Astro daily |
บทที่001
13/04/2557
สวัสดี
วันนี้ถือเป็นวันดีที่จะได้เริ่มโหรศาสตร์วันละนิดวันละหน่อยขึ้นมาอีก
หลังจากหายไปนานมาก
เพราะคนเขียนป่วยไปอีกหลายปีทีเดียวตอนนี้เริ่มมีอาการดีขึ้น
เจอโค้ง
sa เข้าไป กับเสาร์จรในดวง solar return
เข้าเต็มจอ ในปี 2555
การดูโค้งเราสามารถดูได้เลยไม่ต้องตั้งดาวจร
เพราะโค้งฯคือเหตุการณ์การปีในพื้นดวงจะถามว่าแรงไหม กับระหว่างดาวจร
จริงแล้วมันจะแรงไม่แพ้กัน แต่โค้งจะบอกเรื่องของชะตาชีวิต ณ ปีนั้นๆเป็นอย่างไร
ส่วนดาวจรรายปีก็บอกรายละเอียดของปีนั้น
เข้าไปให้มีรายละเอียดมาขึ้น
เราจะตั้งปัจจัยเข้าไปถามเค้าก็ได้ A+B-C หรือ A/B
ตามที่ต้องการ เป็นเรื่องโชค เคราะห์ การเจ็บป่วย ฯลฯ
เวลาเราดูเราก็จะแบ่งโค้งฯออกเป็นดังนี้ โค้งโชค เราก็จะใช้ JU, AP, VU
เคราะห์ เราก็ใช้ SA, HA, AD, MA, UR
ความรัก VE, NO, CU เป็นต้น
ส่วนโค้งฯจุดเจ้าชะตาเราก็ดูได้เช่นกัน คือต้องเราโค้งจุดเจ้าชะตาไปถึงดาวอะไร ดี
หรือร้าย เราก็ว่ากันไป ตามนั้น มันต่างกัน
โค้งดาวไปชนกับจุดเจ้าชะตาก็จะแรง
จะบอกเรื่องนั้นๆ ได้เลย ส่วนมากก็จะดูโค้งดาวเป็นส่วนมาก
แต่เราควรดูทั้งสองอย่างควบกันไป
อีกเรื่องหนึ่งที่จะคุยในวันนี้
โปรแกรมเราได้มีการพัฒนามาถึง Version 8.1 ได้ทำการปรับปรุงแก้ไข
และเสริมสิ่งใหม่เข้าไป มี
เรื่องของดาวเก้ายุคเข้าไปด้วยและปรับ
ดาวรายปีเขาไปให้ดูง่ายขึ้น
และมีเพิ่มการดูมุมด้วยเส้นสีเอาไว้ในพื้นดวงให้ด้วยเพื่อนที่จะได้ดูได้ง่ายขึ้น
และมีโหราศาสตร์การแพทย์ version 2
ที่ทำการปรับให้สามารถเลือกระวังองศามุมได้ด้วย ตั้งแต่ 0 -3 องศา เข้ามุม
เปลี่ยนสีใน
การดูดวงคู่ให้มีสีต่างๆ กันไป ไม่จำกัดวง จนกว่าจอรับได้
ปรับเส้นมุมจากขาวเป็นแดงให้สมารถมองเห็นได้ง่าย
ถ้าต้องการดูเรือนชะตาผสมกับการวัดมุมในการดูแบบเชิงลึก
การดูที่แท้จริงๆ
แล้วเราควรดูจากเรือนชะตามาก่อนแล้วค่อยมาปรับดูดาวในภพว่าทำมุมกับดาวในภพใดเข้าไปอีก
จะได้ทำให้เราสามารถถอดรหัสดวงดาวได้ง่ายขึ้น
ว่าแล้วเราก็มาดูเรื่องปัจจัยรายนาทีน่าสนใจ ส่วนมากเราจะดูที่ AS MC
คือดูรายนาที AS
ดูว่าเรากำลังอยู่ในสภาพแวดล้อมแบบไหน MC
สำรวจดูสภาพจิตใจในนาทีนั้นเรากำลังดำเนินวิถีแห่งชีวิตอย่างไร
แต่ก็มีจุดอีกสองจุดที่ใช้ดูแทน ได้คือ เอา AS-SU ,MC-SU
สามารถใช้แทนกันได้และเที่ยงตรงกว่ามาก รองเล่นกันดู
แต่ผลออกมาจากการใช้เป็นที่น่าพอใจ
สำหรับโปรแกรมท่านที่ไม่ได้ซื้อโปรแกรมจากต้นตอ
ทางเราไม่ขอรับผิดชอบ มีผู้ทำการ
เฮก โปรแกรมไปจำหน่ายอยู่
ไม่เป็นการสมควร เลย อย่าไปอุดหนุน
มีปัญหาจะไม่รับผิดชอบ ถ้าจะซื้อต้องซื้อจาก อาจารย์เดชา เท่านั้น ถึงจะถูกต้อง
และไม่มีสาขาจัดจำหน่ายที่อื่นนอกจากที่ อาจารย์เดชา แต่ผู้เดียว
Take Snapshot
ดูได้ไม่จำกัวง
Aspect Relation
Flying Planet ดาวเก้ายุค
กับดาวรายปี
ดาวประจำราศี ดาวเกษตร จะส่งผลดีต่อเจ้าชะตา
อาทิตย์ 1 สถิต ราศีสิงห์
จันทร์ 2
สถิต ราศีกรกฏ
อังคาร 3 สถิต ราศีเมษ กับ ราศีพิจิก
พุธ 4 สถิต ราศีมิถุน กับราศีกันย์
พฤหัส 5 สถิต ราศีธนู กับราศีมีน
ศุกร์ 6 สถิต ราศีพฤษภ กับ ราศีตุล
เสาร์ 7 สถิต ราศีมังกร กับ กุมภ์
ดาวเกษตร จะแสดงการเพิ่มความแรงทางด้านดีของดวงชะตาว่าเจ้ามีราศีอะไรเด่นในพื้นดวงนั้น
เป็นสำคัญ
ดาวที่เป็นประ ดาวทางด้านส่งผลเสียทางด้านราศี
อาทิตย์ สถิต ราศีกุมภ์
จันทร์ สถิต ราศีมังกร
อังคาร
สถิต ราศีพฤษภ กับ ราศีตุล
พุธ สถิต ราศีธนู กับ ราศีมีน
พฤหัส สถิต ราศีมิถุน กับ ราศีกันย์
ศุกร์ สถิต ราศีเมษ กับ ราศีพิจิก
เสาร์ สถิต ราศีกรกฏ กับ ราศีสิงห์
ดาวที่นำโชคให้กับโชคชะตา หรือ ราชาโชค
อาทิตย์ สถิต ราศีมิถุน
จันทร์ สถิต ราศีกันย์
อังคาร สถิต ราศีพฤษ
พุธ สถิต ราศีสิงห์
พฤหัส สถิต ราศีเมษ
ศุกร์ สถิต ราศีกรกฏ
เสาร์ สถิต ราศีพิจิก
ดาวแสดงถึงเพศชาย ดาวแสดงถึงเพศหญิง
อาทิตย์ จันทร์
อังคาร ศุกร์
พฤหัส เสาร์
มฤตยู เนปจูน
พุธ เพศกลาง ๆ
การโคจรของดวงดาวไปสู่….ดาว….
อาทิตย์ โคจรไปสู่ พฤหัส ศุกร์ ดวงชะตาจะมีโชคลาภดีมากจะดีทั้งชีวิตมีโชคอยู่เนื่อง ๆ
อาทิตย์ โคจรไปสู่ มฤตยู ต้องระวังวังเรื่องการแต่งงานจะมีการหย่าร้างหรือไม่มีความสุขใน
ชีวิตสมรส
พุธ โคจรไปสูง อาทิตย์ มีความดิ้นรนไปสู่ความปราดเปรื่อง
อาทิตย์ โคจรไปสู่ พุธ ไม่สู้จะมีความดิ้นรนไปสู่ความปราดเรื่องนัก
จันทร์ โคจรไปสู่ ดาวไม่ดี จะทำให้อายุสั้น หากโคจรไปสู่ อังคาร จะเกิดการไม่สงบในชีวิต
จันทร์ โคจรไปสู่ เสาร์ จะเกิด ความขัดสน อุบัติเหตุ
จันทร์ โคจรไปสู่ อังคาร เจ้าชะตาจะมีความขันแข็ง ในชีวิตมีแต่การทะเลาะวิวาท
อังคาร โคจรไปสู่ มฤตยู จะมีการผ่าตัด อุบัติเหตุ หากมฤตยูสถิตในเรือนที่ 8 อันตรายอย่างยิ่ง
ศุกร์ โคจรไปสู่ จันทร์ มีภรรยาหลายคน ในด้านเจ้าชะตาชาย
ดาวศุภเคราะห์ โคจรไปสู่ ดาวศุภเคราะห์ จะส่งผลดีกับเจ้าชะตา
ดวงชะตาชาย
จันทร์ หรือศุกร์ โคจรไปสู่ พูลโต ภรรยานำความเดือดร้อนมาให้
จันทร์ หรือศุกร์ โคจรไปสู่ เนปจูน ภรรยาเป็นโรคประสาท หรือหลอกลวง หรือภรรยาอาจทำงานด้านแทพย์ หรือ นักศิลป
จันทร์ หรือ ศุกร์ โคจรไปสู่ มฤตยู ภรรยาเป็นคนมีหัวนำสมัย
จันทร์ หรือ ศุกร์ โคจรไปสู่ เสาร์ ภรรยาทำงาน ตราตรำ หรือป่วย สุขภาพไม่ดี
จันทร์ หรือ ศุกร์ โคจรไปสู่ พฤหัส ภรรยาร่ำรวย หรือการมีโชค
จันทร์ โคจรไปสู่ ศุกร์ ภรรยาสวย หรือเป็นนักศิลป
จันทร์ หรือ ศุกร์ โคจรไปสู่ อาทิตย์ ภรรยาเป็นคนมีชื่อเสียง
ดวงชะตาหญิง
อาทิตย์ หรือ อังคาร โคจรไปสู่ พลูโต สามีนำความวิบัติมาให้
อาทิตย์ หรือ อังคาร โคจรไปสู่ เนปจูน สามีเป็นโรคประสาท เป็นคนหลอกลวง
อาทิตย์ หรือ อังคาร โคจรไปสู่ มฤตยู สามีไม่จริงจัง หรือมีการหย่า
อาทิตย์ หรือ อังคาร โคจรไปสู่ เสาร์ อาจมีสามีจน ไม่มีทรัพย์
อาทิตย์ หรือ อังคาร โคจรไปสู่ พฤหัส สามีเป็นคนมีโชค
การพยากรณ์ดาวสันโดษ
พฤหัส สันโดษ เจ้าชะตาจะประสบความสำเร็จในชีวิต มีโชค
เสาร์ สันโดษ เจ้าชะตา จน หนี้สิน มีความวิตกกังวงในชีวิต
จันทร์ สันโดษ มีความอยากเด่นดัง ไม่อยู่นิ่ง
ศุกร์ สันโดษ มีโชคในเรื่องความรักใคร่
อังคาร สันโดษ มีสัญชาติญาณในการอาสา หรือ กระด้างกระเดื่อง
มฤตยู สันโดษ มักชอบการเปลี่ยนแปลงที่อยู่ทุกขณะ
เนปจูน สันโดษ เป็นคนหลอกลวง
พูลโต สันโดษ มีโชคชะตาเกี่ยวข้องกับความเป็นกลุ่มก้อน
.......................
