมือให้ท่านใช้หมดแล้วคราวหน้าจะบอกวิธีการใช้เครื่องมือที่มีอยู่ในโปรแกรมในการหาดังกล่าว
บทที่ 559

การดูรายเดือน คือ new moon การดูรายสามเดือนเราใช้ solar quarterly ถ้าดูรายสามสามวันเราใช้ lunar Ingresses เมนูสิ่งบอกมาจะคลิกเมาส์ขวามือแล้วท่านก็เข้าไปเลือก รายสามเดือนก่อนเริ่มจากกด now แล้วเอาอาทิตย์ไปวางไว้ตรงเดือนที่อยู่ใน สามเดือนไหนเท่านั้นจากนั้นท่านก็หารายเดือนในสามเดือนนี้ คือ new moon กันต่อไป ถ้าไม่เจอก็ทำเหมือนเดิมแล้วกด new moon ไปอีก อย่าลืมตั้งจุดที่เราต้องการหาไว้ด้วย วงนอก เราก็จะทราบเดือนสำคัญในของสามเดือนนั้นออกจะยานิดหนึ่งแต่ถ้าท่านฝึกให้ฝนให้เข้าใจท่านก็จะรู้วิธีนี้ง่ายมาก ในการหารายสามวัน และรายวันต่อไป ถ้าเราได้รายสามวันแล้ว เราก็ใช้ อาทิตย์จร กับจันทร์จร ในการหาวันสำคัญที่จะเกิดเรื่องนี้ขึ้น วิธีการนี้ได้ผลและทำตามขั้นตอนของโหราศาสตร์ทั้งหมดในการรายวันสำคัญว่าจะเกิดขึ้นวันเดือนในสามวันนั้น ถ้าเราได้รายสามวันมันก็ไม่ยากแล้ว เรื่องต่าง ๆ จะเกิดขึ้นอยู่ในระยะที่ดวงจันทร์โคจรอยู่ในราศีนั้นใช้เวลาสามวันกว่า ๆ อันนี้เป็นหลักการที่ใช้กันมานานแล้วและยังใช้ได้อยู่ จนถึงทุกวันนี้ หรือท่านจะไม่หารายสามเดือนก็ได้แต่หารายเดือนมันก็จะนานหน่อยต้องหาไปอีกสิบสองเดือน อยากให้ท่านทดสอบการหาวันสำคัญมาและดูว่าจริงหรือไม่ ถ้าท่านหาได้ตรงมันก็จะเกิดตามนั้น วิชานี้ไม่ค่อยมีใครเปิดเผยมากนักแต่ข้าพเจ้าจะไม่ปิดบังเปิดให้ท่านทราบหมด เพราะวิชานี้เป็นสิ่งที่พระเจ้าประทานมาให้นักโหราศาสตร์ แต่ก็อาจเป็นผลเสียถ้าท่านใช้ในทางที่ไม่ถูกต้อง เอาไปหากินหลอกคน วิชานี้ก็จะเป็นดาบมาฆ่าตัวท่านเองกรรมมีจริง อย่าลืมกฎข้อนี้ ทำดีได้ดี ทำไม่ดีก็ได้ของฝากจากฟ้าไป ไม่นานหลอกสิ่งที่ท่านหลอกคนไปมันก็จะเหมือนเงามืดที่ติดตามจิตและกายท่านไปจนถึงเวลาที่มันทำงาน ใครอ่านบทความนี้แล้วเอาไปใช้ในทางที่ถูกต้องก็จะเป็นสิ่งดีสำหรับตัวท่านในการช่วยเหลือคนแต่ถ้าท่านเอาใช้ในทางผิดดาบนั้นมันก็จะทำร้ายตัวท่านเอง ใครที่ต้องการเรียนวิชานี้ต้องพร้อมด้วยใจ กำลังทุน และมีจิตที่ต้องการเรียนจริง ถ้าไม่พร้อมก็ไม่จำเป็นที่จะติดต่อเข้ามา เราต้องการคนที่มีจิตวิญญาณนักโหราศาสตร์จริง ๆ พอแล้ว
 

บทที่ 560
วันนี้จะมาคุยกันเรื่อง Solar Ingresses กับ lunar Ingresses  คืออะไร คือเมนูที่เอาไว้ใช้ดูอาทิตย์ย้ายราศี กับจันทร์ย้ายราศี สองอย่างนี้เอาไว้บ้างเรื่องรายเดือน กับเรื่องรายสามวัน ซึ่งเราได้จากอาทิตย์ย้ายราศี กับจันทร์ ย้ายราศี สองตัวนี้จะบอกเรื่องต่าง ๆ ตัวอย่าง อาทิตย์ย้ายราศีจะมีการย้าย ๆ ทุก 30 วัน เราก็เอาไว้ดูเหมือน new moon ได้เช่นเดียวกัน แต่ไม่ค่อยมีใครให้ความสนใจมากนักเพราะยังไม่ทราบความสำคัญ อาทิตย์ย้ายราศีก็สามารถดูได้ไม่แพ้ new moon เหมือนกัน มีความรุนแรงในการบอกเรื่องต่างๆได้ดีเช่นเดียวกันใครยังได้ใช้ทดสอบดูได้ว่าออกผลมาเช่นใด เมื่อเราได้ตรวจสอบรายปีมาเรียบร้อยแล้วเราก็มาดูรายเดือนกันต่อคือ อาทิตย์ย้ายราศี หรือ new moon  อย่างใดอย่างหนึ่งผลออกมาก็จะเหมือนกันแต่อาจต่างกันตรงที่มุมมองของการทำมุมของดาวในเดือนนั้นๆ แต่สรุปก็บอกได้เหมือนกัน แต่ส่วนมากก็จะถนัดทาง new moon กันสวนมาก หัดมาใช้ อาทิตย์ย้ายราศีดูกันบ้างว่าดีตรงไหน ต้องทดสอบดูกันนะครับ ส่วนจันทร์ย้ายราศีก็จะบอกลงมาเป็นรายสามวันคือจันทร์จะย้ายราศีทุก สามวัน ครั้ง จนครบ 28 วันทำการของการโคจรของดวงจันทร์ ดวงจันทร์เค้าก็จะเดินไปผ่านจุดย้ายราศีทุกราศีทำให้เราทราบว่าเรื่องจะเกิดระหว่างสามวันไหน เราเอาแนวทางการโคจรของดวงดาวมากำหนดเวลาได้ ทุกอย่างมีหลักการในตัวของมันเอง เพราะในการเปลี่ยนราศีแต่ละครั้งจะต้องมีเหตุสำคัญเกิดขึ้น อยากให้ทดลองหัดเรียนรู้ตรงจุดนี้เอาไว้ให้ดีท่านก็จะเป็นนักดูจรรายวันได้ดีคนหนึ่ง คราวหน้าจะมาคุยการหารายวันต่อว่าเค้าหากันอย่างไร มีเครื่องมืออะไรช่วยได้บ้าง
 