บทที่
002
14/04/2557
AR+AP-HA:
เมื่อวานได้ไปเดินตลาดนัด เค้าเรียกว่าตลาดหัวรถไฟจิระอะไร
น่าจะใช้นะ พอดีตอนนี้มาพักที่โคราช บ้านเก่าเรา มาได้สองวันแล้ว เบื่อๆ
ก็เลยไปเดินจับหาของ
HA ชอบเดินหาของเก่าที่ใช้แล้วแต่สภาพดี ทั้งตัวก็มีแต่ HA
เสื้อผ้า กางเกง ก็ตัวละ 10 บาท นะ อย่างแพงก็ 150 บาท
มันถูกดีสภาพใหม่จากเมืองนอก เอามาทำความสะอาดแล้วก็เหมือนใหม่ใครไม่รู้
มาทีก็ไปหาของเก่ามาไว้ใช้ ไม่แพงดี เอาเข้าเรื่องก่อน เมื่อวานไปเดินที่เช้าเลย
คิดว่าจะไปหาอะไรสักอย่างที่เป็นของขลังเพราะจิตใจมันบอกมาตั้งแต่มาโคราชแล้วต้องมาได้อะไรสักอย่าง
นะ เดินๆ ไป เจอคนขายพระมีเป็นสิบร้านเลย เราก็ดูพระไม่เป็น ไม่รู้จะเอาองค์ไหนดี
เพราะที่นี่ส่วนมากจะเป็นพระบ้านเค้าเอามาขายไม่เหมือนใน ก.ท.ม มีแต่ของเทียมไปหมด
ท่าพระจันทร์ด้วยยิ่งไปกันใหญ่เลย เลยคิดว่าใช้จิตนี่แหละเดาเอา ก็เดินไปเลื่อยๆ
ดูไปดูมา ไปหยุดที่ร้านหนึ่งเป็นชายหนุ่มน่าดาดูไม่ได้ไม่น่าไว้วางใจมากนัก
แต่มันหยุดตรงนี้ ก็เลยไปดูๆๆไปอย่างนั้น พอดีไปเจอเหรียญเข้าเหรียญหนึ่ง
จับมาแล้วถูกชะตามาก ก็เลยตามไปว่าของแท้ไหม คนขายมองหน้าเรา
ตาเค้าไม่ค่อยเป็นมิตรแล้ว แล้วก็พูดขึ้นมาว่า “ผมก็ไม่ทราบคับ
ส่วนมากมีแต่ของบ้านๆ เอามาขาย นะ “ เค้าตอบ
แล้วมองไปคนอื่นที่มาซื้อ ต่อไป เราก็ดูไปแล้วเอาวะ ถามราคา เท่าไร เค้าบอกว่า 200
บาท เหรียญนี้ แล้วก็ถามอีกว่ารุ่นไหน เค้าก็บอกว่าไม่รู้ ไม่ทราบ เหมือนกัน
ถ้าจริงๆแล้วถ้าเป็นเซียนพระจะต้องรู้จักและโม้ออกมาเลยว่า เป็นอย่างไร
แต่เหมือนสื่อเกินไปหน่อย แต่เราก็ไม่ไว้ใจนะ ก็ดูต่อไปอันอื่น
แต่ก็ยังติดใจเจ้าเหรียญนี้อีก เลยต่อราคาไป 150 ไปไหม เค้าบอกกับมาว่า.... ไม่ได้
ให้ 180 ก็คิดอยู่ว่าคุ้มไหม หนอ เอาก็เอา เลยคิดขึ้นมาได้ว่าต้องจับยามเสียแล้ว
เลยถามคนขายว่ากี่โมงแล้ว เค้าบอกว่า 7.30 พอดีคับ เลยจำเวลาไว้
เราก็ไม่ได้เอานาฬิกาไป ด้วย ไม่อยากเอา
มือถือขึ้นมาเดียวเค้าเห็นว่ามีของดีขึ้นราคาเข้าไปอีกนะ เอาก็เอาวะ ให้เงินไป
แล้วก็เดินไปดูอย่างอื่นต่อไปอีก ขากลับเดินผ่านร้านเดิมอีก มันโดนใจอีกเข้าไปดูอีก
ได้เห็นอีกเหรียญหนึ่งเหมือนกันแต่คนละวัดกัน คราวนี้ถามอีก ตอนี้ลดให้ 150
เอาเลยจับเวลาอีก กับมาแล้ว ก็เปิดคอม ดูเวลา ตั้งไปที่ 7.30 แล้วดูที่ As ,
Mc จรเวลานั้นเห็นอะไรไหม สรุป As 90 กับ
Po พอดูไม่ขาดไม่กิน 1 วังกะ เลย
แล้วก็เอาเครื่องจับพลังมาวัดดูก็ขึ้นอีก สรุปว่าของเค้าใช้ได้
จริงๆแล้วของพวกนี้ไม่ต้องทำพิธีหรอก มันก็จะมีพลังของมันอยู่แล้วนะ
มันขึ้นอยู่ที่ใจมากกว่า และสิ่งที่ได้มาฟ้าเค้าให้เราหรือเปล่าเท่านั้น
แท้หรือเทียมมันก็เป็นธาตุทั้ง 4 ดิน น้ำ ลม ไฟ เหมือนกันนะ อย่าไปคิดอะไรมาก
ขึ้นอยู่ที่ใจ สรุปเหรียญอะไรรู้ไหม ให้ทาย อยากได้เหรียญ ร.5 ก็ได้มา สมใจ
กับเหรียญ สมเด็จพระนเรศวร วันนี้ไปเดินใหม่จ้า
ปล. เราอาจใช้จุด as-su , mc-su
จรก็ได้ออกมาเหมือนกัน เอาไว้ใช้ดูกาลชะตาว่าเราทำอะไรได้อะไร เจอสิ่งใด
ได้แม่นยำมาก ไปใช่กันดูนะ
.......................