บทที่ 561

วันนี้เราจะมาพูดกันเรื่องการดูรายวันว่าเค้าดูกันอย่างไร การดูรายวันเราจะให้ปัจจัยอยู่สามสี่อย่างบนท้องฟ้า คือ อาทิตย์จร จันทร์จร ลัคนาจร เมริเดียนจร บนท้องฟ้า ณ เวลาที่เราหา จากรายสามวันจันทร์ย้ายราศีแล้วเราก็สามารถมองเห็นได้ว่าเรื่องต่าง ๆ จะอยู่ภายในสามวันเท่านั่น ตอนนี้ก็เหมือนได้เข้ามาใกล้จุดที่เราต้องการหาว่าจะเกิดวันไหนได้แล้ว ต่อไปเราก็ดูที่อาทิตย์จรภายในสามวันว่าจะทำมุมกับเรื่องนั้น จุดอิทธิพล หรือจุดเจ้าชะตามากที่สุด พอได้วันดี ๆ เราก็มาหาจันทร์จร ณ วันนั้นต่อไปอีกว่าเวลาไหนที่สำคัญตอนนี้เราอาจต้องใช้ ลัคนาจร เมริเดียนจร เข้ามาจับ ด้วยว่าจะเกิด ชั่วโมงไหน นาทีไหนได้แล้วเราก็หมุนจานหาจากลัคนาจร เมริเดียนจร ได้เลย ว่าไปตรงกับจุดเจ้าชะตาพื้นดวง หรือจุดอิทธิพลจร ที่เราตั้งเอาไว้ ก็ควรมองให้มากหน่อยคือ หาเวลาที่ดี ๆ ไว้หลายชั่วโมงหน่อยเพราะใหม่ ๆ ยังไม่สามารถเจาะได้ว่าชั่วโมงนี้สำคัญ ท่านอาจเลือกได้มา สองสามชั่วโมง ก็สำคัญหมด แล้วเราจะทำอย่างไร ตอนนี้ขึ้นอยู่กับความสามารถของแต่ละคนว่ามีพื้นฐานการดูมามากเพียงใด การตัดสินใจว่าชั่วโมงไหนดี มันก็ยากเหมือนเราเสียงทายเพราะเวลามันได้กันหมด ดังนั้นสิ่งที่มาช่วยการตัดสินคือความสามารถเฉพาะตัวของท่านจากการเรียนรู้ให้มากอ่านให้มาก แล้วท่านก็จะสามารถเลือกวันได้ แต่ข้าพเจ้าไม่หวังว่าท่านจะเลือกนาทีได้เอาได้วันก็เป็นที่น่าพอใจแล้ว ว่าเรื่องที่เราหาเกิดวันนี้ ชั่วโมงนี้ก็พอแล้ว นาทียังไม่ต้องไม่ยุ่งกับเค้ามากนักรอให้มีความสามารถก่อนแล้วท่านก็จะเป็นเองนะครับ
 

บทที่ 562

วันนี้เรามาคุยกันเรื่องการวางฤกษ์ดีในแต่ละวัน เมื่อวันอาทิตย์ทับพฤหัสในรอบหนึ่งปี จะมีวันดี เมื่อวานใครทำอะไรก็มักจะได้ผลดีติดตามมา การวางเวลาดี ๆ ให้ใช้จันทร์จร ไปทับ พฤหัส จร หรือ พฤหัส พื้นดวงก็ได้หรือทำมุมถึง การทับจะแรงกว่าแต่เดือนนึ่งจะทับที่ เอาอาจใช้มุมเล็ง ก็ได้ 90 ก็ได้ จะแรงเหมือนกัน และอย่างไปทำมุมกับดาวร้าย ๆ ในพื้นดวง หรือจร และดูลัคนาจร เมริเดียน จร ให้ทับดาวดี ๆ จร หรือพื้นดวงก็ได้ เช่นจะออกรถใหม่ ก็ใช้วิธีนี้ ขึ้นบ้านใหม่ อาจใช้ ดาว ศุกร์ ก็ได้ การไปติดต่องาน ใช้ดาวพุธ ถ้าคิดอะไรไม่ออกก็ให้ใช้พฤหัสไปเลย ดีหมด และให้ดูว่าเป็นข้างขึ้นด้วย จะดีมาก และเรื่องเวลาก็ขอให้ใช้เวลาที่เป็นกลางวัน เพราะกลางคืนเราจะทำกิจอะไรไม่ได้ มันอาจหายากหน่อยแต่อยากให้ท่านทดลองทำให้หาวันดี ๆ สำหรับงานที่ท่านจะดำเนิน ผลเป็นประการใด จดเอาไว้ และจำตำแหน่งไว้ วันหลังจะได้ใช้จุดนั้นได้ คิดว่าใช้ทับจะดีกว่านะ เพราะผลจะแรง กว่ามุมอื่น ๆ  คราวหน้าจะมาคุยเรื่องการวางเวลาดี ๆ ในเรื่องต่าง ๆ ที่อยากจะทำ เพราะเป็นเวลาที่ฟ้าเปิดให้เราดำเนินกิจต่าง ๆ ผ่านไปด้วยดีไม่มีปัญหา ทดสอบกันมาแล้ว
 