การเรียนโหราศาสตร์การแพทย์เป็นส่วนหนึ่งของระบบยูเรเนียน
ท่านสามารถวิเคราะห์โรคต่าง ๆ ได้ด้วยตัวเอง ดังนี้
หมุนปีไปจนได้มุมสวย ๆ ก็เช็คปีนั้นอย่างระเอียดอีกครั้งหนึ่ง
ความรู้เพิ่มเติม
ทางคอลัมน์ศาสตร์แห่งดาวเคยนำเสนอเรื่อง“โรคภัยไข้เจ็บ” ที่เกี่ยวข้องกับดวงดาวไปแล้วครั้งหนึ่ง คราวนี้เรามาดูมุมมองเกี่ยวกับโหราศาสตร์การแพทย์ของนายแพทย์สนธยา พรึงลำภู คุณหมอนักโหราศาสตร์ ซึ่งมีความสนใจว่าคนไข้ที่เจ็บป่วยนั้นได้รับอิทธิพลจากดาวดวงไหน มีจุดใดบ้างที่ทำให้คนเราเจ็บไข้ได้ป่วย โดยได้บรรยายในงานวันโหราศาสตร์เมื่อต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ที่โรงแรมชาลีนา ถนนรามคำแหง
นายแพทย์สนธยา เริ่มต้นเล่าให้ฟังว่า โหราศาสตร์การแพทย์มีประวัติมาช้านานหลายร้อยหลายพันปี ในอดีตนั้นผู้ที่เป็นแพทย์จะมีความรู้ทางด้านโหราศาสตร์ควบคู่ไปด้วย มิเช่นนั้นจะวินิจฉัยและรักษาโรคไม่ถูกต้อง เนื่องจากในสมัยนั้นไม่มีอุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ที่ทันสมัยเช่นปัจจุบัน แต่ในยุคนี้ความทันสมัยทางการแพทย์มีมากกว่าสมัยก่อนจึงสามารถวินิจฉัยโรคต่างๆ ได้มากกว่าทางโหราศาสตร์
“โหราศาสตร์การแพทย์ที่นำมาใช้ในปัจจุบันก็เพื่อวิเคราะห์ดวงชะตาพยากรณ์โรค เพื่อให้ทราบว่าเจ้าชะตาป่วยเพราะเหตุใด ทำไมถึงป่วย จะเจ็บป่วยเมื่อใด จะหายเมื่อใด และจะรักษาอย่างไร แต่ด้วยจรรยาโหราคงบอกไม่ได้ว่าเจ้าชะตาจะเสียชีวิตเมื่อใด”
นายแพทย์สนธยา ย้ำว่า ปัจจุบันโหราศาสตร์การแพทย์นำมาใช้เพื่อศึกษาค้นคว้า โดยการตรวจวินิจฉัยโรคจากแพทย์แผนปัจจุบันเป็นหลัก ไม่ใช่วินิจฉัยโรคจากโหราศาสตร์เพียงอย่างเดียว
สำหรับการวิเคราะห์โรคภัยไข้เจ็บตามหลักโหราศาสตร์การแพทย์ จะพิจารณาจากราศี ความหมายของดาว ตำแหน่งดวงดาว ฯลฯ แต่ละราศีจะบ่งบอกถึงอวัยวะต่างๆของร่างกายคนเรา อาทิ ราศีเมษก็คือบริเวณศรีษะ ส่วนราศีอื่นก็แบ่งเป็นอวัยวะต่างๆ ไล่เรียงกันไป จนถึงราศีมีนก็คือบริเวณเท้าทั้งสองข้าง หากแบ่งตามราศีกว้างเกินไปก็สามารถไปวิเคราะห์จาก การทำมุมสัมพันธ์กับดวงชะตา หรือเรือนเกณฑ์ เป็นต้น
หากพิจารณาดวงดาว ซึ่งแต่ละดวงก็มีความหมายและอิทธิพลในเรื่องโรคภัยไข้เจ็บแตกต่างกันไปดังนี้คือ หากเจ้าชะตามีดาวอาทิตย์อยู่ในตำแหน่งที่ดีก็จะส่งผลให้ร่างกายดี มีความแข็งแรง “แต่ถ้าดาวอาทิตย์อยู่ตำแหน่งที่เสียก็จะแย่หน่อย”
ส่วนดาวจันทร์ หมายถึง ความป่วยไข้จิตใจและอารมณ์
ดาวอังคาร ได้แก่ กล้ามเนื้อ กระดูก ปวดข้อ ข้ออักเสบ เคล็ด ฟกช้ำ ถ้าดาวอังคารอยู่ร่วมกับดาวอาทิตย์หรือส่งผลถึงกันจะก่อให้เกิดปฏิกิริยาเฉียบพลันเช่น ไข้ขึ้นสูง อุบัติเหตุ เป็นต้น
ส่วนดาวพุธเกี่ยวข้องกับระบบประสาทในร่างกาย หากเจ้าชะตาผู้ใดที่ดาวพุธอยู่ในตำแหน่งเสียก็มักจะเป็นอัลไซเมอร์ อัมพฤกษ์ อัมพาต เป็นต้น
“ดาวพฤหัสบดีหากเทียบกับอวัยวะในร่างกายก็หมายถึง ตับ และถ้าเจ้าชะตาผู้ใดที่ดาวพฤหัสบดีสัมพันธ์ถึงจุดเจ้าชะตาหรืออยู่ในตำแหน่งที่ดีมากเกินไปร่างกายก็จะอ้วนท้วนสมบูรณ์"
ถ้าผู้ใดที่มีดาวศุกร์เด่นก็จะมีผิวพรรณที่สวยงาม แต่ถ้าดาวศุกร์เสียก็จะส่งผลในทางตรงกันข้ามและหากจะเสริมสวยก็ต้องรอให้ดาวศุกร์อยู่ในตำแหน่งที่ดีก่อนค่อยเสริมความงาม นอกจากนี้ดาวศุกร์ยังหมายถึงหลอดเลือดดำ ไต ต่อมไร้ท่อ ต่อมไทรอยด์
ดาวเสาร์เปรียบกับโครงสร้างที่แข็งแรง เช่น กระดูก ผิวหนัง ฟัน “จะพบบ่อยๆว่าเวลาที่ดาวอังคารมาเจอกับดาวเสาร์มักจะกระดูกหัก”
ดาวมฤตยูหมายถึง การเกิดอย่างเฉียบพลัน เกี่ยวข้องกับอวัยวะที่เต้นเป็นจังหวะ เช่น หัวใจ ผู้ที่มีโรคหัวใจวายแบบเฉียบพลันจะมีดาวมฤตยูมามีบทบาทในดวงชะตาเสมอ ผู้เป็นโรคหัวใจมักมีดาวมฤตยูอยู่ในราศีสิงห์ แต่ถ้าดาวมฤตยูอยู่ราศีกุมภ์มักเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจ
ส่วนดาวเนปจูนส่งผลในด้านความเสื่อม อาทิเช่น ดาวอังคารเกี่ยวกับภูมิต้านทานในร่างกาย ดาวอังคารเด่นภูมิต้านทานก็ดี แต่ถ้าดาวอังคารเจอกับดาวเนปจูน แปลว่า ภูมิต้านทานเริ่มแย่ลงแล้ว นอกจากนี้ดาวเนปจูนยังเป็นดาวแห่งความคลุมเครือ ตามโหราศาสตร์การแพทย์มักพบบ่อยว่าเป็นโรคที่วินิจฉัยยาก และปัจจุบันพวกติดเหล้า ยา บุหรี่ ได้รับอิทธิพลของดาวเนปจูนทั้งสิ้น
ดาวพลูโต หมายถึง การทำลาย เช่น การติดเชื้ออย่างหนัก เป็นไข้ หายช้า ในเวลานาน
ส่วนดาวทิพย์ของโหราศาสตร์ยูเรเนียน อาทิ ฮาเดส ก็หมายถึงโรคติดเชื้อทั้งหลาย ถ้าดาวศุกร์สัมพันธ์ถึงดาวฮาเดสระวังจะเป็นหมันหรือไร้สมรรถภาพ สำหรับเซอุสจะส่งผลให้เกิดปฏิกิริยารุนแรง ความดันโลหิตสูง และคิวปิโดจะเกี่ยวกับภาวะเจริญพันธุ์ ถ้าไปสัมพันธ์กับดาวไม่ดีก็อาจแท้งบ่อย เป็นต้น
นายแพทย์สนธยา อธิบายต่อไปว่า “ดาวในดวงชะตาใดที่สถิตในสถิรราศีมากหน่อย เวลาป่วยไม่ค่อยจะหายง่าย รักษายาก ถ้าดวงดาวสถิตในจรราศีหายก็หายเร็ว ตายก็ตายเลย และอุภยะราศี ค่อนข้างจะเอาแน่นอนไม่ได้ ต้องใช้ทักษะในการรักษา ส่วนขั้นต่อไปก็ต้องวิเคราะห์องค์ความรู้ทั้งหมดก็คือดูดาวจรและดูดวงกำเนิดว่ามีจุดอ่อนตรงไหนบ้าง”
โหราศาสตร์การแพทย์สามารถให้คำแนะนำในด้านการตรวจสุขภาพได้ว่า
ควรจะตรวจจุดไหนเป็นสำคัญ
เพราะถ้าตรวจสุขภาพทุกส่วนของร่างกายก็จะต้องเสียค่าใช้จ่ายสูง
สรุปว่าโหราศาสตร์การแพทย์ไม่ได้นำมาใช้นำหน้าการวินิจฉัยทางการแพทย์
แต่เป็นการศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับโรคภัยไข้เจ็บเพื่อเสริมการแพทย์แผนปัจจุบัน
ตอนนี้เรามีโปรแกรมเกียวกับโหราศาสตร์การแพทย์แล้ว สามารถบอกโรคต่างๆ ได้ทั้งหมด
360 โรค คือ 1 องศาจะโรคประจำหนึ่งโรค และมีจุดศูนย์รังสี และจุดอิทธิพลบอกโรคอีก
150 โรค แต่ก็ยังคงยึดหลักการวิเคราะห์เหมือนเดิมเป็นพื้นฐาน
โปรแกรมสามารถบอกโรคจากพื้นดวง และโรคที่กำลังจะเกิดขึ้นในปีได้ได้
ความละเอียดของมุมสามารถปรับได้
............