บทที่ 563

การดูรายวันนั้นไม่ยาก ท่านสามารถดูเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้โดยไม่ต้องไปผ่านรายปีรายเดือน ถ้ามีคนถามว่าวันนี้จะสอบผ่านไหมหรือได้เดินทางไหม เป็นกิจกรรมที่ดำเนินไปตามกฎธรรมชาติอยู่แล้ว เราสามารถเช็คได้เลย หรือวันดี ๆ เราสามารถหาได้เลยจาก อาทิตย์จร จันทร์จร ลัคนาจร เมริเดียร และจุดอิทธิพลจร ด้วย ดูว่าวันที่เจ้าชะตาจะไปทำนั้นดีหรือไม่ให้ดูจากดาวจรเป็นหลักก่อนแล้วมากระทบกับพื้นดวงไหม ถ้าเป็นวันดีเค้าจะทำอะไรก็จะดีไปหมด การตั้งเราก็ถามเจ้าชะตาว่าต้องการทราบวันไหน เราก็ปรับเวลาไป ณ เวลาที่ต้องการ เวลาที่ต้องการและทำการดูจากวันก่อนว่าดีไหม ต่อจากนั้นมาดูที่จันทร์ว่าดีไหมมุมสวยไหม แล้วก็ปรับเวลาให้ดาวเค้าทำมุมสวย ๆ อาจปรับได้นิดหน่อย เช่นจากเจ้าไปบ่ายถ้าทำได้ แต่ถ้าเป็นชั่วโมงบังครับมาก็ดูตรงนั้นได้เลยจะได้หรือไม่ได้มันกำหนดมาแล้วง่ายดี บอกได้ทันที่ว่าสอบได้ ได้เดินทาง ติดต่องานได้ มีโชคไหม เค้าเรียกการดูแบบนี้ว่ากาลชะตาท่าน อย่าลืมดูลัคนาจร เมริเดียนจร ด้วย ถ้ายังไม่แน่ใจให้ตั้งจุดอิทธิพลเข้าไปถาม หรือใช้จุด MP คือเมริเดียน จรรายวันที่ข้าพเจ้าทำไว้ให้แล้ว ฟันธง ได้เลย ดีหรือไม่ดี ในวันนั้นจากจุดนี้เอง