บทที่3
ในทำนองเดียวกันกับกรณีของจักรราศี อิทธิพลความหมายของดาวพระเคราะห์ต่าง ๆ เหล่านี้ย่อมสามารถขยายออกไปได้โดยไม่มีที่สิ้นสุดด้วยวิธีการ ใช้หลักการอุปมาและการอนุมาน ซึ่งผู้ใดก็ตามหากเข้าใจการอุปมา ( หรือเข้าใจการเทียบเคียง) และช่ำชองในการใช้หลักการอนุมาน (ซึ่งบางครั้งก็อาจอาศัยประสบการณ์) ผู้นั้นย่อมจะรู้โหราศาสตร์ที่ดีกว่าผู้อื่นอย่างไมต้องสงสัย (ในขั้นนี้ท่านอาจเรียนแบบการอุปมาและการอนุมานได้จากวิธีการวิเคราะห์และสังเคราะห์อิทธิพลของดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ ขณะเดียวกันก็พิจารณาอิทธิพลตามคัมภีร์ โบราณประกอบไปด้วย เมื่อพอจะรู้แนวทางแล้วก็ลองปฏิบัติกับดาวพระเคราะห์อื่น ๆ บ้าง เมื่อฝึกฝนบ่อย ๆเข้าก็จะชำนาญไปเอง) จงหลีกเลี่ยงการท่องจำให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะการศึกษาด้วยวิธีการจำนั้นเป็นวิธีการของผู้ไม่ฉลาด และผลการศึกษาจะถึงเพียงระดับ "รู้จัก" เท่านั้น ไม่ถึงระดับ"เข้าใจ" หรือระดับ "พัฒนาการ" ต่อไปนี้ใคร่ขอเสนอการจำแนกอิทธิพลของดาวพระเคราะห์พอเป็นสังเขป อังคาร ซึ่งมีอิทธิพลตามในเอกสารนี้คือ "กิจกรรม การกระทำ" อาจจำแนกออกไปได้เป็น ด้านคุณ กระตือรือร้น กล้าแข็ง บุกเบิก นักรบ นักสู้...................... ด้านโทษ ใจร้อน บ้าบิ่น หุนหันพลันแล่น ก่อการทะเลาะวิวาท................... พฤหัส ซึ่งมีอิทธิพลตามในเอกสารนี้คือ " โชค ความสำเร็จ " อาจจำแนกเป็น ด้านคุณ ความสมบูรณ์พูนสุข ดิ้นรนไปสู่ความไพศาล สมบัติเงินทอง ความยุติธรรม...................... ด้านโทษ เห็นแก่ตัว โลภ วัตถุนิยมเกินไป ก่อการทะเลาะวิวาท........................... |
|
บทที่ 4 | |
อนึ่งเกี่ยวกับเรื่องอิทธิพลของจักรราศีและดาวพระเคราะห์นี้ ท่านจะต้องระลึกไว้เสมอว่าย่อมมีทั้งคุณและโทษระคนกันอยู่ เพราะฉะนั้นอิทธิพลหรือความหมายโดยสังเขปเท่าที่กล่าวมานี้จึงเป็นความหมายแบบ "กลาง ๆ" ซึ่งอาจพิจารณาไปทางด้านคุณก็ได้ ทางด้านโทษก็ได้ จึงต้องมองหลายๆด้าน อย่ามองเพียงด้านเดียวเป็นอันขาด แม้พฤหัสซึ่งมีอิทธิพลคือ "โชคลาภ" และเสาร์ซึ่งมีอิทธิพล คือ "ความทุกข์" ก็ย่อมมีทั้งด้านคุณและด้านโทษ ดังเช่นกรณี พฤหัสเป็นต้น หากสถิตในตำแหน่งเสียหรือสัมพันธ์กับดาวพระเคราะห์ร้าย ๆ หรือไม่สอดคล้องก็อาจกลายเป็นมีอิทธิพลทำให้ "สูญเสียโชคลาภ" หรือ สูญเสียเงินทอง ได้ ดังเช่นมีสัมพันธ์กีบเสาร์และดาวมฤตยูเป็นต้น ซึ่งจะได้ศึกษาต่อไปข้างหน้า ส่วนอิทธิพลที่เป็นคุณของดาวเสาร์ก็คือ "ความรอบคอบ" ความหนักแน่น ความลึกซึ้ง............. " จึงขอให้ท่านเข้าใจตามนี้ด้วย |
|
บทที่ 5 | |
วันนี้เราจะมาคุยเรื่องเพศ การจำแนกรายละเอียดลงไปได้อีกเป็น ขั้ว กับ เพศ 1. ขั้ว ขั้วคือ "จุด" ที่อยู่บนยอดสุด ดังเช่นขั้นโลกเหนือคือจุดที่อยู่เหนือสุดของโลก และขั้วโลกใต้คือจุดที่อยู่ ใต้สุดของโลก เป็นต้น เมื่อพิจารณาถึงทิศเหนือใต้ ขั้วทั้ง 2 นี้ก็คือจุดที่อยู่ข้างนอกสุดของแกนเหนือใต้ ขั้วจึงหมายถึงสิ่งที่ตรงข้ามกันมากที่สุด และในขณะมีสภาพเป็นขั้วนี้จะมีความเครียดอันหนึ่งปรากฏอยู่ ซึ่งความเครียดนี้จะมีธรรมชาติก่อให้เกิดการปรองดองหรือชดเชยกัน ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดก็คือ ขั้วบวก กับ ขั้วลบของแม่เหล็ก ความเครียดที่ปรากฏระหว่างขั้วทั้ง 2 นั้นคือสนามแรงแม่เหล็ก ขั้วที่เหมือนกันจะผลักกัน ขั้วที่ต่างกันจะดูดกัน อาการดูดนี้เองที่เป็นความเครียดซึ่งมีทิศทางก่อให้เกิดการปรองดองซึ้นระหว่างขั้วบวกกับขั้วลบของแม่เหล็ก |
|
บทที่ 6 | |
ขั้วบวกจะมีขึ้นไม่ได้หากปราศจากขั้นลบ และขั้วลบก็จะมีขึ้นไม่ได้ถ้าปราศจากขั้วบวก เพราะฉะนั้นขั้วทุกขั้วจึงต้องมีขั้วที่ตรงข้ามกับตน และสัมพันธ์อันจำเป็นต่อความอยู่เป็นขั้วของตนด้วย มิฉะนั้นแล้วความเป็นขั้วก็จะไม่มีโอกาสเกิดขึ้นได้ กลางวันกลางคืน ความสูง กับความต่ำ ความตึงกับความหย่อน น้ำขึ้นกับน้ำลง ชายกับหญิง เหล่านี้ล้านเป็นคู่กันจะ แยกจากมันมิได้ เพราะถ้าหากไม่มีกลางวันก็ย้อมจะไม่มีกลางคืน ไม่มีความสูงก็จะไม่มีความต่ำ ไม่มีความตึงความหย่อนก็จะมีขึ้นไม่ได้ ฯลฯ และอาจกล่าวได้ว่า จะไม่มีปรากฏการณ์ใด ๆ ที่ปราศจากปรากฏการณ์ที่มีธรรมชาติตรงกันข้ามกัน เช่นเดียวกับเรื่องราว ประเภท ของบุคคลในวิชาประเภทวิทยา ( Typology) ซึ่งมีหลักความจริงว่า "ประเภททุกประเภทจะต้องมีประเภทที่ตรงกันข้ามกันกับตนเสมอไป" อนึ่งท่านจะต้องไม่เข้าใจเรื่องราวของ " ความตรงกันข้ามกัน" ไปในทำนองของความไม่ลงรอยหรือเป็นศัตรูกันเป็นอันขาด เพราะคนละเรื่องกัน และท่านจะไม่เข้าใจพฤติกรรมทางจิตวิทยาอันนี้ดียิ่งยิ่งขึ้น หากพิจารณาสุภาษิตเยอรมันบทนี้คือ "Gleich und Gleich gefallt sich , Gegensatze sich an" ซึ่งแปลว่า "สิ่งที่เหมือนกันนั้นถูกกันดี สิ่งที่ตรงข้ามกันนั้นเข้ากันได้ | |
บทที่ 7 | |
บทเรียนเรื่องความเป็นขั้วนี้มีประโยชน์อย่างมากในกิจกรรมของวิชาโหราศาสตร์โดยเฉพาะทางด้านการพยากรณ์ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งก็คือการพยากรณ์โดยราศีและเรือนชะตา เพราะราศีที่อยู่ตรงกันข้ามกันก็ดี เรือนที่อยู่ตรงกันข้ามกันก็ดี จะมีธรรมชาติเป็น "ขั้ว" ตรงกันข้ามกัน อันมีธรรมชาติทางจิตวิทยาเป็นไปตามหลักความจริงได้กล่าวมาแล้ว ซึ่งในระหว่างราศีหรือเรือนที่ตรงกันข้ามนี้ย่อมจะมีความเครียดชนิดหนึ่งเกิดขึ้น และความเครียดนี้จะมีธรรมชาติไปในทางก่อให้เกิดความปรองดองหรือชดเชยแก่กันและกันระหว่างราศี หรือเรือนที่ตรงกันข้ามนั้น ดังอย่างเช่น เรือนที่ 1 เจ้าชะตา ตรงกันข้ามกับเรือนที่ 7 คู่ครอง เป็นต้น หากทราบว่าเจ้าชะตาเป็นอย่างไร เรือนที่ 1 ก็อาจทราบถึง เรือนที่ 7 ของเขาได้ เช่น ถ้าเขาเป็นคนช่างพูดเราก็ทราบได้เลยว่าคู่ครองของเขาน่าจะเป็นช่างฟัง อันเป็นคุณสมบัติที่ชดเชยกันตามหลักความเป็นขั้ว ดังนี้เป็นต้น | |
บทที่ 8 | |
ท่านอย่าได้เอาเรื่องขั้วไปปนกับเรื่องของ "เพศ" ดังจะได้กล่าวในต่อไปนี้เป็นอันขาด บทเรียนเรื่องขั้ว (ซึ่งอาจเขียนแสดงเป็นขั้ว + และ ขั้ว - ) มิได้มีการพิจารณาถึงธรรมชาติทางจิตวิทยาของแต่ละขั้วแต่ประการใด แต่กล่าวถึงลักษณะหรือปรากฏการณ์ทางจิตวิทยาเป็นส่วนรวม ไม่มีการแยกในทำนองว่าขั้วบวกเป็นฝ่ายรุกหรือขั้วลบเป็นฝ่ายรักแต่ประการใดทั้งนั้น การแยกกล่าวถึงธรรมชาติทางจิตวิทยาในทำนองนี้เป็นเรื่องของบทเรียนเรื่อง "เพศ" ซึ่งเป็นคนละเรื่อกันกับ "ขั้ว" |
|
บทที่ 9 | |
เพศ (Bisexualtiat) การที่วิชาจิตวิทยามีบทเรียนสำรับการศึกษาอย่างมากมายก่ายกอง จนกลายเป็นวิชาที่มีความสำคัญยิ่งดังที่เป็นอยู่ ในขณะนี้ก็เพราะการแบ่งออกเป็น 2 เพศ ของมนุษย์เรานี่เอง ความรู้เรื่องเพศจึงเป็นความรู้ที่ศึกษากันไม่มีวันจบสิ้น วิชาโหราศาสตร์ถือว่าจักวาลเป็นสิ่งที่มีชีวิต เมื่อเป็นเช่นนี้จักวาลก็ควรมีเพศ ทั้งนี้รวมทั้งส่วนต่าง ๆ ของจักรวาลด้วยทุกส่วนไป เนื่องจากเรื่องเพศนี้เป็นเรื่องใหญ่ของบุคคลเรา ฉะนั้นก็ควรจะเป็นเรื่องสำคัญสำหรับจักรวาลนี้ด้วยตามหลักอาตมันกับปรมาตมัน ก่อนอื่นขอเริ่มต้นว่า ในโลกนี้มีเพศอยู่เพียง 2 เพศ คือ เพศชาย กับ เพศหญิง และวิชาโหราศาสตร์แนวจิตวิทยาได้กำหนดธรรมชาติของเพศ โดยอาศัยคุณสมบัติทางจิตวิทยาได้ดังนี้ เพศชาย - ทำงานจากภายในไปสู่ภายนอก - มีความดิ้นรนจิตรู้สำนึก ด้วยความปรารถนา ไปสู่ความเป็นอิสระภาพ เพศหญิง - ทำงานจากภายนอกมาสู่ภายใน - มีความดิ้นรนจิตไร้สำนึก เพราะแรงผลักดัน ไปสู่สภาพอื่น สิ่งใด ๆ ก็ตาม ซึ่งอาจมีกายหรือไม่มีกายปรากฏ หรือปรากฏการณ์ หรือพฤติกรรมก็ดี หากมีธรรมชาติโน้มเอียงไปทางคุณสมบัติทางจิตวิทยาของเพศใดมากกว่า สิ่ง ๆ นี้นก็จะถูกจัดว่าเป็นเพศนั้น ๆ |
|
บทที่ 10 | |
ในบทที่ผ่านมาเรากล่าวถึง ขั้ว ซึ่งท่านคงทราบถึงธรรมชาติของความเป็นขั้วกันดีแล้วว่าเกิดขึ้นได้อย่างไรและอะไรที่แฝงอยู่ระหว่างความเป็นขั้นนั้น อย่างไรก็ดี เมื่อมีการพิจารณาทางด้ายจิตวิทยา "ขั้น" ก็จะปรากฏเป็น "เพศ" ขึ้นทันที และมีวิธีการวินิจฉัยไปอีกรูปแบบหนึ่ง | |
บทที่ 11 | |
การศึกษาเรื่องเพศจะมีผลดียิ่งขึ้นหากนำเอาความรู้เรื่องพันธุ์กรรมมาใช้ประกอบ บทเรียนเรื่องพันธุ์กรรมที่ว่าด้วยการเกิดของชีวิตใหม่สอนให้เรารู้ว่า การเกิดของชีวิตใหม่กำหนดโดยเซลล์อสุจิของบิดากับเซลล์ไข่ของมารดา มนุษย์จึงเกิดจากการรวมตัวเข้าด้วยกันของความมี สภาพเป็นขั้วที่ตรงกันข้ามกันอันหนึ่ง หรือก็คือจากการรวมตัวเข้าด้วยกันของความเป็นชายกับความเป็นหญิง ฉะนั้นชีวิตใหม่ที่เกิดมานี้จึงย่อมจะมีเพศทั้ง 2 รมกันอยู่ในตัว บทเรียนเรื่องพันธุ์กรรมกล่าวว่า บุตรคือชีวิตใหม่ชีวิตหนึ่งซึ่งมาจากพ่อแม่ ดังนั้นเพศชายหรือเพศหญิงก็ดีย่อมจะมีองค์ประกอบ ทางพันธุ์กรรมของความเป็นชาย พ่อ และความเป็น แม่ รวมกันอยู่ภายในตัว และอาจสรุปได้ในขั้วนี้ว่า ในโลกนี้ย่อมไม่มีเพศชายชนิด 100 เปอร์เซ็นต์ หรือหญิงชนิด 100 เปอร์เซ็นต์ จากการพิจารณาทางด้านจิตวิทยาพบว่า เพศชายนั้นบางครั้งก็มีลักษณะของความเป็นหญิงอยู่เป็นจำนวนมาก และหญิงนั้นบางครั้งก็มีลักษณะของความเป็นชายอยู่ไม่น้อยเช่นเดียวกัน จึงเห็นได้ว่า อันลักษณะของคนนั้นมิได้มีสัมพันธ์กับสภาพทางกายวิภาคแต่ประการใด หากขึ้นอยู่กับส่วนผสมขององค์ประกอบทางจิตวิทยาของเพศชายกับเพศหญิงมากกว่า เพราะเหตุนี้เอง "ไม่มีหนทางที่เราจะทราบเพศของบุคคลให้แน่นอนได้ โดยวิธีพิจารณาจากลายมือที่เขาเขียน" |
|
บทที่ 12 | |
อย่างไรก็ดี จากการอธิบายมาทั้งหมดข้างต้นนี้ มิได้หมาความว่าลักษณะ (หรือพฤติกรรม) ที่เป็นหญิงโดยแท้จริง และที่เป็นชายโดยแท้จริง จะไม่มีในโลกแต่ประการใด ไม่ กล่าวคือ ลักษณะ "เชิงรุก" ย่อมเป็นลักษณะของเพศชายโดยแท้จริง ในทำนองเดียวกันกับลักษณะ "เชิงรับ" ก็เป็นลักษณะของเพศหญิงโดยแท้จริงด้วย ส่วนในกรณีว่า ความแรงของ"เชิงรุก" จะข่ม "เชิงรับ" หรือความแรงของ "เชิงรับ" จะข่ม "เชิงรุก" ได้หรือไม่เพียงใดนั้นย่อมขึ้นอยู่กับส่วนผสมขององค์ประกอบเพศชายกับเพศหญิงที่มีอยู่เป็นสำคัญ |
|
บทที่ 13 | |
เพื่อความสะดวกในการพิจารณาเกี่ยวกับเรื่องเพศ (ดังเช่นต้องการวินิจฉัยว่า สิ่ง ลักษณะหรือพฤติกรรมนั้น ๆ ควรจะเป็นเพศอะไร เป็นต้น ก็เอาปฏิบัติได้โดยง่ายโดยวิธีการเทียบเคียงกับรายการข้างล่างนี้ โน้มเอียงไปทางเพศใดก็วินิจฉัยว่าเป็นเพศนั้น และโดยนัยกลับกัน หากต้องการทราบว่าสิ่งหรือลักษณะหรือพฤติกรรม ซึ่งจากการวินิจฉัยโดยวิธีการทางโหราศาสตร์พบว่าเป็นเพศใด เราก็อาจทราบลักษณะ พฤติกรรม หรือแม้ชนิดของสิ่งนั้นได้ โดยอาศัยรายการข้างล่างนี้เป็นแบบฉบับ) ใคร่ขอเสนอรายการของสิ่ง ลักษณะหรือพฤติกรรม ซึ่งจัดว่าเป็นธรรมชาติของเพศชายและเพศหญิงอันแท้จริง(หรือตามแบบ) เพื่อใช้ในการอ้างอิงดังต่อไปนี้ | |
บทที่14 | |
เพศชาย เพศหญิง ชาย หญิง บิดา มารดา รู้สึกนึก ไร้สำนึก สว่าง มืด กลางวัน กลางคืน จิต,วิญญาณ ใจ,อารมณ์ ความต้องการ แรงผลักดัน เชิงรุก เชิงรับ ปฏิบัติการ ปรากฏการณ์ ให้กำหนด ตั้งครรภ์ ส่ง รับ แสดงความรู้สึก รับความรู้สึก แสดงออก ไม่แสดงออก ดึงดัน เสนอสนอง ต่อสู้ ยอมแพ้ การเปลี่ยนแปลงไป การเอาไว้ ความร้อน ความชื้น แรงดัน แรงดูด |
|
บทที่ 15 | |