บทที่ 564
(ต่างจังหวัด)
วันนี้ตื่นเช้าหน่อยแต่รับรองว่าคนที่ติดตามคงตื่นไม่ทันแน่เพราะวันนี้มาพักผ่อน ที่นครราชสี ตื่นขึ้นมาตอนตีหนึ่ง นอนแต่หัววันเลยตื่นเลว ตอนมาโดนพายุเข้าสองช่วงที่สระบุรี หนักมากมองไม่เห็นทางเลยเกือบลงข้างทางน้ำท่วมด้วย และมาเจออีกทีช่วงปากช่องก็หนักอีก กรุงเทพฯ เป็นอย่างไรบ้าง ร้อนไหม ทางนี้อากาศดี ฝนตก ช่วงนี้ใครโดนฝนก็ให้รีบอาบน้ำสระผมเพราะในน้ำฝนมีรังสีจากญี่ปุ่นบนเข้ามาด้วยอาจทำให้มีปัญหาต่อร่างกายเราอย่าลืมนะครับ มันจะสะสมไว้ในรางกายเรา พอดีไม่โดนใส่หมวกไว้ แต่ก็รีบอาบน้ำด่วนเลยเมื่อถึงบ้าน มาถึงรีบไปร้านยางก่อนเพราะพาเจ้าพิกุลทองมาเปลี่ยนยางให้เพราะมันห้าปีแล้ว มาด้วยความเร็ว  120 เลยด่านไม่มีสบายมาก  มาครั้งนี้เพื่อมาเปลี่ยนยางรถ และมาพักแต่ก็ไม่ได้พักอีกคิดถึงนักเรียนเข้ามาอีก เลยต้องขึ้นมาเขียนให้ได้สักเรื่องหนึ่ง เขียนไปด้วยฟังเพลง ของ kitaro ไปด้วยได้บรรยากาศได้มีเสียงของธรรมชาติเข้ามาผสมด้วย เพราะมานั่งนอกบ้านกลัวพี่เข้าตื่น วันนี้เรามองไม่เห็นดาวเลยเพราะมีฝน  ความสงบทำให้เกิดปัญญาแนวคิดดี ๆ สำหรับข้าพเจ้านะใครเป็นแบบข้าพเจ้า หรือต้องนั่งทำงานเงียบ ๆ ถึงจะเขียนออก สิ่งที่ท่านอ่านนี้เขียนออกมาจากความรู้สึก ตอนนี้ มันเกิด ความสงบใจจิต คิดว่าเรามาอยู่ในอีกมิติอยู่ เหมือนอยู่คนเดียว ว่าไปแล้วมาเรียนกันดีกว่า จะเขียนเรื่องการวางฤกษ์ กันดีไหมท่าน เพราะสอนต่อจากวันศุกร์มีคนติดตามอยู่อยากวางเป็น เพื่อนส่งเอกสารสมัครงานถึงเขียนให้ ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า ฤกษ์นี้มีการดูด้วยกันหลายแบบแต่ที่เอามาเขียนนี้ก็เอามาจากที่เรียน และทดสอบมาแล้วว่าทำงานจริง ให้ไปหลายคนแล้วก็ work ดี สะดวกไปหมด ไม่ว่าจะเป็นการทำบุญ สมัครงาน เข้าหาธนาคาร ทำบุญบ้าน ติดต่องาน ก็สำเร็จ เพราะเรารู้จักเวลาของดาวเปิดไง ว่าเวลาไหนควรทำอะไรจะได้ผล การวางฤกษ์นั้นเราจะใช้จันทร์จรเป็นหลักในการหาชั่วโมงดีสำหรับทำการใด ๆ ก็ได้ ดาวที่เราใช้กันมากที่สุดคือดาวพฤหัสจร หรือดาวพฤหัสพื้นดวงก็ได้ เพราะความแรงเหมือนกัน จันทร์จรจะโคจรทำทับพฤหัสสองตัวเดือนละครั้ง เราก็อาจมีชั่วโมงดีอยู่สองครั้งเท่านั้นมันก็ยากถ้าเวลาจันทร์จรไปทำตอนกลางคืนก็ไปเวลาทำการไป  ก่อนอื่นเราก็หาวันที่เราต้องการก่อนว่าจะทำอะไรเวลาไหน และก็ดูจันทร์จรไปทำมุมถึงดาวดีดาวร้ายอะไรในวงโคจรของดาวจรบนท้องฟ้า บางครั้งเราก็ต้องรอเวลาดี ๆ บ้าง รอให้จันทร์มาทับดาวดี ทำไมถึงเอาจันทร์ทับ ไม่เอาทำมุมหรือ ได้ ทำมุมก็ได้แต่อาจไม่แรงพอ ดาวทับกันแรงกว่านะ จำไว้ สองวันก่อน อาทิตย์ทับพฤหัส ก็ดีทั้งวัน อันนี้ก็หนึ่งปีทับที นานเข้าไปอีก รอกันตายเลย เลยต้องใช้ จันทร์เพราะจันทร์โคจรเร็ว เดือน หนึ่งรอบราศีพอดี เราได้มุมทับ มุมอื่น ๆ อีก อาจใช้มุม 45 90  180 ถ้าจำเป็น ถ้ามันหายากก็ใช้มุมพวกนี้ไป พอเราได้จันทร์ทำมุมกับดาวพฤหัสหรือทับแล้ว อย่าลืมว่า นาที คือลัคนาจร เมริเดียนจร ก็ ต้องวางไว้ให้ดีด้วย ไปทับดาวดี อันนี้ต้องทับเสมอ เช่นทับ ศุกร์ เป็นต้น หรือดาวที่ส่งผลในงานั้น หรือดาวพุธ ก็ได้ ในเรื่องของการติดต่อ หรือเอาใช้จันทร์ทับศุกร์ ก็เกี่ยวกับความรัก ไปหาคนรัก แต่งงานเป็นต้น ไปติดต่องานก็จันทร์ทับพุธ ต้องการไปหาผู้ใหญ่ติดต่องานก็ จันทร์ทับ โครโนส ไป เป็นต้น แต่ทับหายากอาจหามุมที่บอกไปแล้วก็ได้ แต่ห้ามลืมนาทีต้องดี และดูดาว ณ เวลานั้น ใช้ได้ไหมมีดาวเสียมาบ้างไหม อย่างเช่นก่อนออกมาจากบ้าน ก็วางฤกษ์ดีแล้ว ออกตอน เที่ยงครึ่ง จันทร์ทับพุธ แต่ดันไปโดนดาวเนปจูน อังคาร อีก ก็คิดว่าไม่น่ามีอะไร ดันไปเจอฝนเข้าไปแต่ก็ไม่มีปัญหาอะไรเพราะดาวดีมีมากหลายดวง ก็รอดไปมาถึงได้ แต่ก็ตื่นเต้นมาก ขับไปคนเดียวด้วย มันมาก ไม่ได้ไปไหนคนเดียวมานานแล้วส่วนมากก็ศิษย์ขับให้นะ ไม่ใช่ว่าอยากสบายนะ แต่เข้าชอบขับให้เรานั่ง ตาข้าพเจ้าก็ยาวแล้ว มองไม่ค่อยเห็นตอนกลางคืน แต่กลางวันสบาย ก่อนมาก็ไปวิ่งออกกำลังมาอีก เลยมีแรงไม่หลับตอนขับ ถ้าหลับคงไม่ได้มาเขียนยาวๆ ให้ท่านอ่าน เพราะชอบหลับตอนขับรถนะท่าน 555 ไม่ถึงเวลาที่บอกไว้ ก็ยังไม่ตายนะท่าน เอาแค่นี้ก่อนคงจะพอไว้นะ พรุ่งนี้ต่อให้ลึกว่านี้ลูกเล่นมีอีกพอสมควร ท่านใดวางเก่งก็ถือว่าเป็นมืออาชีพได้แล้วหากินได้เลยท่าน

บทที่ 564
(ต่างจังหวัด)
เมื่อวานเอารถไปเปลี่ยนยางเพราะหมดอายุแล้วโดนเข้าไปหลายเรื่อง เปลี่ยนเสร็จ ไปเจออย่างอื่นอีกต้องเปลี่ยน สรุปหมดไปหมื่นกว่าบาทเห็นจะได้หน้ามืดเลย แต่คิดแล้ว เปลี่ยนก่อนจะมีปัญหาจะดีกว่า เพราะคันนี้กินน้ำมันแต่ยังรักอยู่ ต้องเติมน้ำมันธรรมดานะ ที่ต่างจังหวัด  43 ต่อลิตร กรุงเทพฯ 42 กว่าจะมาถึงเอาเข้าไปสองพัน แต่คันใหม่ พันกว่า ก็ไปกลับได้แล้ว การที่เรา เปลี่ยนแปลง มันก่อนเสีย จะทำให้เราใช้รถได้นาน ทุกอย่างมีเวลาหมดสภาพไปเช่นเดียวร่างกายคนต้องมีกาดูแล แก้ไข เกิด  สภาพคือ แก่ เจ็บ ตาย รถยังมีเปลี่ยนได้คนเราเปลี่ยนไม่ได้ถ้าเป็นโรคอะไรก็จะเป็นเลย มันเป็นเรื่องของกรรมเก่านะครับ ท่านควรจะดูแลสุขภาพท่านมั่นออกกำลังกาย ทานอาหารที่ดี ๆ พักผ่อนให้เพียงพอ ก็เหมือนการดูแลรถเหมือนกัน อะไหล่ ไหนเริ่มหมดสภาพก็รีบเปลี่ยน มั่นดูแลเค้าให้อยู่ในสภาพที่ดีก็ ใช้ได้นาน เหมือนร่างกายเรามั่นดูแลเราก็ใช้ได้นาน ร่างกายเหมือนตัวถังรถนั่นเอง แต่เราเปลี่ยนไม่ได้เท่านั้นเอง มีแต่หมดสภาพลงไปทุกวัน ดังนั้นโหราศาสตร์การแพทย์ก็เข้ามามีส่วนช่วยให้เราทราบว่าส่วนไหนของร่างกายเราไม่ดีเราก็เริ่มแก้ไขเสียแต่ต้นมันก็ไม่เป็นอะไรมากนัก วันนี้ว่าจะคุยเรื่องการวางฤกษ์ไปพูดเรื่องอื่นแทนเสียเราเป็นว่าคราวหน้าเราจะขึ้นโหราศาสตร์การแพทย์กัน คราวนี้มาเริ่มการวางฤกษ์ต่อกันให้จบแต่จริงแล้วมันก็จะแต่ท่านเอาไปใช้ได้แล้ว ที่ท่านอ่านมาคราวที่แล้วก็บอกไปมากพอควรแต่มีปลีกย่อยอีกนิดหน่อย เราใช้ดาวดีๆ มาทำการวาง เช่นดาวศุกร์ เรื่องเงิน ความรัก ความสวยงาม ดาวพุธการติดต่อ เดินทาง ถ้าจันทร์หรืออาทิตย์ทับพุธเราก็เดินทางดีแต่ไม่ให้ ลัคนาจร เมริเดียนจร ไปทับดาวไม่ดีเราก็จะมีผลตามมาในฤกษ์นั้น การผ่าตัดเราให้ดีเราควรผ่าข้างแรม และวันเวลา ตรงกับดาวพฤหัส ก็จะดี ทำไหถึงผ่าข้างแรม คือเลือดมันจะไม่ออกมากหายเร็วขึ้น ต้องเป็นการผ่าตัดใหญ่ๆ นะ ถ้าเป็นการผ่านิดหน่อยไม่จำเป็นมากนัก การเข้าหุ้นเราก็ให้ดาว cu  การเข้าหาผู้ใหญ่ kr เราทำบุญหรือการเรียนรู้ใช้ po การออกรถใหม่เราใช้ดาวพุธ ศุกร์ ก็ได้ ถ้าหาเวลาดาวพฤหัสไม่ทัน จันทร์/พุธ คือรถยนต์ แต่ถ้าเราต้องการสูงเอกสารสำคัญเราก็ใช้ดาวพุธ ถึง พฤหัส จะดีที่สุด หรือเอาช่วง mc ทับดาวพฤหัส ก็ได้ เราถือว่า เมื่อ mc ทับดาวอะไรมันจะส่งกำลังแรงสุด ๆ เพราะอยู่บนหัวเรา การนอนก็เหมือนกันหาดาวพฤหัสในพื้นดวงให้เจอว่าอยู่ทิศไหนเราก็นอนไปทางนั้นหรือนั่งทำงานทางทิศนั้น ข้าพเจ้าก็นั่งหันไปทางทิศที่ดาวพฤหัสจรจะขึ้นก็จะทำให้เขียนอะไรได้ดีเช่นกัน ทิศ ตำแหน่ง องศา เวลา เอามาใช้ในการวางฤกษ์หมด อย่าลืมมุมทับแรงที่สุด จากนั้น ก็ 22.50  45 90  และ 180 ที่จันทร์จรไปทำมุมถึงดาวดี ๆ ณ เวลานั้น