ความหมายต่าง ๆ เหล่านี้อาจขยายความออกไปได้อีกโดยไม่จำกัด ขณะเดียวกันก็คือว่าเป็นธรรมชาติของเพศชายและเพศหญิงอันแท้จริง เพราะเป็นลักษณะของปฏิบัติตนหรือการวางตนของบุคคลเพศชายและบุคคลเพศหญิงที่แท้จริงและของสิ่งที่ตรงกัน (หรือเทียบกันได้) ลักษณะ อากัปกิริยาของเพศทั้งหลายเหล่านี้จะเป็นสิ่งที่ส่อแสดงถึงความสัมพันธ์ในทางกามารมณ์ของเพศนั้นอย่างชัดเจนที่สุด นักจิตวิทยาผู้หนึ่ง ได้กล่าวว่า "ความเป็นเพศชายที่แท้จริง และความเป็นเพศหญิงที่แท้จริงก็ดี ความจริงแล้วแทบจะกล่าวได้เลยทีเดียวว่าเป็นประเภทในทางกามารมณ์ ซึ่งจะแสดงถึงความเครียดที่เกิดขึ้นของเพศนั้นอีนมีต่อเพศตรงกันข้ามอย่างชัดเจนและอย่างแท้จริงที่สุด" | |
บทที่ 16 | |
โดยปกติแล้วบุคคลเพศชายก็ควรจะมีลักษณะของความเป็นเพศชายดังเช่น มีความต้องการ เชิงรุก สามารถที่จะให้กำเนิดได้ ดึงดัน ฯลฯ และบุคคลเพศหญิงก็ควรจะมีลักษณะของความเป็นเพศหญิงกล่าวคือ มีแรงผลักดัน เชิงรับ สามารถที่จะตั้งครรภ์ได้ เสนอสนอง ฯลฯ อย่างไรก็ดี ได้กล่าวมาแล้วว่า ในโลกนี้ไม่มีเพศแท้ชิด 100 เปอร์เซ็นต์ ฉะนั้นคุณสมบัติของเพศของบุคคลจึงถูกปรุงแต่งโดยคุณสมบัติของเพศตรงกันข้ามกับตนที่ตนมีอยู่เสมอไป ตัวอย่างเช่นการมีคุณสมบัติ "เชิงรุก" ของเพศชาย เป็นต้น คุณสมบัติเชิงรุกนี้จะไม่เป็นคุณสมบัติที่บริสุทธิ์ แต่จะถูกปรุงแต่งด้วยคุณสมบัติ "เชิงรับ" อันเป็นคุณสมบัติเพศหญิงซึ่งมีอยู่ในตัวของเขา บุคคลเพศหญิงก็เช่นเดียวกันคุณสมบัติ "เชิงรับ" จะถูกปรุงแต่งด้วยคุณสมบัติ "เชิงรับ" ของเพศชายที่ตนมีอยู่ | |
บทที่ 17 | |
อนึ่งการศึกษาจะต้องไม่เข้าใจผิดว่า บุคคลเพศชายที่มีคุณสมบัติของเพศหญิงอยู่ในตัวมาก ๆ นั้นจะกลายเป็นบุคคลเพศหญิงไป เป็นอันขาด สำหรับในกรณีเช่นนี้เขาควรจะมีสภาพเป็น "ไม่เป็นชาย " หรือ เหมือนเพศหญิง เท่านั้น ในทำนองเดียวกันกับบุคคลเพศหญิงที่มีคุณสมบัติของเพศชายในตัวมาก ๆ ก็ควรมีสภาพเป็น "ไม่เป็นหญิง" หรือ "เหมือนเพศชาย" เรื่องราวของเพศนี้ยังมีอีกมาก เท่าที่กล่าวมาแล้วทั้งหมดนี้นับว่าครอบคลุมประเด็นสำคัญ ฯ ไว้มากพอสมควร และคิดว่าเพียงพอแล้วที่ท่านจะใช้เป็นพื้นฐานในการศึกษาในขั้นต่อไปได้ ทั้งนี้รวมทั้งการศึกษาค้นคว้ารายละเอียดซึ่งเกี่ยวกับเรื่องเพศอื่น ๆด้วย จิตวิเคราะห์ของ ซีกมุนท์ หรอยท์ (Siegmund Frend ) เป็นตำราที่ดีที่สุดสำหรับการศึกษาถึงความเร้นลับในเรื่องเพศ อย่างไรก็ดี เนื่องจากในการพยากรณ์ทางโหราศาสตร์นี้ ปัญหาสำคัญซึ่งนักพยากรณ์มักประสบเนื่อง ๆ คือ ปัญหาเรื่องครอบครัว โดยเฉพาะเรื่องคู่ครองอันเป็นปัญหาที่พาดพิงมาถึงความรู้เพศซึ่งเรากำลังศึกษากันอยู่นี้ จึ่งใคร่อธิบายหลักทางด้านจิตวิทยาว่า ด้วยการเลือกคู่เอาไว้พอเป็นสังเขป ซึ่งจะเป็นประโยชน์แก่นักพยากรณ์โดยทั่วไป โดยเฉพาะนักพยากรณ์โดย วิชาโหราศาสตร์ดังต่อไปนี้ |
|
บทที่ 18 | |
เกี่ยวกับสถานการณ์ทางด้านจิตวิทยาที่เกี่ยวกับเพศ ในปัจจุบันนี้เราได้กำหนดไว้ว่าโดยปกติแล้วบุคคลเพศหญิงจะรู้สำนึกในองค์ประกอบเพศชายและไร้สำนึกในองค์ประกอบเพศหญิงและบุคคลเพศหญิงจะรู้สึกในองค์ประกอบเพศหญิงไร้สำนึกในองค์ประกอบของเพศชาย เมื่อเราคำนึงลักษณะหรือพฤติกรรมของเพศแท้งดังกล่าวมาแล้วข้างต้น กล่าวคือการมีสภาพรู้สึกนึกเป็นเพศชายแท้และการมีสภาพไร้สำนึกเป็นเพศหญิงแท้ก็จะต้องไม่เข้าใจเลยว่าสภาพรู้สำนึกของบุคคลเพศหญิง (จากองค์ประกอบเพศชายที่มีอยู่) นั้นเมือนกันกับสภาพรู้สำนึกของบุคคลเพศชายเป็นอันขาด แต่จะต้องเข้าใจว่าเป็นการรู้สึกนึกในความเป็นเพศหญิงมากขึ้น ส่วนบุคคลเพศชายก็จะสำนึกในความเป็นเพศชายมากขึ้น ด้วยเหตุนี้บุคคลเพศหญิงจึงรู้สำนึกในสิ่งที่บุคคลเพศชายไร้สำนึก ฉะนั้นบุคคลเพศหญิงจึงสามารถเป็นผู้นำของบุคคลเพศชายทางด้านของจิตใจ ความรู้สึก แรงผลักดัน ฯลฯ ซึ่งเป็นด้านแห่งความมืดมนของจิตไร้สำนึกของเขา และในทางตรงกันข้าม กล่าวคือบุคคลเพศหญิงจะอยู่ในสภาพไร้สำนึก (หรือไม่รู้เรื่อง ) ในสิ่งที่บุคคลเพศชายรู้สึกนึก ฉะนั้นบุคคลเพศชายจึงเป็นผู้นำทางด้านจิตหรือวิญญาณ (ปัญญา) ความต้องการ ปฏิบัติการ ฯลฯ อันเป็นสิ่งที่มืดมนอยู่ในอาการไร้สำนึกของบุคคลเพศหญิง |
|
บทที่ 19 | |
การดูเรื่องของหาย
Uranian mo บุคคลเพศหญิงดูตามราศี no บุคคลใกล้ชิดดูตามราศี as ลืมวางไว้หาไม่เจอในที่มีคนเดินไปมา mc วางลืมไว้ในที่ส่วนตัว ar ตกหายในที่มีคนเดินผ่านเป็นจำนวนมาก ma บุคคลเพศชายดูตามราศี
cu คนภายในครอบครัวเอาไป sa อยู่ในกองขยะ หรือสิ่งที่เป็นของแข็ง ตกตามซอกมุม พื้นดิน บริเวณบ้าน หรือตัวอาคาร ur อยู่ในที่มีการมองเห็นได้ง่ายส่วนมากจะไม่ค่อยได้คืน ne อยู่ในห้องน้ำ หรือจมน้ำของเหลว หรือมีสิ่งที่มาทับไม่ให้เห็นวัตถุที่หายไปได้
ju อยู่บนหิ้งพระ
หรือใต้พระ หรือห้องหนังสือ ส่วนมากจะไม่หายแต่ได้คืน ให้ดูจังหวะในการที่ของหายถ้าหายข้างแรมมักจะไม่ได้คืนถ้าข้างขึ้นมักเจอและได้คืน ดูจากดวงของเจ้าชะตาว่ามีเสียของรักหรือไม่ ถ้ามีคงไม่ต้องไปหาคงไม่เจอ ดูจากดวงรายปีด้วยว่าปีนี้เค้ามีของหายหรือไม่ดวงดีหรือไม่ดี จะมีดีอยู่ด้วยก็อาจได้คืนกลับมา ช่วงเวลาหายก็สำคัญด้วยต้องจำให้ได้ว่าหายในช่วงเวลาไหนไม่แล้วเราจะหาไม่ได้เลย เจ้าชะตาต้องจดจำเวลาหรือจำเวลาที่หายได้อย่างแม่นยำหน่อยจะได้ช่วยเราได้มากบทที่ 20 15/04/2557 Local space Astrology ![]() แบบสากล ![]() แบบสากล ผสมกับดาวยุค กับดาวปี เป็นวิชาหนึ่งที่แตกออกมาจากการดูหวงจุ้ยของจีน แต่เราเอามาประยุคให้มีการผสมประสานกันมีความกลมกลืนซึ่งกันและกัน โดยให้หลักทางภูมิศาสตร์ของจีนเข้าช่วย ส่วนทิศแต่งของดาวของจีนเราจะไม่ใช่แต่มาใช้ของยูเรเนียนแทนจะมีความแน่นอนมากกว่า แต่หลักทางด้านทิศกระแสต่าง ๆ เราคงต้องยึดหลักของจีนมาใช้ก่อนเพราะเป็นเหตุเป็นผลดีใช้ร่วมกับวิชานี้ได้อย่างดีทีเดียว วิชานี้เป็นวิชาใหม่ แต่ข้าพเจ้าได้ทดสอบการทำงานของดาวมาแล้วใช้ได้ระยะเวลา5 ปีที่ผ่านมาได้ทดสอบไปก็ถือว่าดาวต่าง ๆ ที่นำมาใช้ในการวางสิ่งของต่าง ๆ ลงตัวได้ดีทีเดียว แต่เหนือสิ่งอื่นใดคือการทำความดี ของเจ้าชะตาด้วย และดวงชะตาระหว่างที่เราดำเนินการจัดวางด้วยถือเป็นสำคัญถ้าดวง ณ เวลานั้นเจ้าชะตาไม่เหมาะสมนักสิ่งที่เราจัดวางให้ก็ให้ผลไม่เต็มที่นัก มันจะทำงานเพียง ครึ่งเดียวเท่านั้น ถ้าเราพูดถึงพลังงานนั้นมีหลายรูปแบบที่มาจากพื้นโลกเราคือมาจากดินน้ำลมไฟ และพลังจากนอกโลกเป็นหลักคือดาวที่โคจรอยู่บนท้องฟ้าก็มีส่วนในชีวิตของเจ้าชะตาด้วยเช่นกัน พลังงานพวกนี้จะมองไม่เห็นแต่อาจสัมผัสเค้าได้ เช่นลม หรือพลังงานไฟฟ้า ต่าง ๆ ดังนั้นวิชานี้จะเกี่ยวข้องกับเรื่องพลังงานด้านดีและด้านร้ายเป็นสำคัญ เราควรจัดที่อยู่ให้ได้พลังพลังงานด้านดี ไว้ เราก็จะอยู่แบบสบายไม่มีปัญหาอะไรเกิดขึ้นทิศทางของพลังงานก็สำคัญด้วย เพราะแกนแม่เหล็กโลกถือว่าสำคัญ คือทิศเหนือใต้เป็นหลักในการจัดสถานที่ ในใจกลางโลกก็มีพลังงานออกมาบนผิวโลกเป็นสนามแม่เหล็กไฟฟ้าที่เรามองไม่เห็น ดังนั้นเราควรยืนอยู่บนแกนไม่เหล็กโลกก็จะได้รับพลังงานตัวนี้อย่างเต็มที่กว่าทิศอื่นๆ ดาวที่เราเอามาใช้ก็เป็นดาวเคราะห์ที่โคจรอยู่บนท้องฟ้าเป็นส่วนใหญ่ เราจะไม่ใช้ดาวฤกษ์เหมือนจีน ดาวเคราะห์ให้ผลแรงกว่าเพราะอยู่ใกล้โลก ดังนั้นในเมืองดาวต่าง มีอิทธิพลต่อตัวเราก็มีผลต่อสถานที่อยู่อาศัยของเราไปด้วยโดยไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมเพราะคนเราต้องอาศัยอยู่ในสถานที่และสถานที่ก็ถูกกำหนดจากดวงดาวอีกที ถ้าเราจัดแต่ให้เหมาะสมก็จะส่งคุณแก่ผู้อยู่ วิชานี้เป็นวิชาใหม่แต่ก็ไม่แพ้วิชาเก่าเพราะเรานำสิ่งดี ๆของแต่และศาสตร์มา นับว่าเป็นสิ่งที่ต่อไปต้องใช้กันมากเพราะดูง่ายจัดง่ายไม่ยุ่งยากเหมือนของจีน เพียงแต่ดูความหมายดาวแต่ละดวงและทิศให้ได้ก็สามารถจัดสถานที่ได้ระดับหนึ่งแล การโคจรของดาวเคราะห์ในระบบสุริยะจักรวาลและอายุของดาวแต่ละยุค ศุกร์ ใช้เวลา 1 เดือนต่อ 1 ราศี อังคาร ใช้เวลา 1 เดือนครึ่ง ต่อ 1 ราศี พฤหัส ใช้เวลา 1 ปี ต่อ 1 ราศี เสาร์ ใช้เวลา 2 ปีครึ่งต่อ 1 ราศี มฤตยู ใช้เวลา 7 ปีต่อ 1 ราศี เนปจูน ใช้เวลา 14 ปี ต่อ 1 ราศี พลูโต ใช้เวลา 30 ปีต่อ 1 ราศี
ดาวทิพย์จะโคจรช้ามากกว่าดาวในระบบสุริยะ HA ฮาเดส = ดาวเสาร์ โคจรรอบดวงอาทิตย์ใช้เวลา 360 ปี ZE เซอุส = ดาวอังคาร โคจรรอบดวงอาทิตย์ใช้เวลา 455 ปี KR โครโนส = อาทิตย์ โคจรรอบดวงอาทิตย์ใช้เวลา 521 ปี AP อาพอลลอน = พฤหัส โคจรรอบดวงอาทิตย์ใช้เวลา 567 ปีAD แฮดมตอส = เสาร์ โคจรรอบดวงอาทิตย์ใช้เวลา 624 ปีVU วัลคานุส = อังคาร โคจรรอบดวงอาทิตย์ใช้เวลา 663 ปีPO โพไซดอน=เนปจูน โคจรรอบดวงอาทิตย์ใช้เวลา 740 ปี
การจัดเราจะใช้ดาวพื้นดวงเป็นหลักมากกว่าดาวจรเพราะคงที่มาตั้งแต่เราเกิด
แต่ถ้าใช้ดาวพื้นดวงไม่ได้ถึงจะมาใช้ดาวจรแต่ต้องคอยเปลี่ยนตำแหน่ง
ตามการโคจรของมันด้วย
ดาวพื้นดวงถึงแม้จะมีการโคจรไปแล้วแต่ถือว่าเป็นดวงกำเนิดย่อมส่งผลเหมือนกับดาวจรเช่นกัน
เพราะจะบ่งบอกถึงกรรมเก่า ที่เราทำมา
ท่านต้องเข้าใจเรื่องดาวพื้นดวงให้เข้าใจแล้วท่านจะวางตำแหน่งดาวได้แม่นยำ
การที่เราเกิดมาในโลกใบนี้ตั้งแต่วันเกิดเราก็จะมีพื้นดวงกำหนดชะตาชีวิตของเรามาเลยไม่มีทางแก้ไขอะไรได้
มันจะอยู่กับเราจนวันตาย
และตายไปแล้วก็สามารถใช้ดูต่อไปได้อีกเช่นกันว่าหลุมศพที่เรานอนอยู่ควรวางในทิศไหนจะส่งกระแสมาถึงลูกหลานต่อไป
ซึ่งดาวพื้นดวงเราของเจ้าชะตาที่เสียชีวิตไปแล้วก็นำมาจัดวางสุสานได้อีกด้วย
ซึ่งเราจะคุยกันในคราวหน้า
|
|
![]() การตรวจดวงชะตาที่ไม่มีวันเดือนปี ทำได้อย่างไร ในกรณีนี้จะพบเยอะกับคนที่เกิดสมัยก่อน จำวันเดือนปีเกิดไม่ได้จำได้แต่ เกิดปีอะไร เช่นเกิดมี ฉลู เป็นต้น อย่างน้อยเค้าก็ยังทราบอยู่บ้าง เราก็สามารถเช็คได้แล้ว ตัวอย่างนี้ ถ้าเจ้าชะตาเกิดปี ฉลู รอบไหน เราก็เอาปีไปลบกับ พ.ศ. ปัจจุบัน ก็จะได้ อายุจริงขึ้นมา เช่นรอบปีฉลูนี้ 70 กว่า ก็ได้ปี 2487 เป็นพ.ศ.เกิดได้ แล้วเราก็มาตั้งค่าอาทิตย์กลางๆ คือ เดือนมิถุนายน ไว้ แล้วเข้าที่ เมนู Planet ไปเลือกการแสดงดาว ว่าจะเอาดาวอะไรมาแสดงบ้าง ในกรณีนี้เราเอาดาวทิพย์เป็นหลักเพราะมันเดินช้ามากปีหนึ่งแถบจะไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงมากนัก แล้วไปเลือกดาวเคราะห์ที่เดินช้าๆ เช่น ne sa ju ur ยังพอไหว ตอนนี้ต้องอาศัยความชำนาญนิดหน่อยแล้วในการคำนวณในสมองหน่อยว่าดาวพวกนี้มีการเดินช้าเดินเร็วมากน้อยเพียงใดในแต่ละปี ต้องอาศัยความชำนาญ บวกกับประสบการณ์ นิด ท่านก็สามารถได้ดวงขึ้นมาจากไม่มีอะไรเลย ทำพยากรณ์ ได้ ให้ความแหม่นยำ 70 % เราจะดูจากโค้งฯ เป็นหลักว่าโค้งดาวทิพย์มันทำงานไปถึงอะไรบ้าง แค่นี้เราก็เห็นความแตกต่างของคนใน ปีนั้นๆได้แล้วว่าโดนโค้งฯ อะไรเข้าไปบ้าง ทางที่ดีก็ตั้งจุดสะท้อนเข้าไปอีกหน่อยก็จะเห็นอะไรมากขึ้น สรุปว่าเราสามารถดูดวงคนที่ไม่มีอะไรเลยได้ จากโค้งรายปี ซึ่งมีความแม่นยำพอใช้ได้ทีเทียว ถ้าจะเอาศูนย์รังสี หรือจุดอิทธิพลเข้ามาช่วย เราก็เลือกเฉพาะจุดที่มีดาวทิพย์เป็นหลักไว้ จะดีกว่า ในกรณีนี้เราไม่ต้องใช้ดาวเดินเร็วมาเลยก็สมารถดูได้เช่นกัน พวกเดินเร็ว ma, me ,ve, mo เป็นต้น ไม่ต้องใช้เพราะไม่ทราบเวลาที่แท้จริง .............. 23/04/2557 บทที่ 23 Steve Jobs เกิด 24/02/1955 เสียชีวิต 5 ตุลาคม ค.ศ. 2011 หลังจากที่แอปเปิล ประกาศเปิดตัว ไอโฟน 4เอส ได้เพียงแค่วันเดียว แอปเปิลคอมพิวเตอร์ประกาศว่า สตีฟ จ็อบส์ เสียชีวิตอย่างสงบแล้วจากโรคมะเร็งตับอ่อนรุมเร้ามาตั้งแต่กลางปี ค.ศ. 2004 ด้วยวัยเพียง 56 ปี โดยในว้นที่ 19 ตุลาคม ค.ศ. 2011 แอปเปิลได้จัดงานรำลึกถึงสตีฟ จอบส์ขึ้นมา โดยมีทิม คุก ถึงชีวิตของจอบส์ในแง่ต่างๆ และเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองให้กับความสำเร็จที่ผ่านๆ มาของจอบส์ ณ Apple Campus เมืองคูเปอร์ทิโน รัฐแคลิฟอร์เนีย ![]() Medical Astrology |