บทที่ 565

วันนี้เรามาพบกันในวันสงกรานต์ เป็นวันปีใหม่ไทย ขอให้ทุกคนมีความสุข สมัยก่อนเราจะนับวันนี้เป็นวันขึ้นปีใหม่ของชาวตะวันออกกัน แต่ทางตะวันตกสมัยก่อนเริ่มจากเดือนอาทิตย์ย้ายเข้าราศีมังกรเป็นวันขึ้นปีใหม่ ตอนหลังมาเปลี่ยนให้เหมือนกันทั่วโลก จะได้เหมือนกันหมด ไทยเรานับราศีเมษเป็นวันปีใหม่เพราะอาทิตย์เข้าราศีเมษ กลางวันกับกลางคืนจะเท่ากัน เอาเป็นว่ารู้เพียงแค่นี้ก่อนวันหลังจะมาคุยให้ฟัง วันนี้ได้รับ mail ของนักเรียนคนหนึ่งบอกว่าราศีภาคกลางวันน่าจะเริ่มจากราศีสิงห์ อันนี้รู้ได้เลยว่าไปอ่านจากดวงไทยมาแน่นอน แต่สำหรับสากลแล้วเราจะแบ่งเป็นแบบนี้ให้กันทั่วโลกตามฤดูกาลของโลกมีดังนี้ จากการศึกษาเรื่องอิทธิพลในทางโหราศาสตร์ของราศีต่าง ๆ ทั้ง 12 ราศี ท่านคงจะเป็นแล้วว่าจากการแบ่งราศีออกเป็นสองภาคคือ
ราศีภาคกลางวัน ได้แก่ ราศี เมษ พฤษภ มิถุน กรกฎ สิงห์ กันย์
ราศีภาคกลางคืน ได้แก่ ราศี ตุล พิจิก  ธนู มังกร กุมภ์ มีน
ทำให้เราสามารถที่จะ สรุป อิทธิพลของราศีทั้ง
12 ราศี  ลงเพื่อง่ายแก่การจดจำและเข้าใจ
ราศี เมษ พฤษภ มิถุน กรกฎ สิงห์ กันย์ จะเป็นลำดับขั้นของ
"พัฒนาการทางด้านภายนอก "หรือ การพัฒนาการทางด้านวัตถุ
ราศี ตุล พิจิก  ธนู มังกร กุมภ์ มีน จะเป็นลำดับขั้นของ  
"พัฒนาการทางด้านภายใน " หรือ การพัฒนาการของจิต หรือทางด้านอุดมการณ์
หากท่านเข้าใจความเป็นมาของอิทธิพลของจักรราศีตั้งแต่ราศี เมษ ถึง กันย์ จะเข้าใจในความเป็นมาของอิทธิพลของจักรราศี ตั้งแต่ ราศี ตุล ถึง มีน ดังนี้