|
ถ้าแปลกันแบบง่ายๆคือโหราศาสตร์การแพทย์ เรื่องนี้มีกันมานานแล้ว โปรแกรม
Apollon 15 version 8.1
ได้มีโปรแกรมในการค้นหาโรคต่างๆ ที่เกี่ยวกับตัวเจ้าชะตาขึ้นมา มีทั้งหมด
360 โรค จุด และจุดอิทธิพล ศูนย์รังสี เกี่ยวกับโรคอีก 250 จุด
ที่เป็นโรคตลาดในขณะนี้
การทำโปรแกรมนี้ขึ้นมาก็เพื่อนให้เราทราบและป้องกันตัวไว้ก่อนที่จะเกิดโรคที่เสี่ยงในโปรแกรมบอกไว้
ระยะเสี่ยง เราใช้วังกะ 0-1 วังกะ แต่ถ้าระวัง 2-3 วังกะ
ต้องทำความเข้าใจให้ดีในการใช้ และมุม 22.50
ก็จะบอกเรื่องความแรงของโรคเสียง
โปรแกรมนี้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อนค้นปัจจัยต่างๆ ที่เรามองไม่เห็นมัน
ในมุมทุกมุมที่เราต้องการหา มันคือส่วนเกินของสิ่งที่เราต้องการหา
สามารถเลือกมุมได้ ทุกมุมที่ใช้ เลือก ศูนย์รังสี หรือจุดอิทธิพล
และมีฟังชั่น
Find
ในการค้นหาคำที่เราต้องการหา ยกตัวอย่าง วันนี้ จะไปงานศพ
เวลาโปรแกรมทำงานมันก็เริ่มขวาด ทุกอย่างมาให้หมด มันจะเยอะจัด
เราต้องการทราบเรื่องงานศพ เราก็ ป้อนคำว่าศพเข้าไป
มันก็จะออกจุดอิทธิพลเกียวกับศพออกมาให้ได้เลยแล้วก็อ่านไปแปลไป ได้
โปรแกรมตัวนี้เหมาะสำหรับคนที่เริ่มเล่นโหราศาสตร์ใหม่
หรือไม่ค่อยมีความรู้มากนัก
แต่มีความเข้าใจเรื่องดวงดาวบ้างก็สามารถทำนายได้เลย
แต่คำแปลต้องมีการอุปมา อีกที เพราะมีค่าคำพูดกลางๆ ออกมาต้องตีความอีกที
เพราะมันคือคอมพิวเตอร์ ไม่ใช่คน ไม่มีสมอง มีแต่ฐานข้อมูล
เราต้องแปลมันออกมาอีกที่ ไม่ต้องตกงานแน่ ![]() ![]() .................. 23/04/2557 บทที่ 26 จานหมุนไม่จำกัด ![]() ในโปรแกรม Apollon 15 Version 8.1 นี้ได้ปรับปรุงจานให้มีสีเด่นขึ้นให้สามารถมองเห็นได้ชัดเจน ในกรณีที่ท่าน ต้องการเพิ่มจานขึ้นมา หรือสามารถนำดวงหลายๆคนมาจับคู่กันได้ การสร้างวงจานไม่จำกัด อยู่ที่จอของท่านจะรับได้ เมนูนี้เรียกว่า Transit Snapshot คือการถ่ายรูปวงที่เราสร้างไว้ใน Transit แล้วคลิกขวา ไปที่เมนู นี้ แล้วกดไป มันก็จะสร้าง จานให้เป็นวงๆต่างสีกัน ถ้าเราเปลี่ยน วง Transit อีก แล้วกด มันก็จะจำค่าใหม่แล้วนำเอามา ใส่ลงไปใน Snapshot ต่อๆกันไป ทำไมต้องมีโปรแกรมนี้ เพราะบางที่เราต้องการกระทบดวงคนหลายๆคนในเวลาเดียวกัน เราก็สามารถสร้างความสัมพันธ์ต่อเนื่อง ของวงแต่ละวงว่ามีดาวมีการสัมพันธ์อะไรบ้างเช่น ดู พฤหัส คนที่ 1 2 3 4 5 6 จะมาสัมพันธ์กันในรูปแบบไหนของตัวเรา และพฤหัส ของใครไปสัมพันธฺกับใครบ้าง อันนี้ต้องใช้ความชำนาญหน่อย ดูแล้วอาจ งง ก็ได้ถ้าพื้นฐานไม่ดีพอ การดูต้องดูดาวสมพันธ์ในแต่ละวง ถึงกันหรือไม่ และมาถึงเจ้าชะตาวงในอย่างไร ใช้ในกรณีว่าเรารับพนักงานมา 10 คนเราจะดูว่าใน 10 คนมีดาวอะไรสัมพันธฺกันอย่างไร จะได้จัดระเบียบการทำงานให้เหมาะกับแต่ละคนให้เหมาะสมกัน เหมือน CP เค้าจะเช็คดวงพนักงานทุกคนที่เข้ามาทำงานว่าเหมาะกับ บริษัทหรือไม่ ไม่ใช่รับมาไม่กี่เดือนก็ออกไป ตอนนี้ได้นำมาใช้ให้บริษัทแห่งหนึ่งในจังหวัดกระบี่ เวลาเค้ารับพนักงานเข้ามาก็จะโทรมาถาม ก่อนทุกครั้งเพราะงานเป็นระบบที่เกี่ยวกับความลับลูกค้าอย่างมากจะรับใครมาต้อเช็คทุกอย่างเพื่อความปอลดภัยของข้อมูลบริษัท ก็ได้ผลดี ดีกว่ารับมาดูเพียงใบสมัครและความสามารถ แต่ไม่ทราบระบบภายในตัวของพนักงานว่าจะมาแบบไหนอยู่เพื่อนเอาความรู้แล้วออกไป ก็จะเสียเวลาในการสอนอีก เค้าต้องการคนที่อยู่ทำงานนานๆ ........................ 24/04/2557 บทที่ 27 Su/Me : กายสังขารในอาการเคลื่อนไหว สังขารที่เยาว์วัย ศรีษะ ประสาท ความรู้สำนึกความคิดโดยทั่วไป วัยเด็ก การเดินทางไปสู่ภพหน้า ตามดวงแล้ว su/me น่าจะเป็นเรื่องดีๆๆเกี่ยวกับการพูดการติดต่อ การเดินทางไกล ของเจ้าชะตา แต่สรุปว่าตั้งแต่ดูดวงมาไปเจอจุดนี้เข้าบังเอิญมันมีความลับอะไรซ่อมไว้ใน ศูนย์รังสีนี้ ถ้ามันจะเข้าดวง solar Return คือ อาทิตย์จรรายปี เมื่อไรต้องเตรียมตัวระวังการจากไปของเจ้าชะตา หรือคนใกล้ชิด ส่วนมากก็จะเป็นตัวเจ้าชะตา นานๆทีถึงจะทับในดวงรายปี ใครๆก็คิดว่าดี แต่มันคือการเดินทางไกล ของชีวิตคนเราไปสู่โลกใหม่ การทำนายเราต้องหัดสังเกต ให้ดีๆๆว่ามีในดวงรายปีไหม และดูโค้งร้ายๆประกอบด้วยว่ามันมาไปเช่น sa , ne, ha ,ad ถ้ามาก็ให้ระวัง ส่วนมากอาการหนัก มีตัวอย่างจะเอามาแสดงให้ดู คนเกิดเกิด 28/04/2522 เป็นมะเร็งระยะที่ 4 กำลังรอเดินทางไปไกล จุด ma+sa-no ก็มา เมื่อมาคุยเรื่องการเดินทางไกลของตัวเรานี้ทุกคนต้องเดินทางไกลกันหมด คือไปแล้วไม่ได้กลับมาอีก ไปแล้วไปเลย เหมือนโครงการเดินทางดาวอังคาร นาซาจัด คือตีตั๋วไปเที่ยวเดียวไปไม่ต้องกับมาอีกเพราะระยะทางไปกับมันไกลมาก ไปแล้วไปเลย แต่ MC เรายังอยู่ Su คือกาย กลายเป็นธาตุดิน MC เป็นลม เดินทางไปไกลแสนไกล แล้วก็กลับมาเกิดใหม่อีกครั้ง เป็นดิน น้ำ ลม ไฟ ธาตุ 4 อีก การตายชาวอินดู เค้าต้องเผ่ากัน เพราะต้องการทำลายให้เป็นดินเหมือนเดิม แล้วเอาไปทิ้งในน้ำคงคา ความหายคือเกิดจากธรรมชาติ ก็ตายแบบธรรมชาติ ดังนั้นคนเราเกิดมาไม่ควรยึดติดอะไรให้มากนัก ตายไปก็เอาอะไรไปไม่ได้ ปล่อยๆมันบ้าง สร้างความดีไว้ดีกว่า ตอนเราตายไปก็ยังมีคนพูดถึงเราไม่ใช่มานั่งด่าเรา ให้ท่านตัวเองซิว่าวันนี้เราทำอะไรที่เป็นประโยชน์แก่มวลชนกันหรือยังไม่ใช่อยู่แบบหายใจทิ้งไปวันๆๆ ไม่ได้ทำอะไรให้โลกเลย เราอยู่บนโลก “AR” เราก็ทำให้ AR ดีหน่อย สรุปว่าวันนี้เรามาพูดเรื่อง su/me กัน การเดินทางไกล แสนไกล มันจะมากับ จุด ma+sa-no จุดถึงแก่กรรมด้วย สองจุดนี้เราก็สามารถเช็คได้แล้ว สิ่งที่ควรเช็คในโปรแกรมคือ เรา ค้นหาว่าดวง solar return ปีไหนมี me มาทับบ้างก็ให้ระวังปีนั้น ![]()
|
[
[