    อิทธิพลของราศี  ตุล จะเหมือนกับ อิทธิพลของ
    ราศีเมษ        แต่เป็นไป   ทางด้านใน    หรือทางด้านจิต
                               พิจิก      
"                        "      ราศีพฤษภ         "                   "                   "
                               ธนู         "                         "      ราศีมิถุน            "                   "                   "
                               มังกร     "                         "      ราศีกรกฎ          "                   "                   "
                               กุมภ์      "                         "      ราศีสิงห์            "                   "                   "
                               มีน        "                         "      ราศีกันย์            "                   "                   "
จากราศีเมษ ชีวิต ได้มีการพัฒนาการไปอย่างไร จากราศีตุลย์ ชีวิต ก็ลงมีพัฒนาการไปอย่างนั้น
ขอให้ท่านอ่านและทำความเข้าใจทีละน้อย ๆ มองให้เห็น
" ภาค" ความเป็นมาของอิทธิพลของราศีต่าง ๆ ให้ได้ แล้วท่านจะรู้ในโหราศาสตร์อย่างแท้จริง คือราศีตรงข้ามกันก็บอกความแตกต่างของแต่ละราศี อย่างง่าย ๆ


ส่วนภาคกลางวันกับกลางคืนดวงไทยดูตำแหน่งดาวที่อยู่ในราศี
ตัวอย่างเค้าไม่แบ่งตามฤดูกาลที่แท้จริงอาศัยดาวประจำราศีกัน

ดาวเคราะห์ประจำราศี คือ  ดาวในตำแหน่งเกษตรบางตำราเรียกว่า”ดวงโลก” ทางด้านโหราศาสตร์เชื่อว่าโลกที่เราอาศัยเป็นสะเก็ดของดวงอาทิตย์ที่แตกตัวออกมา แล้วลอยตัวอยู่ในอากาศ โดยถูกอำนาจดึงดูดจากดาวเสาร์ให้หลอมตัวจนเกิดเป็นดาวโลก  ดาวเคราะห์ประจำราศียึดดาวจันทร์และอาทิตย์เป็นหลัก  ซึงมีทั้ง ๑๒ ราศี และได้แบ่งการทำงานของดวงดาวเป็น ๒ ภาค คือภาคกลางวันและภาคกลางคืน โดย
ภาคกลางวันเริ่มตั้งแต่ราศีสิงห์ถึงมังกร โดยภาคกลางคืนเริ่มตั้งแต่ราศีกรกกฎถึงราศีกุมภ์  วันนี้ดวงอาทิตย์อยู่ที่ 23 องศากว่า ดวงไทยจะใช้ราศีเคลื่อนที่ ยูเรเนียน เราใช้ราศีคงที่ เสมอ ดวงไทยเลยถือว่าวันนี้เป็นวันยกเข้าราศีเมษ